เตหะราน (Tehran) คือเมืองหลวงของประเทศอิหร่าน อดีตอาณาจักรเปอร์เซียที่เคยครองโลกในยุคสมัยหนึ่ง กรุงเตหะรานได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของประเทศแถบตะวันออกกลาง ที่มีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ การเมือง และวัฒนธรรม แม้ว่าประเทศนี้อาจจะมีความขัดแย้งกับชาติตะวันตกมาอย่างยาวนาน แต่ในแง่ของการท่องเที่ยว เตหะรานเป็นเมืองหลวงที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะเรื่องราวของวัฒนธรรมเปอร์เซีย ปราสาทราชวังต่างๆ ที่ยังคงความสวยงามอยู่ หากใครหลงรักในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ การมาเตหะรานอาจทำให้คุณถึงเข้าถึงเรื่องราวเหล่านี้ได้มากขึ้น
ในภาษาเปอร์เซีย คำว่า ‘เตหะราน’ มีความหมายว่าอ้อมกอดอันอบอุ่น ซึ่งน่าจะเป็นจริงตามความหมาย เพราะเตหะรานมีประชากรมากถึง 15 ล้านคน โดยประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม นิกายชีอะห์ และเป็นประเทศมุสลิมที่เคร่งศาสนา ผู้หญิงจะใส่ผ้าคลุมฮิญาบ หรือบางครอบครัวถ้าเคร่งมากก็จะสวมนิกอบ หรือชุดคลุมสีดำที่ปกปิดทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั่วไป มาเตหะราน แลนด์มาร์กสำคัญที่ควรไปเยือนก็เช่น หอคอยมิลาด หอคอยที่สูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก การขึ้นไปบนหอคอยแห่งนี้จะทำให้เห็นความยิ่งใหญ่ของเตหะรานแบบ 360 องศา
หอคอยที่สำคัญอีกแห่งคือหอคอยอาซาดี เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1971 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 2,500 ปีของอาณาจักรเปอร์เซีย และเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติมุสลิม หอคอยแห่งนี้ตั้งอยู่กลางวงเวียนขนาดใหญ่ มีน้ำพุอยู่ด้านหน้า ไม่ไกลกันนักมีสวนสาธารณะ Park-e Shahr อยู่กลางเมือง เป็นสวนที่ผู้คนในเมืองมาพักผ่อนกันมากที่สุด แม้จะไม่ใช่สวนที่สวยที่สุด แต่ก็เป็นสวนที่เราจะพบเห็นวิถีชีวิตคนในเมืองเตหะรานได้มากที่สุด
เพราะเตหะรานมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ดังนั้น เราจึงพบเห็นพระราชวังได้ทั่วไป พระราชวังสำคัญๆ เช่น พระราชวังโกเลสตาน (Golestan Palace) ซึ่งเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และต่อเติมเป็นแบบยุโรปเพิ่มเติมในศตวรรษที่ 19 ในยุคสมัยของกษัตริย์คาจาร์ โดยชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของพระราชวังนี้คือ พระราชวังสวนกุหลาบ เพราะมีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่ในพระราชวัง ภายในตกแต่งอย่างหรูหรางดงามด้วยศิลปะแบบเปอร์เซีย ปัจจุบันพื้นที่บางส่วนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่คนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ และองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนพระราชวังแห่งนี้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกด้วย
พระราชวังที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอดทั้งปีคือ พระราชวังซาดาอาบัด (Sa’ad Abad Palace) ซึ่งเป็นพระราชวังที่ประทับและออกรับอาคันตุกะของราชวงศ์ปาห์ลาวี สร้างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 ที่นี่สวยงามร่มรื่นด้วยสวนและหมู่พระราชวังขนาดเล็กโดยรอบ
แต่หากอยากต้องการพักผ่อนแบบสงบๆ ไม่มีความวุ่นวาย แนะนำสวนสาธารณะ Park-e Laleh ซึ่งเดินทางสะดวก ใกล้ๆ กับสวนแห่งนี้จะมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย ซึ่งมีผลงานศิลปะของ ฟาน ก็อกฮ์, อ็องรี มาติส และ ปาโบล ปิกัสโซ และยังมีผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ของอิหร่านจัดแสดงด้วย
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอิหร่านเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทำให้ผู้มาเยือนสามารถมองเห็นภาพในอดีตของโลกอาหรับเมื่อหลายพันปีก่อนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เก็บรวบรวมสิ่งของกว่า 3 แสนชิ้น บางชิ้นมีอายุกว่า 4,000 ปี มีทั้งสิ่งของที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ งานศิลปะ หรือแม้แต่รูปปั้นบุคคลสำคัญ ของบางชิ้นเป็นสมบัติของโลกที่ประเมินค่าไม่ได้ เดินออกจากพิพิธภัณฑ์ไม่ไกลนัก ก็จะเจอตลาดนัดที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง นั่นคือ Jomeh ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Joumbouri Avenue ที่นี่จะทำให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวอิหร่านแบบเจาะลึก ลองชิมอาหารพื้นเมือง เลือกซื้อของฝากแปลกตา เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
เตหะรานอาจจะวุ่นวายในเมือง แต่เมื่อออกไปนอกเมือง ใกล้ๆ ภูเขาโดยรอบจะพบร้านกาแฟมากมาย ร้านอาหารเก๋ๆ ให้คุณได้จิบชายามเย็น และถึงแม้ว่าอิหร่านจะประสบปัญหาทางการเมือง โดนคว่ำบาตรจากหลายชาติตะวันตก แต่ผู้คนที่นี่ก็ยิ้มแย้มมีน้ำใจ หลายคนไปเยือนเตหะรานและอยากกลับไปอีกครั้ง เพราะมีมนต์เสน่ห์บางอย่างที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก หากใครอยากไปเยือนไปประเทศนี้ไม่ต้องกังวล เพราะอิหร่านสวยงาม และไม่ใช่ประเทศที่น่ากลัวอย่างที่คุณคิด
FYI
สถานทูตอิหร่านประจำประเทศไทย
205 ซอยสุขุมวิท 49 /11 ถนนสุขุมวิท
แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ ฯ 10110
โทร. 0-2390-0871-3
การเดินทาง (ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง)
สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ส www.qatarairways.com
สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ส www.turkishairlines.com
สายการบินเอทิฮัด www.ethihad.com