คงจะดีไม่น้อยหากเราได้ร่นระยะทางระหว่างจินตนาการที่เห็นตัวเองกำลังเอนกายอยู่บนพื้นหญ้านุ่มๆ อ้าแขนรับสายลมอ่อนๆ ให้ผิวได้รับความร้อนชื้นจากธรรมชาติ กับความจริงที่เราอยู่ท่ามกลางมลพิษบนท้องถนน หรือเสียงคนทะเลาะกันข้างห้อง ซึ่งฟาร์มเล็กๆ น่ารักอย่าง James500 Organic Farm Style ช่วยคุณได้ในเรื่องนั้น ที่นี่มีทั้งเครื่องดื่ม อาหาร แหล่งความรู้ด้านการทำฟาร์ม แปลงผักคนเมือง และงานดีไซน์ ซึ่งสรรค์สร้างความเป็นจริงของชีวิตโดย ‘เจมส์’ – จอมพล อุ้มมีเพชร หนึ่งในสมาชิก FEDFE เดอะแก๊ง YouTuber ยุคแรกๆ ที่วันนี้ผันตัวมาเป็นเกษตรกรฝึกหัดผู้มีหัวใจดีไซน์
FEDFE
ผู้ชายสูงโปร่งผิวสีน้ำผึ้ง หนวดเคราตัดแต่งอย่างเหมาะเจาะ ผมยาวที่ถูกรวบไว้ด้านหลังมาพร้อมเอี๊ยมทำสวน เป็นคนเดียวกันกับ James500 หนึ่งในสมาชิก FEDFE เดอะแก๊ง YouTuber ยุคแรกๆ ที่มีคนติดตามกว่าล้านคนบนโลกโซเซียลฯ
แต่หลังจากความรุ่งโรจน์ที่ไม่จีรัง เขาออกตามหาตัวตนและเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ของตัวเองด้วยการตัดสินใจกระโจนสู่ดินแดนที่เขาไม่คุ้นเคยที่ชื่อ ‘เกษตรอินทรีย์’ ซึ่งแน่นอนว่า ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดไม่พอจะนำทางเขาให้ไปถึงในสถานที่ที่เขาตั้งใจได้ เขาจึงต้องพลิกความคิดและตั้งสติอีกครั้ง
“เรามีแค่ความมุ่งมั่น และเชื่อว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะพาเราไปตั้งหลักอย่างที่วาดฝันไว้ได้ และเพื่อไม่ให้เคว้งคว้างเราจึงหาความรู้เพิ่มเติมจากปราชญ์ชาวบ้าน จากเกษตรกรรุ่นใหญ่ ดูฟาร์มตัวอย่างจากรุ่นพี่ แต่ก็ยังไม่เจอกับสิ่งที่เป็นตัวเองอย่างจริง เราจึงกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง”
ว่าแล้วเขาก็ยกตะเกียงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ส่องสว่างในมือให้สูงขึ้น ก่อนจะนำหลัก 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ห่วง คือความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวหรือการมีแผนสำรอง และ 2 เงื่อนไข คือต้องมีความรู้ และมีคุณธรรม
“พอยึดหลักการเหล่านี้ได้ ฟาร์มดีไซน์ของเราจึงค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัว และกลับมาตั้งหลักในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุด นั่นก็คือบ้าน พร้อมจัดสรรพื้นที่โดยเชื่อมโยงธรรมชาติเข้ากับวิถีชีวิตประจำวันจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน”
Farm
