Galaxy Buds Live

ลองใช้ Galaxy Buds Live หูฟังเพื่อคนทำ Vlog กับดีไซน์ที่กล้าจะแตกต่าง

หูฟังไร้สายหรือ True Wireless ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ แต่ยังมีอีกหลายคนรวมถึงเราเองที่ยังลังเลในการใช้หูฟังประเภทนี้ เพราะยังหารุ่นที่ถูกใจไม่ได้ และส่วนใหญ่หูฟัง True Wireless ที่มีฟังก์ชันดีๆ จะมาในรูปแบบ in-ear (หูฟังแบบเสียบหู) เป็นหลัก ซึ่งส่วนตัวไม่ถนัดกับการใช้หูฟังแบบนี้ เพราะรู้สึกเจ็บหู และอึดอัดเมื่อต้องใส่เป็นเวลานาน ต่างกับหูฟังแบบ Earbuds ที่คุ้นเคย

        Galaxy Buds Live จาก Samsung จึงตอบโจทย์ตั้งแต่เห็นข่าวเปิดตัว เพราะไม่เพียงจะเป็นหูฟังแบบ Earbuds ที่เป็นมิตรกับหูของเราแล้ว ยังใช้ดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร ซึ่งเป็นการฉีกความจำเจออกมาได้อย่างน่าชื่นชม รวมถึงการใช้วัสดุที่มันวาวบนตัวหูฟังก็สร้างความโดดเด่นให้กับคนที่ได้พบเห็น เมื่อลองเอา Galaxy Buds Live วางไว้ข้างจานอาหารเพื่อทดสอบปฏิกิริยาจากคนรอบข้าง ก็พบว่าบางคนถามว่าเราไปเอาเมล็ดถั่วมาจากไหน ทำไมสวยจัง (ฮา) นั่นหมายความว่า Samsung ประสบความสำเร็จในการออกแบบ Galaxy Buds Live อย่างแท้ทรู

 

Galaxy Buds Live

Galaxy Buds Live

 

        การที่ Samsung ออกแบบ Galaxy Buds Live ให้เหมือนเมล็ดถั่วนั้นมาจากแนวคิดเรื่อง Ergonomics ที่สอดคล้องกับสรีระของใบหูได้ดีที่สุด เมื่อทำการสวมใส่ (ที่จะต้องปรับความคุ้นเคยกันสักวันสองวัน) จะรู้สึกสบาย ไม่ล้าหูมากนัก สามารถใส่ติดหูได้ทั้งวันระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ โดยเราลองโยกหัวไปมาแรงๆ หูฟังก็ไม่หลุดร่วง ทั้งยังป้องกันเหงื่อและละอองน้ำตามมาตรฐานน IPX2 (ไม่สามารถนำเอาลงไปจุ่มน้ำได้) และด้วยสีมันวาวนี้ยังฉายความโดดเด่นแม้จะซ่อนอยู่ในหูของเรา โดยมีให้เลือกสามสีคือ สีบรอนซ์ (Mystic Bronze) สีขาว (Mystic White) และสีดำ (Mystic Black)

        ตัวเคสของ Galaxy Buds Live จะเป็นวัสดุแบบด้าน ตรงกันข้ามกับตัวหูฟัง โดยออกแบบให้เหมือนกับกล่องใส่เครื่องประดับ ที่เรียบหรู รองรับการชาร์จด้วย USB Type-C และ Wireless Charger ซึ่งเรานำไปวางบนแท่นชาร์จไร้สายได้เลยหรือจะชาร์จทางด้านหลังของ Galaxy Note 20 ก็ได้ โดยแบตเตอรี่ของตัวหูฟังนั้นจะใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 6 ชั่วโมง ถ้าใช้งานรวมกับตัวเคสในการช่วยเติมพลังงานก็สามารถอยู่ยาวๆ ได้ถึง 29 ชั่วโมง  ซึ่งเราใช้แบบไม่ต่อเนื่องมาสามวันแล้วยังไม่มีทีท่าว่าแบตเตอรี่จะหมดเลย 

 

