ราวกับได้ย้อนยุคไปในช่วงทศวรรษ 1970 หรือ 1980 เมื่อเดินเข้าในภายใน Café Thieves and Bar คาเฟ่สีชมพู เขียวสไตล์วินเทจแห่งนี้ ไม่ว่าจะสอดส่องไปมุมไหนในร้านก็รู้สึกราวกับว่าสามารถถ่ายรูปเท่ๆ อัพลงไอจีได้ทุกมุม เพราะความลงตัวของการตกแต่งร้าน โทนสี เฟอร์นิเจอร์ ผสมผสานให้ร้านเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งอดีตที่มีกลิ่นอายความคลาสสิกเจืออยู่ในบรรยากาศอย่างมีรสนิยม
หากใครรู้จักร้าน Freeze Frozen Yogurt ที่มีสาขาบริเวณย่านนาคนิวาส และพารากอน ก็คงทราบดีว่า Cafe Thieves and Bar แห่งนี้คือการแตกไลน์มาจากร้านฟรีซโฟรเซนโยเกิร์ต และเพิ่มเติมส่วนของอาหารในสไตล์ American diner เครื่องดื่ม และบาร์ค็อกเทลเข้าไป โดยกลุ่มเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนกัน 5 คน ที่มีความหลงใหลในบรรยากาศแบบย้อนยุค และอยากส่งต่อประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้มาเยือนได้สัมผัสไปพร้อมกัน
“ความจริงออฟฟิศเรากับหุ้นส่วนอยู่ใกล้ที่นี่ แล้วเราก็มองว่าแถวนี้ร้านอาหารยังมีน้อย กลุ่มคนก็มีทั้งชาวต่างชาติ แล้วก็กลุ่มที่เป็น neighborhood เยอะ การเข้าถึงทำเลก็น่าสนใจ เลยตัดสินใจแตกไลน์จาก Freeze Frozen Yogurt แล้วทำร้านให้เป็นลักษณะคาเฟ่ เพิ่มอาหาร เครื่องดื่ม บาร์ค็อกเทล แล้วก็เป็นความโชคดีที่เจ้าของเก่าเขายกเลิกร้านไปพอดี เลยได้ที่แห่งนี้มาทำร้าน”
ภายในร้านเปิดดนตรีคลอเบาๆ เคล้าบรรยากาศวินเทจ สีชมพูและสีเขียวของร้านที่ตัดกัน โต๊ะ เก้าอี้ และต้นไม้ที่แซมอยู่ในบางจุดทำให้เรารู้สึกสงบอย่างน่าประหลาด
“เราเรียกการตกแต่งว่าเป็นสไตล์ American retro ประมาณยุค 70s-80s เราหยิบจับความชื่นชอบจากหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนัง ยุค ดนตรี ไปจนถึงสไตล์การตกแต่ง นำมาผสมผสานจนลงตัวเป็นที่นี่ เราเอาสีชมพูมาจากร้านไอศกรีม Freeze Frozen Yogurt แล้วก็ใช้สีเขียวมาตัดให้ดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
“เราว่าเรโทรมันคลาสสิก แล้วหลายๆ อย่างที่เราชอบก็จะเป็นยุคนั้น เพลงที่ได้ฟังมาจากรุ่นคุณพ่อคุณแม่ หรือหนังเดี๋ยวนี้ก็ทำย้อนไปถึงยุคนั้น คล้ายกับว่าเราเติบโตมากับเวลาเหล่านี้ เราเลยซึมซับมาเยอะเหมือนกัน เราไม่รู้ว่าร้านสไตล์นี้มีเยอะไหมในเมืองไทย แต่ที่นี่เป็นการเอาความชอบของเราออกมาอย่างชัดเจน เราตกแต่งร้านกันเอง ไม่ได้จ้างสถาปนิก แต่น้องๆ ก็มีพื้นฐานการออกแบบอยู่แล้วเพราะทำออฟฟิศออกแบบกัน พอคนเข้ามาเขาก็จะสัมผัสได้ถึงความบ้านนิดๆ อาจจะไม่ได้เนี้ยบมาก ไม่ได้เป๊ะมาก แต่รู้สึกอบอุ่น”
อีกสิ่งที่โดดเด่นและเข้ากับบรรยากาศของชั้นล่างที่เป็นคาเฟ่ก็คือของตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นกระจกทรงกลม โคมไฟ รูปภาพ หรือกระทั่งงานเซรามิกที่ปั้นกันเอง “พวกของสะสมเลือกมาจากหลายที่ เช่น ตลาดของเก่า หรือบางทีไปเที่ยวเมืองนอก เราก็ซื้อกลับมา หลายอย่างมันก็มาจากการผสมผสาน ไม่ได้ไปเลือกมาทีเดียว เซรามิกบางชิ้นก็ปั้นเองด้วย เป็นเหมือนโปรเจ็กต์ของน้องที่เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง เขาก็ปั้นขึ้นมาเองแล้วก็เอามาแต่งร้านเลย (หัวเราะ)”