“เราออกแบบพื้นที่ขนาด 100 ตารางวา แบ่งเป็นตัวบ้าน 50 ตารางวา อีก 50 ตารางวาที่เหลือแบ่งเป็นฟาร์มผักเล็กๆ 30% ใส่ความชอบส่วนตัวอย่างฟาร์มต้นกระบองเพชรอีก 10% ที่กระจายตัวอยู่ทั่วๆ ฟาร์ม อีก 10% ที่เหลือทำเป็นคาเฟ่ มีกาแฟและชาออร์แกนิก ซึ่งได้เมล็ดมาจากเครือข่ายผู้ปลูกออร์แกนิกให้ทุกคนได้ดื่ม มีอาหารที่เราคิดว่าอร่อยที่สุดแล้ว ทำแบ่งให้กิน
“ท้ายที่สุดพื้นที่ทั้งหมดก็กลายเป็นฟาร์มที่ผสานสิ่งที่เราชอบทั้งหลาย เติมดีไซน์ต่างๆ เข้าไป อาทิ การนำสิ่งของรีไซเคิลหรือของมือสองที่คนไม่ใช้แล้ว เลือกมาตกแต่งร้าน นำของสะสมส่วนตัวสไตล์วินเทจมาวางเพิ่ม มีมุมให้นั่งเล่นนอนเล่น สร้างเป็นกระท่อมมุงจากอยู่ท้ายฟาร์ม ดับร้อนด้วยต้นไม้ใหญ่และพัดลมไอน้ำ (หัวเราะ)
“เอาเข้าจริง เราคิดว่าเวลาร่วมสองเดือนที่ได้เปิดฟาร์มมา ก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราทำจะเรียกว่าความยั่งยืนได้หรือเปล่า ชีวิตเราจะยั่งยืนได้ด้วยสิ่งนี้จริงไหม แต่เราเข้าใจว่าใดๆ ในโลกล้วนไม่จีรัง ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง เราเองก็เช่นกัน ร้านนี้ก็ไม่ต่างกัน เพียงแค่ว่าเรามีแผนสำรองให้กับร้านและชีวิตของตัวเองให้พอดีได้แค่ไหนมากกว่า”
Feel
เมื่อเขาได้ก้าวเข้ามายังโลกอีกใบที่ระบายด้วยสีเขียวเข้มสลับกับสีอ่อนๆ จนทั่วทั้งฟาร์ม ความวุ่นวายที่เขาเคยเจอสมัยทำงานถูกกลบด้วยเสียงใบไม้ใบผักที่พลิ้วไหวตามแรงลม ปลดปล่อยอิสรภาพทางความคิดด้วยการตกแต่งร้านด้วยงานคราฟต์จากเศษไม้และวัสดุเหลือใช้ตามจินตนาการของตน แถมยังกลมกลืนไปกับต้นไม้ภายในสวนได้อย่างไม่เคอะเขิน ห่อหุ้มชีวิตและจิตวิญญาณของเขาไว้ภายใต้ฟาร์มที่เขาลงมือทำเองกับมือ
“ตอนแรกที่นี่มีแค่สองโซน โซนที่เราอยากทำมากๆ ก็คือฟาร์มผัก และพื้นที่วางต้นกระบองเพชร เราเริ่มจากความรู้ รู้ว่าผักชนิดไหนควรปลูกในร่ม ปลูกกลางแดด รู้ทิศทางของแสงแดดและสายลม เพื่อไม่ให้พืชผักตายก่อนวัยอันควร แต่หากจะอยู่ด้วยความอยากและความชอบอย่างเดียว ก็อาจจะเป๋ได้ เราจึงต้องทำพื้นที่นี้ให้เป็นธุรกิจ สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้ด้วย เราจึงเปิดโซนคาเฟ่ขึ้นเพื่อมารองรับคนที่อยากมาพักผ่อนในพื้นที่สีเขียวแล้วมีอะไรให้ดื่มกิน อีกส่วนก็คือเรายังจำหน่ายต้นกระบองเพชรเพื่อเพิ่มรายได้ สำหรับเรา นี่เรียกว่าการดีไซน์ ซึ่งจะทำให้เราอยู่ต่อได้ เราคิดอย่างนั้น”
Fresh
การดีไซน์ของเขาไม่ได้หยุดแค่การออกแบบหรือการแบ่งพื้นที่ แต่ยังรวมไปถึงการเลือกปลูกผัก การคิดเมนูอาหารและการเลือกผักที่ปลูก ไม่ว่าจะเป็นวอเตอร์เครส คะน้าชายา คะน้าเม็กซิกัน เลือกทุกอย่างที่ใช้ให้เป็นมิตรกับผู้คนและสิ่งแวดล้อม
