Neil’s Tavern Restaurant

Neil’s Tavern Restaurant: ร้านสเต๊กอายุกว่า 50 ปีที่เต็มไปด้วยกลิ่นความอายของทรงจำ

สเต๊กคำแรกของคุณนั้นมีความทรงจำแบบไหน สำหรับเราคือการออกไปรับประทานกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว โดยมุ่งไปยังร้านสเต๊กที่เปิดขึ้นมาโดยเฉพาะ มีบรรยากาศเคร่งขรึมในสไตล์คลาสสิก พร้อมกับทำเป็นเก่งด้วยการสั่งสเต๊กเนื้อชิ้นโตปรุงแบบมีเดียมแรร์เหมือนที่เคยเห็นพระเอกในหนังฝรั่งชอบพูดกัน (โดยที่ก็ไม่รู้หรอกว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร) แต่ภาพจำนี้ก็เป็นความสุขทุกครั้งที่ได้นึกถึง

        ปัจจุบันวิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป ทำให้การทำธุรกิจร้านอาหารต้องปรับตัวตามผู้บริโภค ร้านสเต๊กจึงถูกย้ายไปอยู่ตามห้างสรรพสินค้าหรือคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ เพื่อความสะดวกสบาย แต่สำหรับ ตรีวิทย์ พิชณุษากร ทายาทรุ่นที่ 3 ของร้าน Neil’s Tavern Restaurant & Bake Shoppe กลับเลือกที่จะทำร้านสเต๊กแบบดั้งเดิมต่อไป นอกจากจะเป็นการคงไว้ซึ่งความทรงจำที่คงอยู่มาถึง 50 ปีของร้านแล้ว เขายังบอกกับเราว่าเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการตั้งใจปรุงสเต๊กแต่ละจานออกมาให้ดีที่สุด

 

Neil’s Tavern Restaurant

 

        ความตั้งใจ ความประณีต ความพิถีพิถัน เป็นหัวใจหลักที่ร้านอาหารทุกที่ต้องยึดถือไว้ก็จริง แต่สิ่งที่เราสงสัยคือการรับช่วงต่อของร้านที่มีอายุมานานถึง 50 ปีนั้น น่าจะเป็นสิ่งที่กดดันมากกว่า

        “การรับช่วงต่อจากที่บ้านก็มีความกดดัน แต่ก็พยายามจะทำให้ร้านนี้ดีขึ้น” ตรีวิทย์บอกกับเราก่อนที่จะยกสเต๊กเนื้อที่สุกกำลังดีชิ้นโตมาให้ลองชิม “แต่ข้อดีของความที่เราเป็นร้านเก่าแก่คือเรามีลูกค้าประจำเยอะ พวกเขาก็จะช่วยเรื่องมาตรฐานของอาหารด้วย ทำให้ร้านเป็นที่โปรดปรานของใครต่อใครมาถึงวันนี้”

 

Neil’s Tavern Restaurant

 

        แม้ความดั้งเดิมจะเป็นสิ่งที่ถูกคงเอาไว้ แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปการรับรู้รสชาติของคนก็เปลี่ยนตาม จึงเกิดเป็นคำถามคาใจว่า สิ่งที่เป็นความดั้งเดิมในความคิดของผู้บริหารร้านแห่งนี้คืออะไร

        “ถ้านำเมนูจานแรกๆ ของร้านที่เสิร์ฟมาเทียบกับเมนูจานปัจจุบันของร้าน ก็ยอมรับว่ารสชาติต้องเปลี่ยนไป ไม่เหมือนกันแน่นอน ถ้าจะให้เห็นภาพก็เช่น ซอสในสมัยก่อนอาจจะไม่กลมกล่อมเท่าในตอนนี้ หรือเนื้อสมัยของคุณปู่ก็จะไม่เหมือนเนื้อที่ใช้อยู่ตอนนี้ เพราะเมื่อก่อนเราไม่มีการนำเข้าเนื้อจากต่างประเทศ จะใช้เนื้อสันในของบ้านเราอย่างเดียว ทำให้ไม่มีการเปรียบเทียบกับเนื้อจากต่างประเทศ ​แต่พอเป็นรุ่นคุณพ่อ ท่านไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา เมื่อกลับมาช่วยงานที่ร้าน ก็เริ่มนำเนื้อจากอเมริกาเข้ามา ซึ่งร้านของเราน่าจะเป็นร้านสเต๊กแรกๆ ด้วยที่นำเนื้อจากอเมริกามาขาย ซึ่งเราจะเลือกเนื้อเกรดที่ดีที่สุดมาใช้ อาหารทุกจานมีวิวัฒนาการ และตอนนี้เนื้อดีๆ ก็ไม่ได้หายากเหมือนสมัยก่อนแล้ว เราก็อยากให้ทุกคนได้ชิมสเต๊กที่รสชาติดีที่สุด”

