“We’re all unlucky in love sometimes.” 623 หนึ่งในตัวละครเอกของภาพยนตร์เรื่อง Chungking Express ของหว่องกาไว กล่าวไว้เมื่อประสบปัญหาเรื่องความรัก เขาต้องทำสิ่งต่างๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองออกจากความหมกมุ่นที่มีในตัวคนรักเก่า
เมื่อความเหงามาพร้อมกับความโสด ไม่ว่าจะเพราะปรากฏการณ์ประชากรชายหญิงของโลกมีสัดส่วนไม่เท่ากัน หรือโศกนาฏกรรมความรักที่ไม่เคยใจดีกับใคร ทุกประเทศ ทุกเมือง ทุกสถานที่จึงเต็มไปด้วยคนเหงา…
แต่ความเหงาไม่ใช่สิ่งที่น่าเข็ดขยาดอีกต่อไป ผู้กำกับภาพยนตร์สุดเหงาอย่างหว่องกาไวก็ได้สร้างบรรยากาศแห่งความเหงาที่งดงาม ให้เป็นสิ่งที่เราเสพติดและโหยหา ไม่ว่าแสง สี และความรู้สึกที่ได้รับการย้อมแต่งอย่างประณีต
เมื่อมันเหงาก็ต้องเหงา เมื่อความเหงางดงามจนเราเสพติด ทำไมเราไม่สร้างความเหงาให้กับตัวเองด้วยความสุนทรีย์แบบหว่องๆ เพื่ออย่างน้อยก็ให้รู้ว่าตัวคนเดียวก็ข้ามผ่านชีวิตไปได้อย่างงดงาม
“
สิ้นปีแล้วจะเหงากว่าเดิม เราว่าคิดไปเอง ถ้าอยู่คนเดียวไม่รอดก็ไม่ต้องอยู่ปะ ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ก็คงไม่เจอความสุขเวลาที่มีใครเข้ามาเติมเต็มชีวิตเรา ซึ่งนั่นก็ไม่น่าจะเป็นความสุขที่แท้จริง
”
จีน กษิดิศ, นักร้อง
_
The Science of Loneliness
_
ถึงเราจะคิดว่าความเหงาเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก แต่จริงๆ แล้วความเหงาเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ว่ากันว่าอารมณ์เหงามาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ สารเคมีในสมอง สภาพจิตใจ และสิ่งแวดล้อม
ปัจจัยที่สร้างความเหงาอย่างแรกคือสารเคมีในสมอง เมื่อขาดความสมดุล ความรู้สึกประหลาดต่างๆ ก็เกิดขึ้นได้ เบื้องต้นอาการนี้แก้ไขได้ด้วยการออกกำลังกาย หรือการทำตัวเองให้ยุ่ง ลองกูเกิลหาวิธีคลายความเหงาดูสิ ได้ผลลัพธ์มากกว่า 15,800,000 รายการเลยล่ะ
ปัจจัยต่อมาคือสภาพจิตใจ คนที่รู้สึกแบบนี้คงจะไม่แตกต่างจาก คุณตำรวจรหัส 232 ในภาพยนตร์เรื่อง Chungking Express ที่เวลาเหงาก็โทร.หาผู้หญิงทุกคนในรายชื่อในสมุดโทรศัพท์ของตัวเอง เรื่องนี้คงแก้ไขยาก ต้องหากิจกรรมมาเติมช่วงเวลาที่ว่าง เพื่อไม่ให้คิดถึงความเหงา
ส่วนสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสุดท้ายที่สร้างความเหงา หากเราเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้คิดถึงความหลัง หรือมีแต่คนเหงาๆ เราก็จะเหงาตามไปโดยไม่ต้องสงสัย จึงไม่แปลกที่พอเรานำพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานที่ซึ่งมีบรรยากาศแบบหว่องๆ เราจะรู้สึกเหงาขึ้นมาทันที
_
Foo John
Chemical of Loneliness
_
“ความเหงาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต”
ฟิลิปป์ เร็ป ผู้จัดการร้าน Foo John บอกกับเรา เมื่อถามไปว่าเขารู้สึกอย่างไรกับบรรยากาศในบางคืนที่แวดล้อมไปด้วยคนเหงา แล้วตัวเขาเองล่ะ เคยเจอกับความรู้สึกพวกนี้บ้างไหม โดยเฉพาะการที่เขาเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย นอกจากจะบอกเราว่า อย่าคิดมาก พร้อมกับตบไหล่เราเบาๆ แล้ว ฟิลิปป์ก็แนะนำว่า ถ้าอยากให้ความรู้สึกเศร้านั้นเจือจางลง ก็ต้องอาศัยเคมีเข้าไปเปลี่ยนแปลงสภาวะในร่างกาย นั่นก็คือการเติมสารอาหารเข้าไป