อย่างที่บอกว่าความแตกต่างของคาเฟ่นี้กับร้านฟรีซโฟรเซนโยเกิร์ตคือไลน์อาหารที่เพิ่มเข้ามา เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศและสไตล์การตกแต่ง อาหารของที่นี่จึงเสิร์ฟแบบ American diner และมีเครื่องดื่ม refreshment และของหวาน ครบครันแบบ all-day dining
“ด้วยความที่ร้านเป็นแบบอเมริกันย้อนยุค เมนูอาหารเลยมาเป็นแนวนั้นด้วย คือมีความเป็น nostalgic นิดๆ เหมือนให้ระลึกถึงความหลัง ที่สำคัญคือทุกเมนูเราคิดกันเอง และพลิกแพลงให้น่าสนใจมากขึ้น อย่างเช่น พาสต้าปูนิ่ม เราก็พลิกแพลงเอาอเมริกันพาสต้ามาใส่กับปูนิ่ม แล้วมีน้ำจิ้มซีฟู้ด ลูกค้าก็ชม กลายเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน หรือแพนเค้กที่เป็นซิกเนเจอร์ของอเมริกัน เราก็ลองเอามาทำเป็นสไตล์ของเรา อย่างเราอยากทำแพนเค้กที่มีนูเทลลาเยอะๆ แล้วก็ชอบกล้วยที่เบิร์นด้วย ก็นำมาผสมผสานออกมาเป็นเมนู เหมือนเป็นการแชร์ความชอบของเรากับให้ลูกค้า”
ถัดจากชั้นล่าง เมื่อเราเดินขึ้นบันไดมาชั้นสอง บรรยากาศของบาร์ค็อกเทลแบบวินเทจก็ปรากฏต่อหน้า ราวกับหลุดมาจากฉากในภาพยนตร์อเมริกัน บริเวณชั้นสองนี้จะเป็นโซนบาร์ค็อกเทลและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับนั่งซึมซับบรรยากาศสบายๆ ยามเย็น
“เราไม่มีประสบการณ์เรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่พอจะทำเลยต้องจริงจัง อย่างค็อกเทล เราก็จ้างสเปเชียลิสต์มาให้ความรู้เรา ส่วนสูตรเราก็คิดขึ้นมาจากไอเดียของเราด้วย เพราะชื่อค็อกเทลจะเป็นชื่อหนังหมดเลย เช่น American Pie หรือ E.T. อะไรแบบนี้ แล้วให้สเปเชียลิสต์ช่วยออกแบบ โดยเราจะอธิบายว่าหนังเรื่องนั้นมันให้ความรู้สึกอย่างไร แล้วก็ให้เขาออกแบบมาว่าค็อกเทลจะมีรสชาติแบบไหน เราก็ได้เรียนรู้ไปด้วย สนุกมากๆ”
แม้ Cafe Thieves and Bar ยังเปิดบริการไม่ถึงปี แต่ด้วยความรักที่สะท้อนออกมาผ่านทุกรายละเอียดของการทำร้าน คล้ายเป็นการแชร์ความสุขของตัวเองส่งต่อไปยังผู้มาเยือนให้สัมผัสได้ ก็ทำให้คาเฟ่สไตล์วินเทจแห่งนี้เป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ
“เรามีความสุขที่ได้เห็นการเติบโตไปด้วยกันของร้าน แล้วก็เห็นว่าสิ่งที่เราทำมา มันทำให้คนที่เข้ามาเขาแฮปปี้ ถ้าเราเห็นคนมาร้านมีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย เพราะความสุขของลูกค้าก็คือความสุขของเรา คล้ายสโลแกนร้านที่บอกว่า I’m a thieve, I’m here to steal your heart ฉันเป็นโจร ฉันมาที่นี่เพื่อขโมยหัวใจคุณ (หัวเราะ)”
RECOMMENDED MENU
– Chunky Pork Chop 420 บาท
– Salt Caramel Nutella Banana Pancake 275 บาท
– Orange Presso 130 บาท
– Lychee Rose 160 บาท
WHERE TO FIND CAFE THIEVES AND BAR
Open: โซนคาเฟ่ เปิด 08.00-22.00 น. / โซนบาร์ เปิด 17.00-24.00 น. ปิดทุกวันพุธ
Facebook: Cafe Thieves and Bar