เมื่อเราขับรถไปตามเส้นทางหลักกลางหุบเขาจากตัวเมืองเชียงใหม่สู่ดอยอ่างขางและอำเภอฝางเพียงไม่นาน แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่จำลองความรุ่งเรืองในยุคเก่าก่อนของญี่ปุ่นในดินแดนแห่งใหม่ที่ชื่อ ‘ฮิโนกิแลนด์’ (Hinoki Land) ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ราวกับว่าเราขับรถหลุดมาประเทศญี่ปุ่นเสียแล้ว ซุ้มประตูโทริอิสีแดงขนาดยักษ์ และกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมจากยุคเอโดะที่มีปราสาทไม้สนสีทองอร่ามโดดเด่นเป็นประกาย ตระหง่านเชื้อเชิญให้เราเดินเข้าไปสำรวจภายในที่สวยงาม
ฮิโนกิแลนด์คือธีมพาร์กของ อนิรุทธ์ จึงสุดประเสริฐ ผู้ก่อตั้งบ้านไม้หอมฮิโนกิไชยปราการ และเป็นผู้นำเข้าไม้สนฮิโนกิในประเทศไทยอย่างเป็นทางการรายแรกๆ ของประเทศไทย โดยหวังให้เป็นอาณาจักรที่รวบรวมมรดกทางศิลปวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่น และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่
ฮิโนกิเป็นไม้สนไซเปรสสายพันธุ์ญี่ปุ่น มีถิ่นกำเนิดในแถบตอนกลางของประเทศ เติบโตได้ดีในสภาพอากาศหนาวเย็น หรือบนพื้นที่สูงปานกลางถึงระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตรขึ้นไป เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะไม้ลักษณะพิเศษที่มีทั้งความสวยงามจากเนื้อไม้สีขาวครีมสบายตา และกลิ่นหอมละมุนในเนื้อไม้ ต้นเหตุที่ทำให้ใครๆ ต่างพากันเรียกขานไม้สนชนิดนี้ว่า ‘ไม้หอมฮิโนกิ’
ส่วนคำว่า ‘ฮิโนกิ’ เป็นคำในภาษาญี่ปุ่น มาจากคำว่า ‘ฮิโน’ ที่แปลว่า ไฟ และคำว่า ‘กิ’ ที่แปลว่า ไม้ ทั้งสองคำนี้เมื่อรวมกันแล้วก็จะได้ความหมายของฮิโนกิ นั่นก็คือ ‘ไม้แห่งไฟ’ ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ชั้นสูง สมัยก่อนนิยมนำมาทำเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์สำหรับจุดไฟบูชาในพิธีกรรมสำคัญต่างๆ
ที่ฮิโนกิแลนด์ ประกอบด้วยสิ่งปลูกสร้าง 6 หลัง เริ่มต้นจากอาคารซุ้มประตูทางเข้าที่จำลองประตูอสุนีของศาลเจ้าอาซากุสะ โดดเด่นด้วยโคมสีแดง เขียนด้วยตัวอักษรสีดำว่า คามินาริ ซึ่งเป็นชื่อของประตูตามต้นแบบ ถัดมาคือโถงต้อนรับที่ให้บริการเช่าชุดกิโมโน ซึ่งมีให้เลือกหลากสี หลายรูปแบบ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากใส่ถ่ายรูปให้เข้ากับบรรยากาศเพื่อเช็กอินอวดโลกโซเชียล
ถัดจากโถงต้อนรับ ก็จะพบกับอีกหนึ่งไฮไลต์ของพื้นที่อย่าง อุโมงค์เสาโทริอิจำลองจำนวน 88 ต้น เชื่อมพื้นที่ส่วนหน้าเข้าสู่ด้านในของโครงการ ซึ่งอุโมงค์จะพาไปบรรจบกับลานด้านหน้าปราสาทฮิโนกิ ปราสาทที่สร้างขึ้นจากไม้สนฮิโนกิทั้งหลังตามแบบปราสาทดั้งเดิมของโชกุน โดยปราสาทแห่งนี้ได้จำลองมาจากปราสาททองคินคาคุจิในเมืองเกียวโตด้วยสัดส่วน 1 ต่อ 3 (ปราสาทจำลองมีขนาดใหญ่กว่าปราสาทของจริงถึง 3 เท่า)
ตัวปราสาทมี 4 ชั้น แต่ละชั้นมีระเบียงที่เผยให้เห็นทิวทัศน์ของภูเขาเขียวขจีที่วางตัวล้อมอำเภอไชยปราการ ด้านข้างของปราสาทยังเป็นบ่อปลาคาร์ปขนาด 8 ไร่ นอกจากทัศนียภาพและสถาปัตยกรรมอันโอ่อ่าแล้ว พื้นที่ภายในอาคารก็ยังอวลด้วยกลิ่นหอมจากน้ำมันในเนื้อไม้สนฮิโนกิอีกด้วย ขณะที่พื้นผิวสีทองอร่ามและความเนียนเรียบบนพื้นผิวที่ห่อหุ้มลวดลายธรรมชาติของเนื้อไม้ก็สร้างสุนทรียภาพในแทบทุกโสตสัมผัส
ทางด้านข้างของปราสาทฮิโนกิคืออาคารแสดงสินค้า จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทบ้านไม้หอมฮิโนกิไชยปราการ จำกัด กิจการที่อนิรุทธ์ริเริ่มพร้อมกับการเปิดกิจการบ้านไม้หอมฯ โดยชักชวนชาวบ้านจากอำเภอไชยปราการ, ฝาง, พร้าว และแม่อาย กว่า 1,200 ครอบครัว ร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ต่อยอดจากการสกัดน้ำมันหอมในเนื้อไม้สนฮิโนกิ ไม่ว่าจะเป็นที่นอนและหมอนเพื่อสุขภาพ สบู่ แชมพู และเครื่องสำอาง รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์แบบญี่ปุ่นที่ผลิตจากไม้ชนิดเดียวกันนี้
ภายในยังมีกลุ่มชาวบ้านมาสาธิตการทำที่นอน และแนะนำเคล็ดลับว่าทำไมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของแบรนด์นี้จึงมีความพิเศษกว่าแบรนด์อื่น และยังมีคาเฟ่ให้บริการเครื่องดื่มภายในโถงอาคารย้อนยุคด้วย
นอกจากนี้ยังมีอาคารเจแปนทาวน์ ซึ่งจำหน่ายสินค้าที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นสูตรต้นตำรับ รังสรรค์จากฝีมือพ่อครัวชาวญี่ปุ่นแท้ ส่วนอาคารอีกแห่งซึ่งอยู่ติดกับลานจอดรถคืออาคารฟู้ดคอร์ตที่ไว้สำหรับต้อนรับนักเดินทางจากทั่วทุกสารทิศ
WHERE TO FIND HINOKI LAND
Website: https://hinokiwoodwork.com