การนั่งทานอะไรคนเดียวมีข้อเสีย คือเราสั่งอาหารมากไม่ได้ แต่อาหารของร้าน Foo John มีเมนูขนาดทานพอดีในแบบฝรั่งเศส ทำให้เราสั่ง 3 เมนูได้โดยไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด
เมนูแรกของเราคือ เมนูเรียกน้ำย่อย พาร์มาแฮม, ซาลามีชั้นดี และเนยแข็งกามองแบร์ที่ช่วยเพิ่มสารเคมีดีๆ ให้กับสมอง ต่อมาคือหอยนางรมฝรั่งเศสที่เนื้อเนียนกว่าสิ่งใด เราอยากให้บีบเลมอนใส่เพียงแค่ 1-2 หยด เพื่อคงรสชาติความสดของหอยนางรมไว้ให้มากที่สุด และอาหารคาวจานสุดท้ายคือ Crepe Parisienne หรือว่าเครปแบบเค็มหน้าปารีสแฮมและไข่ดาว
ถ้าตอนนี้ระดับความเหงาของเราเกิดพุ่งถึงขีดสุด จนต้องรีบแก้ภาวะขาดน้ำตาลกันทันที ไม่อย่างนั้นคนเหงาอย่างเราอาจเกิดอาการเหวี่ยงทางอารมณ์จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้….
แม้ Foo John จะขึ้นชื่อเรื่องอาหารคาว แต่ของหวานอย่างเครปก็อร่อยไม่น้อยหน้าเลย เราชอบเครป La Vie en Rose ที่เป็นเครปหน้ามะนาวและน้ำผึ้งเป็นที่สุด ความเปรี้ยวกำลังดีของเลมอนเข้ากันได้อย่างลงตัวกับน้ำผึ้งที่หอมละมุน
หากอยากสูบฉีดความหวานขึ้นมาอีกหน่อย ต้องลองเครปคาราเมล ที่ใส่เมเปิลไซรัปเล็กน้อย ซึ่งทำให้น้ำตาลซึมเข้ากระแสเลือดในทันที
Foo John เปิด 18.00-24.00 น.
ปากซอยเจริญกรุง 31 กรุงเทพฯ
โทร. 08-7593-9973 หรือ 09-5060-6286
FB : foojohnbkk
_
Chubby Papaya
Owner of a Lonely Heart
_
“ความเหงาเกิดได้ทุกเมื่อ เวลาคิดถึงใครบางคนที่คุณไม่สามารถเจอกับเขาได้”
‘ครูปาน’ – สมนึก คลังนอก เจ้าของร้าน Chubby Papaya พูดขึ้น ถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ไม่สนิทกับความเหงาสักเท่าไหร่ แต่เขาก็รู้ว่าจะรับมือกับความรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไร เพราะข้อดีของการอยู่คนเดียวแบบเงียบๆ นั้น ทำให้เราสามารถคิดทบทวนเรื่องต่างๆ และอยู่กับตัวเองได้มากขึ้น เขาจึงทำชั้น 5 ของร้านเป็นบาร์เล็กๆ ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง เพื่อให้สภาพจิตใจที่เปราะบางและกำลังจะเจอกับคลื่นความเหงาที่เข้ามาปะทะในคืนสิ้นปีได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง
เมนูเครื่องดื่มของ Chubby Papaya น่ารักในราคาที่แสนสบายใจ สมกับชื่อภาษาไทยของร้านที่ว่า ‘มะละกออวบ’ เราเลือกเครื่องดื่มเรียบๆ อย่างเลมอนโซดา ที่หวานเจือเปรี้ยวอย่างเบาพอดี วินาทีที่นั่งลงบนโซฟา เราก็รู้สึกเหมือนถูกสูบลงไปในความเหงา ความอ้างว้างที่หอมหวาน ความเคว้งคว้างที่อยู่ห่างไกล เราอยากมานั่งเคานต์ดาวน์ที่นี่ เพื่อใช้เวลาสุดท้ายของปีอย่างหว่องๆ
เพื่อนึกถึง 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อนึกถึงสิ่งที่ทำพลาดไป และสิ่งที่ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แล้วช่วงเวลาสุดท้ายของปีก็มาถึง….