Galaxy Buds Live

Stay tuned in

        หูฟังถ้าดีไซน์สวยแต่เสียงไม่ได้เรื่องก็จบกัน เพราะยังไงเราก็ต้องการคุณภาพของเสียงและไมโครโฟนที่ดีเป็นหลักเพื่อการใช้งาน และพิสูจน์ว่าคุณภาพเสียงที่ปรับแต่งโดย AKG แบรนด์เครื่องเสียงนะดับโลกที่มาช่วยดูแลเรื่องนี้นั้นจะเยี่ยมยอดแค่ไหน เราจึงทดลองใช้ Galaxy Buds Live ฟังเพลงระหว่างที่นั่งอยู่บนรถไฟ โดยเปิดโหมด Active Noise Cancellation (ANC) ไว้ โดยเขาบอกว่าฟังก์ชันนี้ จะช่วยตัดเสียงรบกวนที่เป็นความถี่ต่ำจากภายนอกได้ถึง  97% 

        ในส่วนของเสียงเพลงที่ได้มีความเพราะของเสียงในระดับที่ดีจนน่าทึ่ง เพราะหูฟังขนาดเล็กแค่นี้แต่กลับให้มิติเสียงที่ดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตัว Galaxy Buds Live สามารถรีดพลังของดอกลำโพงขนาด 12 มม. ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคงเพราะเราเป็นคนไม่ชอบหูฟังที่เน้นเบสหนักๆ ด้วย จึงประทับใจกับเสียงใสๆ เคลียร์ๆ ของ Galaxy Buds Live มากกว่า และเมื่อลองปรับรูปแบบเสียงต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชัน Galaxy Wearable ใน Galaxy Note 20 ก็ถูกใจกับโหมด Dynamic ที่เพิ่มพลังเสียงให้หนักแน่นขึ้นแต่ไม่อึดอัด และข้อดีของ Galaxy Buds Live คือ รองรับการใช้งานกับ iPhone ด้วย โดยใช้ฟังก์ชันหลักๆ ได้เหมือนกันทุกอย่างผ่านแอพพลิเคชัน Galaxy Buds Live

        การใช้งานด้านสนทนานั้น Galaxy Buds Live ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยการใช้ไมโครโฟนถึง 3 ตัว โดยมี 2 ตัวอยู่ด้านนอก และ 1 ตัวด้านใน เพื่อทำงานร่วมกันในการจับเสียงสนทนาพร้อมลดเสียงรบกวนจากภายนอก โดยมีเซ็นเซอร์ตัวจับการเคลื่อนไหวของกระดูกใบหน้าเพื่อให้รู้ว่าเรากำลังพูดออกไป เพื่อให้คนปลายสายได้ยินเสียงที่ชัดเจน และลดเสียงรบกวนจากภาพนอกแม้อยู่ในพื้นที่ที่มีเสียงรบกวนมาก

 

Galaxy Buds Live

Vlog Everyday

        จุดเด่นของ Galaxy Buds Live ที่เราต้องลองให้ได้นั่นคือ เมื่อใช้งานร่วมกับ Galaxy Note 20 หรือ Galaxy Note 20 Utra เราจะสามารถใช้งานหูฟังเป็นไมโครโฟนไร้สายในการถ่ายวิดีโอได้ทันที โดยเข้าไปตั้งค่าในโหมดการถ่ายวิดีโอให้เลือกใช้ไมโครโฟนบลูทูธ เท่านี้เราก็สามารถถ่ายวิดีโอและบันทึกเสียงได้โดยไม่ต้องยืนอยู่ใกล้โทรศัพท์ แต่ยังได้เสียงที่คมชัดจากไมโครโฟนของ Galaxy Buds Live โดยใช้งานคู่กับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนได้ด้วย (เสียงอาจจะดร็อปลงนิดหน่อยเพราะระบบต้องกรองเสียงรบกวนออกไป) หรือสำหรับการสัมภาษณ์ ก็ใช้หูฟังวางไว้กับคนสัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์อย่างละข้าง ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายไม่ต้องขนอุปกรณ์ติดตัวไปด้วยมากมายอย่างเมื่อก่อน แต่ได้คุณภาพของเสียงที่ดีกลับมาเหมือนเดิม

 

