Cannabis College
Amsterdam, Netherland
อเล็กซ์ ลินด์เกรน
Cannabis College
“จริงๆ เราก็เหมือนทุกคนที่เวลาไปเที่ยวจะเก็บตั๋วรถเมล์ ตั๋วรถไฟ ตั๋วพิพิธภัณฑ์ อันนี้เป็นตั๋วของ Cannabis College ศูนย์บริการข้อมูลกัญชาในเมืองอัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรแห่งหนึ่งที่ต้องการจะให้ข้อมูลเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะมันเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาประเทศนี้ บางคนอยากสูบกัญชาแต่ไม่เคยลองมาก่อน ก็สามารถเข้าไปขอข้อมูลที่นี่ได้ สูบยังไง สูบแล้วจะรู้สึกยังไง ต้นมันโตมายังไง ประโยชน์จากมันมีอะไรบ้าง ในเมืองมีร้านอะไรแนะนำบ้าง
“Cannabis College เป็นเหมือนร้านเล็กๆ ที่ชั้นใต้ดินจะมี grow room ให้ดูว่ากัญชาปลูกยังไง และชั้นบนจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้ มีหนังสือให้หยิบอ่าน มีที่ให้นั่งคุย ถ้าจำไม่ผิดเขาไม่มีค่าเข้าตายตัวนะ คือให้บริจาคตามใจได้เลย”
กฎหมายกัญชาในเนเธอร์แลนด์
“เราเป็นคนหนึ่งที่ไปอัมสเตอร์ดัมเพราะอยากรู้ว่าการที่กัญชาได้รับการยอมรับแล้ว มันสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
“โดยรัฐบาลของดัตช์เลือกที่จะให้กฎหมายที่ครอบคลุมกัญชานั้นไม่เป็นโทษผิดทางอาญา ซึ่งรวมไปถึงการมีในครอบครอง การปลูกและขาย แต่ก็ยังไม่ได้เดินหน้าอย่างเต็มตัวเหมือนบางรัฐในอเมริกา เพราะที่นั่นมันถูกกฎหมายทั้งในเชิงใช้เพื่อสันทนาการและทางการแพทย์ แต่ในเนเธอแลนด์เขายังควบคุมอยู่ เช่น อนุญาตให้มีในครอบครองไม่เกิน 5 กรัมต่อคน และประชาชนสามารถปลูกกัญชาเพื่อใช้เองได้ 5 ต้นต่อครัวเรือน มากกว่านั้นถือว่าผิดกฎหมาย เป็นต้น แต่นอกจากเรื่องกัญชาแล้ว อัมสเตอร์ดัมก็เป็นสถานที่ที่ควรไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต มันมีทุ่งดอกทิวลิป มีสถาปัตยกรรมแบบดัชต์ มีพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ได้ลองของกินใหม่ๆ บรรยากาศกับผู้คนก็ดีมากๆ”
ความ high ของคนอัมสเตอร์ดัม
“กัญชาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองอัมสเตอร์ดัม อย่างถนนน่ะ ร้านหนึ่งเป็นมินิมาร์ต ถัดมาเป็นร้านกัญชา ต่อมาเป็นร้านเบียร์ แล้วมันเป็นแบบนี้ทุกถนนเลยนะ บางทีดูจากข้างนอกเราดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นร้านกัญชานอกจากจะได้กลิ่น เพราะมันก็เหมือนคาเฟ่ เหมือนผับบาร์ทั่วไป แต่ไม่ใช่ว่าคุณจะเดินสูบบนถนนได้ หรืออย่างในร้านกัญชาก็ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่