 

Neil’s Tavern Restaurant

 

        ระหว่างที่นั่งคุย เราก็เหลือบไปเห็นครอบครัวพ่อแม่ลูกที่เดินจูงมือกันเข้ามาในร้าน สะท้อนภาพของตัวเองเมื่อสมัยเด็กๆ ในวันที่มีโอกาสได้เข้าร้านสเต๊ก เราจึงบอกกับตรีวิทย์ไปตรงๆ ว่า ที่นี่เหมือนไทม์แมชีนที่พาเราย้อนเวลากลับไปสู่ความทรงจำเมื่อสมัยยังเด็กอีกครั้ง

        “ทางร้านเพิ่งรีโนเวตไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ถ้าคุณมาช่วงก่อนหน้านั้นจะพบว่าร้านนี้เก่ามาก (หัวเราะ) ซึ่งถ้าไม่ทำการปรับปรุงร้าน บรรยากาศร้านก็จะไม่มีความร่วมสมัยมีแต่ความคลาสสิกเท่านั้น ผมตั้งใจแต่แรกแล้วว่าถ้าทำร้านใหม่เราจะคงความคลาสสิกบางอย่างไว้ แล้วเติมความโมเดิร์นลงไปด้วย จริงๆ ก็แทบไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากหรอก เพียงแต่ใช้วัสดุให้ดูใหม่ขึ้น แล้วนำของที่เคยอยู่ในร้านเก่ามาใช้ตกแต่งด้วย”

 

Neil’s Tavern Restaurant

Neil’s Tavern Restaurant 

 

        มีโอกาสได้คุยกับคนที่คลุกคลีด้านเนื้อสเต๊กทั้งที เราก็ไม่พลาดที่จะถามไปว่าแล้วเสน่ห์ของเนื้อสำหรับเขานั้นคือรสชาติแบบไหน ซึ่งตรีวิทย์ก็ตอบเราด้วยสายตาที่เป็นประกายว่า…

        “ส่วนตัวผมชอบเนื้อจากอเมริกามากกว่า เพราะกินแล้วไม่เลี่ยน เวลาเคี้ยวจะได้สัมผัสของการกินเนื้อสเต๊กมากกว่า ซึ่งถ้าเป็นเนื้อ A5 ของญี่ปุ่น ผมว่ารสชาติจะเลี่ยนไปหน่อย เพราะเนื้อของญี่ปุ่นมีไขมันเยอะ ถ้าสังเกตเราจะพบว่าเนื้อจากญี่ปุ่นจะนิยมแล่บางๆ แล้วนำไปปิ้งย่างมากกว่าจะกินเป็นเนื้อสเต๊กชิ้นใหญ่ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่ารสชาติของเนื้ออยู่ที่แล้วแต่คนชอบ เนื้อโกเบหรือมัตสึซากะของญี่ปุ่นรสสัมผัสอาจจะสู้เนื้อจากอเมริกาไม่ได้ แต่เสน่ห์ของเนื้อโกเบคือละลายในปาก ผมก็ใช้วิธีคัดเนื้อจากประเทศต่างๆ มาเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า โดยที่เนื้อแต่ละที่ต้องนำมาปรุงเป็นสเต๊กได้”

 

Neil’s Tavern Restaurant

 