Galaxy Buds Live

Strengths and Weaknesses

        จากการทดลองใช้ Galaxy Buds Live จนครบทุกฟังกชัน และใช้เวลากับมันมาสักระยะ เรายกให้มันเป็นหูฟัง True Wireless ที่ยอดเยี่ยมทั้งในแง่ของดีไซน์ที่แตกต่างแต่เรียบหรู เสียงเพลงที่ได้มีความใสเคลียร์ไม่หนักหู ใส่สบายได้ยาวๆ ขนาดใส่นอนฟังเพลงบนเตียงยังทำได้โดยไม่มีความรู้สึกว่าโดนกดทับเลย เพราะตัวหูฟังนั้นสอดเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับด้านในหูโดยไม่มีส่วนใดยื่นออกมาข้างนอก และการใช้สนทนาก็มีความชัดเจนโดยไม่ปลายไม่รู้สึกเอะใจว่าเรากำลังพูดผ่านหูฟังที่ไม่ได้มีไมโครโฟนจ่ออยู่ที่ปาก   

        แม้ระบบตัดเสียงรบกวนก็ทำได้ดีระดับน่าพอใจ และยังคงบรรยากาศรอบตัวไว้ให้รับรู้ได้ ไม่ได้เงียบกริบแบบหูฟัง in-ear แต่ถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแบบเงียบกริบไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลย Galaxy Buds Live อาจจะไม่ตอบโจทย์ข้อนี้สักเท่าไหร่ หรือใครที่ชอบเพลงที่ให้เสียงแบบหนักแน่น เบสมาเป็นลูกๆ อย่างชัดๆ มีมวลของเสียงที่อิ่มตัว คงต้องมองไปที่หูฟัง True Wireless แบบ in-ear แทน 

        อีกข้อสังเกตของ Galaxy Buds Live คือการใช้งานระบบสัมผัส โดยหลักการทำงานหลักๆ คือแตะ 1 ครั้ง เพื่อเล่นหรือหยุดเพลง แตะ 2 ครั้ง เพื่อข้ามเพลงไปข้างหน้า แตะ 3 ครั้ง เพื่อย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า และถ้าแตะค้างในหูฟังแต่ละข้างคือการเพิ่มลดเสียง ซึ่งฟังก์ชันการแตะนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ทางแอพพลิเคชัน แต่เนื่องจากหูฟังมีขนาดเล็ก เวลาที่เราจับหรือขยับหูฟังจะกลายเป็นว่าเราไปสั่งการทำงานของหูฟังโดยไม่ตั้งใจ หรือแตะโดนนิดหน่อยก็ไปโดนตัวเซ็นเซอร์แล้ว ซึ่งในรีวิวของผู้ใช้งานหลายๆ ท่านก็พูดถึงเรื่องนี้เป็นเสียงเดียวกัน ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการตั้งค่าปิดการสัมผัสหูฟังในแอพพลิเคชันได้ แล้วค่อยควบคุมเพลงหรือระดับเสียงผ่านโทรศัพท์หรือสมาร์ตวอตช์แทน ซึ่งต้องใช้การปรับตัวสักระยะเหมือนกัน 

 

Galaxy Buds Live

Conclusion

        Galaxy Buds Live ราคา 6,990 บาท ถ้าใครมี Galaxy Note 20 หรือ Galaxy Note 20 Ultra อยู่แล้วสามารถนำเลขอีมี่เครื่องไปลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 30% ได้ โดยส่วนตัวประทับใจกับหูฟังตัวนี้มาก แม้จะมีจุดสังเกตในการใช้งานที่ต้องปรับตัวอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าเป็นหูฟัง True Wireless ที่ออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยมและใส่ใจ แถมยังฉีกดีไซน์ทั่วไปในท้องตลาด จนกลายเป็นความโดดเด่นที่ใครก็เลียบแบบได้ยาก ที่สำคัญคือตอบโจทย์การทำงานด้านการบันทึกเสียงและการถ่ายวิดีโอสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ในยุคนี้ด้วย โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับ Galaxy Note 20 สมาร์ตโฟนที่ได้ชื่อว่าทำออกมาเพื่อเหล่านักสร้างสรรค์ผลงานในแขนงต่างๆ ที่ดีที่สุดในตอนนี้