“คอนเซ็ปต์ของฟาร์มนี้ก็คืออยู่ดี กินดี ทำดี อยู่ดีก็คืออยู่ในที่ที่ดี ที่ชอบ ที่เต็มไปด้วยความสุข ที่ที่เราเลือกเอง กินดีก็คือเรามีวัตถุดิบดีๆ ให้กิน ผักในแปลงไร้สารเคมี กล้วยหวานๆ ท้ายฟาร์ม พืชผักสวนครัวริมบ้าน ส่วนหนึ่งไว้กินเอง อีกส่วนนำมาทำอาหาร และหากเหลือก็แบ่งขาย แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ทันขายก็หมดเพราะมีน้อย (หัวเราะ) สุดท้ายทำดีก็คือการส่งต่อเรื่องราว ความรู้ และแรงบันดาลใจต่างๆ ให้ทุกคนที่สนใจ เราพร้อมที่จะแบ่งปันเสมอ”
Food
ก๋วยเตี๋ยวป้ากก (119 บาท)
ก๋วยเตี๋ยวหมูเมนูประจำบ้านที่เขาย้ำว่าอร่อยที่สุด แถมยังมีวิธีการกินที่ไม่เหมือนใคร เพราะก๋วยเตี๋ยวที่นี่ใช้มือหยิบกิน ไม่ได้ใช้ตะเกียบ ขั้นตอนกินก็ง่าย หยิบผักสดๆ ขึ้นมา ตามด้วยเส้นใหญ่ลวก ใส่หมูสับปรุงรสที่ผัดคลุกเคล้ากับหัวหอม ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจี๊ดจ๊าด แล้วห่อใส่ปาก เคี้ยวเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวเกลี้ยงจาน
คอมบุชามัลเบอรี (80 บาท)
ชาหมักแบบจีนที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย เพิ่มความหอมและรสเปรี้ยวด้วยการเบลนด์มัลเบอรีหรือลูกหม่อนพร้อมกันกับโซดา คนเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นสีแดงอมชมพูฉูดฉาด ก่อนจะยกแก้วนี้ดื่ม แนะนำว่าให้แตะน้ำผึ้งที่ปลายช้อนเคลือบไว้ที่ปลายลิ้น ยกดื่มคอมบุชาตามในทันที แก้วนี้ให้ความรู้สึกสดชื่นและสนุกสนานไปในตัว
ชาสิงห์เหนือเสือใต้ (95 บาท)
ชาเย็นอ่อนหวาน ที่รวบแผ่นดินเหนือใต้ไว้ด้วยกันในที่เดียว โดยดึง ‘สิงห์’ ตัวแทนแห่งความหอมละมุนละไมจากชาเหนือ และ ‘เสือ’ ตัวแทนแห่งความเข้มข้นจากชาใต้ผสมเข้ากับนมสด กลายเป็นเมนูเด่นประจำร้านไปโดยปริยาย
เครื่องดื่มประจำเดือน (80 บาท)
ไฮไลต์ของร้านยังไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีความแปลกใหม่ในเครื่องดื่มประจำในแต่ละเดือนให้ตื่นตาตื่นใจกันอีกเพียบ ในเดือนมิถุนายนนี้ จะมีเครื่องดื่มที่เรียกว่า ‘กล้วยเชื่อมน้ำผึ้งโซดา’ เครื่องดื่มที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยาอายุวัฒนะของคุณตา ก่อนนำมาผสมผสานเข้ากับการหมักแบบธรรมชาติจนได้น้ำหมักกล้วยเชื่อมรสชาติกลมกล่อม เพิ่มความละมุนละไมขณะดื่มด้วยกลิ่นหอมจากใบเตยและรสเปรี้ยวจางๆ ของมะนาว เสิร์ฟคู่กับโซดา ได้เป็นเครื่องดื่มดีไซน์แปลกใหม่ที่น่าลิ้มลอง