“เขาจะเรียกร้านกัญชากันว่า ‘coffee shop’ ส่วนผู้ขายจะเรียกว่า budtender ที่เราชอบที่สุดคือ ร้าน 420 Cafe อยู่ใกล้ Central Station ตกแต่งด้วยไม้ทั้งร้าน เคาน์เตอร์ โต๊ะและเก้าอี้ก็เป็นไม้ เปิดเพลงยุค 60s กับ 70s พวก The Kinks พวก The Rolling Stones แต่ถ้าคุณชอบเพลงฮิปฮอป มันก็จะมีร้านที่โมเดิร์นขึ้นมาหน่อย เปิด Drake บางร้านก็ดูร็อกๆ ดิบๆ สุดท้ายมันก็แล้วแต่เราชอบ
“ถามว่าคนอัมสเตอร์ดัมทุกคนเป็น 1stoner หรือเปล่า ก็ไม่ใช่ มันก็มีทั้งคนที่สูบและไม่สูบ เพียงแต่เขาเปิดใจรับความแตกต่างตรงนี้โดยไม่ได้มองว่าการเดินเข้าร้านกัญชาจะต่างจากการเข้าผับไปดื่มเบียร์ และที่นี่ศิวิไลซ์มาก เราไปอัมสเตอร์ดัมมา 4 ครั้ง ไม่เคยเจอคนเมาแบบทุเรศทุรัง ตะโกนโวยวาย ควบคุมตัวเองไม่ได้ อย่างที่บ้าที่สุดเคยเจอ คือกลุ่มผู้ชายมาปาร์ตี้สละโสด ยืนแก้ผ้าอยู่กลางถนน แต่เขาก็อยู่ในกลุ่มเพื่อนเขา ไม่ได้มายุ่มย่ามกับคนอื่น มันไม่เละเทะเหมือนที่คนคิดว่าจะเป็น”
อนาคตของการยอมรับ
“อยากเล่าให้ฟังเรื่องกรณีการแบนเหล้าในอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1920-1933 ที่เรียกว่าช่วง Prohibition era รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น? มาเฟียเกิดขึ้น ผับใต้ดินเกิดขึ้น เหล้าเถื่อนเกิดขึ้น ตอนนั้นสังคมเละเทะมากเพราะมาเฟียโตโคตรๆ ทีนี้อเมริกาทำยังไง ก็ตัดสินใจทำให้มันถูกกฎหมายโดยให้รัฐเข้าควบคุม
“พูดกันตามตรงนะ เราคิดว่าคนมันจะดื่ม คนมันจะซื้อมาสูบ ต่อให้ผิดกฎหมาย เราก็ห้ามเขาไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้คืออะไร คือการให้ความรู้ ให้รู้ข้อดีข้อเสีย ให้รู้ปริมาณที่ปลอดภัย มันก็เหมือนกับเรื่องเซ็กซ์กับวัยรุ่น การยับยั้งชั่งใจของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่เราสามารถให้ความรู้เขาได้ สอนให้เขาป้องกันตัวเองได้ ให้เขาตระหนักถึงผลที่จะตามมา
“เรื่องกัญชาเราว่ามันเดินหน้าขึ้นมาก อย่างช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เขาโหวตกันเกินครึ่งประเทศเลยนะ แม้มันจะยังไม่ได้ถูกกฎหมายแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยตอนนี้ทางการแพทย์ก็ถูกกฎหมายแล้ว ซึ่งมันส่งผลดีมากๆ เพราะตอนที่ิผิดกฎหมายมันก็เอามาทำวิจัยไม่ได้ มันต่อยอดไม่ได้ พอมันวิจัยกับคนไม่ได้ เราเลยไม่รู้จริงๆ ว่าสุดท้ายกัญชาจะช่วยรักษาโรคในคนได้ไหม หรือมันยังมีประโยชน์แฝงไว้ที่เรายังไม่รู้อีกหรือเปล่า”
ABOUT HIM
อเล็กซ์ ลินด์เกรน
นักเขียนอิสระที่บันทึกการเดินทางในทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ผ่านเว็บออนไลน์ www.alexklindgren.com ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกรุงนิวยอร์ก และยังตั้งใจเดินทางด้วยกระเป๋าใบเดียวไปเรื่อยๆ
1 stoner : [สแลง] ผู้ที่เสพสารเสพติดเป็นประจำ โดยเฉพาะกัญชา (A person who regularly takes drugs, especially cannabis. – Oxford Dictionaries)