3… 2… 1
สวัสดีความเหงาที่มีแต่ตัวเรากับอากาศแบบหว่อง
Chubby Papaya เปิด 10.00-22.00 น.
ถ.นครสวรรค์ ใกล้สถานีตำรวจนางเลิ้ง
โทร. 09-2259-8271
_
Loftel 22 Hostel
Surrounded by Lonesomeness
_
“นักเดินทางหลายคนที่มาพักที่โฮสเทลของเรามาเมืองไทยคนเดียว เพื่อจะพบเจอเพื่อนนักเดินทางอีกคนหนึ่ง”
‘เจ๊หวาน’ หรือ สวลี อริยรัชโตภาส ทายาทผู้สืบทอด Loftel 22 Hostel ย่านเจริญกรุง คือหนึ่งในคนที่มองเห็นความรู้สึกของคนหลากหลายรูปแบบ ซึ่งนักเดินทางบางคนก็เคยเดินสวนกันไปมาตามสถานที่ต่างๆ แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกัน บางครั้งโชคชะตาก็พาให้เขาได้มารู้จักกัน ณ ที่แห่งนี้ หรือต่างคนต่างก็แค่เข้านอนที่หันหัวชนกันบนเตียงของตัวเอง แล้วก็จากไปอย่างเงียบๆ ในตอนเช้า
แต่ห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่อยู่ในในโรงแรมแห่งนี้ทำให้นึกถึงอพาร์ตเมนต์เล็กๆ ในภาพยนตร์ของหว่องกาไว เตียงเหงาๆ ห้องเงียบๆ ไร้ผู้คนข้างกาย ในขณะที่ผู้คนบนถนนส่งเสียงครึกครื้น…
Loftel 22 Hostel มีห้องพักที่ราคากำลังดี เป็นที่พักพิงของเจ้าของร้านอาหารในย่านที่อยู่ดูแลร้านจนถึงดึก
ห้องที่เราชอบเป็นห้องเตียงคู่ที่เตียงสูงจากระดับพื้นไม่มาก ราคาเพียงคืนละ 850 บาท เหมาะกับการมานั่งทอดอารมณ์เหงาๆ เป็นอย่างยิ่งในวันปีใหม่ที่เข็มนาฬิกาก้าวข้ามปี เราจึงอยากมาเข้าพักที่ห้องนี่ เพื่อสร้างบรรยากาศสุดเหงาและงดงามให้กับตัวเราเอง
ถ้าถามว่าเราอยากพบใครในคืนวันเคานต์ดาวน์ เหมือนอย่างที่นักเดินทางผู้ข้ามซีกโลกมาเมืองไทย เพื่อพบเจอนักเดินทางอีกคนหรือไม่…
เราคงตอบว่าบรรยากาศเหงาๆ แบบหว่องๆ ดูจะเข้ากับเรามากกว่า แสงสีแดงอมเหลืองเจือเขียวที่อ้างว้าง อากาศที่เปล่าเปลี่ยว แต่อิ่มเอม
หรือเราเสพติดความเหงาเข้าแล้วจริงๆ
Loftel 22 Hostel
ปากซอยเจริญกรุง 22 ถ.เจริญกรุง
โทร 0-2117-9322
“
เฟซบุ๊กเป็นตัวไซโคใครต่อใคร ทำให้ต้องมีอะไรมาโพสต์อวด พอไม่มีก็จะเคว้ง โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่าสิ้นปีคือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เราต้องหันกลับมารักตัวเอง แต่ในความเป็นจริงชีวิตของเราก็ยังกลวงอยู่ดี เพราะเราไม่ได้เป็นในสิ่งที่ใครบอกว่าว่าเราควรจะเป็น
”
โอ๊ต มณเทียร, นักเขียน
เรื่อง: จินนี่ สาระโกเศศ, ทรรศน หาญเรืองเกียรติ