        เราเข้าใจมาตลอดว่าร้านอาหารที่ยึดมั่นกับความดั้งเดิมนั้นจะมีความหัวแข็งบางอย่าง เช่น วัตถุดิบที่เคยใช้ต้องเป็นเหมือนที่ใช้ในสมัยก่อน เนื้อที่นำมาปรุงก็ต้องเลือกเนื้อสันอย่างดีไม่มีติดมันเพื่อให้เป็นสเต๊กในแบบต้นตำรับ แต่เขากลับบอกว่าไม่จำเป็นต้องยึดมั่นอะไรขนาดนั้น เพราะจะทำให้การกินอาหารนั้นไม่มีความสุข

        “ผมไม่เคยคิดว่าเราต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่เราควรมีทางเลือกให้ลูกค้ามากกว่า มีเนื้อจากประเทศต่างๆ มีส่วนที่เป็นทีโบน สันใน หรือ dry-aged แต่ถ้าให้แนะนำจริงๆ ก็อยากให้ลองเนื้อจากอเมริกา เพราะเหมาะกับการกินแบบสเต๊กที่เป็นชิ้นใหญ่ๆ มากกว่า แต่เมนูอื่นของร้านเราก็อร่อยนะ ทั้งเมนูปลา ซีฟู้ด หรือเนื้อแกะ แม้แต่ของหวานอย่างเค้กช็อกโกแลตของเราก็เป็นอีกเมนูที่คนนิยมมาสั่งกันเยอะ”

 

Neil’s Tavern Restaurant

 

        ที่เขาบอกมาก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงเลย เพราะรู้ตัวอีกทีเราก็ซัดล็อบสเตอร์อบชีส (Phuket Lobster Thermidor with Mushroom & Cheese) ตัวโตหมดไปครึ่งจาน

        “ล็อบสเตอร์นี้เป็นของท้องถิ่นจากภูเก็ต” เขายิ้มเมื่อเราบอกว่าจานนี้อร่อยไม่แพ้สเต๊กเนื้อนำเข้าเลย “สิ่งสำคัญของอาหารสำหรับผมคือทุกอย่างรวมกันมากกว่า วัตถุดิบมีความสำคัญอยู่แล้ว แต่สูตรการปรุงของทางร้านก็มีส่วนช่วยเสริมให้รสชาติเป็นเอกลักษณ์ได้ด้วย ดังนั้น วัตถุดิบจึงไม่เน้นว่าต้องมาจากต่างประเทศทุกอย่าง แต่ก็ต้องใส่ใจด้วยว่าวัตถุดิบไหนเหมาะกับอะไร”

 

Neil’s Tavern Restaurant

 

        “ผมยอมรับว่าร้านอาหารเกิดใหม่ตอนนี้เยอะมาก และทุกร้านก็จะทำให้เกิดเทรนด์ใหม่ๆ ในการรับประทานอาหาร ซึ่งคนรุ่นใหม่ก็จะมองว่า Neil’s Tavern Restaurant & Bake Shoppe ไม่อินเทรนด์เลย ไม่ได้ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า แต่เราก็มีจุดยืน ซึ่งนั่นคือความคลาสสิกที่เขาไม่สามารถหาได้ในร้านอาหารทั่วไปที่เกิดขึ้นมาใหม่”

        เขาทิ้งท้ายถึงเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ Neil’s Tavern Restaurant & Bake Shoppe ยังคงตั้งตระหง่านเปิดรับผู้คนที่อยากลิ้มลองสเต๊กเนื้อท่ามกลางบรรยากาศคลาสสิกเหมือนที่เราเคยนั่งกินเมื่อตอนเด็ก และกลายเป็นรสชาติที่หอมอร่อยฝังอยู่ในหัวจนไม่มีทางลืม เหมือนกับหลายๆ ครอบครัวที่เริ่มทยอยกันเข้ามาในร้าน และกำลังเปิดเมนูเลือกเนื้อสเต๊กอย่างมีความสุขที่อยู่ตรงหน้าของเราในตอนนี้

 


WHERE TO FIND NEIL’S TAVERN 

Open: Lunch 11.30 AM – 1.45 PM / Dinner 5.30 PM – 10.30 PM

Line ID: neil_dining

Facebook: Neil’s Tavern