Salt Lake De Maeklong

Salt Lake De Maeklong คาเฟ่บนนาเกลือใจกลางแม่กลอง

ซอลท์ เลค เดอ แม่กลอง (Salt Lake De Maeklong) คาเฟ่สีขาวขนาดย่อมๆ ริมนาเกลือ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘บ้านไร่ ไออรุณ’ ฟาร์มสเตย์ธรรมชาติแบบท้องถิ่นของไทย บวกกับไลฟ์สไตล์การเที่ยว Hopper แบบไต้หวัน โดยจุดเริ่มต้นมาจากไอเดียของ ‘เอก’ – สันติชัย กลั่นเครือวัลย์ วิศวกรหนุ่มและนักเดินทางท่องโลก ร่วมกับ ‘หวาน’- จิระวรรณ ยืนยั่ง ชาวแม่กลองโดยกำเนิด ซึ่งทั้งคู่เชื่อว่า จะสามารถสร้างนาเกลือแม่กลองให้กลายเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งของเมืองไทยไปพร้อมๆ กับการอนุรักษ์นาเกลือและวิธีการทำนาเกลือแบบดั้งเดิมให้คงอยู่ได้ต่อไป

Salt Lake De Maeklong

มนต์รักแม่กลองแว่วมา เหมือนสายธาราแม่กลองรำพัน

        ‘มนต์รักแม่กลอง’ เป็นเพลงโปรดของคุณเอก เจ้าของร้าน Salt Lake De Maeklong เขามักเปิดให้ลูกค้าฟังเพื่อเข้าถึงความเป็นบ้านเกิดและสัมผัสได้ว่าคนแม่กลองเป็นอย่างไร จากอดีตนักศึกษาที่เข้าไปเรียนต่อและทำงานในกรุงเทพฯ ถึงวันนี้เขากลับมาเพื่อสร้างสรรค์แหล่งท่องเที่ยวอนุรักษ์บ้านเกิดสไตล์ใหม่ เพื่อปลูกฝังให้คนไม่หลงลืมรากเหง้าความเป็นท้องถิ่นตนว่า ‘นาเกลือ’ ในรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าและบรรพบุรุษของที่นี่เคยเป็นอย่างไร

 

Salt Lake De Maeklong

 

        ร้านเล็กๆ ที่มาพร้อมกับความฝันไซซ์ใหญ่หลังนี้ค่อยๆ ต่อยอดจากคาเฟ่นาเกลือ ก่อนจะพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้การทำนาเกลือแห่งแรกของไทย โดยมีลูกเล่นให้ผู้มาเยือนได้สวมบทบาทสมมติเป็น ‘หนุ่ม-สาวนาเกลือ’ ทั้งลองหาบ สัมผัส และลิ้มรสกับเกลือ เพื่อขยายประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องปรุงธรรมดาๆ ในรูปแบบใหม่ทั้งรูป-รส-กลิ่น-เสียง

 

Salt Lake De Maeklong

 

        บรรยากาศในชั้นหนึ่งเผยให้เห็นทัศนียภาพกว้างที่ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังร้านแบบ 360 องศา ทั้งผืนนาเกลือ กังหันลมสีขาวขนาดใหญ่ ชิงช้าทรงสูงและลมที่พัดเข้ามากระทบไหล่ไล่ลามไปตามลำตัว พร้อมไอกลิ่นเกลือที่พาพัดโชยมาแตะจมูก เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสบรรยากาศของหนุ่มสาวนาเกลือ

 

Salt Lake De Maeklong

 

        ส่วนห้องด้านบนถูกสร้างขึ้นเป็นห้องกระจกสีขาวสไตล์ยุโรป ให้อารมณ์ที่แตกต่างจากชั้นล่าง ผ่านการตกแต่งในธีม ‘คริสต์มาสเนเวอร์เอนดิ้ง’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากค่ำคืนคริสต์มาสในไอซ์แลนด์ ประเทศที่ทำให้เอกเปลี่ยนมุมมองจาก ‘เกลือ’ ให้กลายเป็น ‘หิมะ’ โดยนำดอกเกลือมาบุผนังตามศาสตร์อุโมงค์เกลือของชาวอังกฤษ ที่เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย จนกลายมาเป็นกิมมิกผนังเกลือ (salt snow wall) มีพร็อพเป็นเตาผิงไฟทำจากเกลือ และมนุษย์หิมะเกลือ (salt snowman)

 

Salt Lake De Maeklong

 

       เขาบอกว่า หากมาในเวลาเย็นย่ำ จะมีโอกาสได้รับชมท้องฟ้าสีแสด และแสงอาทิตย์ทอดตกริมคันนาผ่านหน้าต่างบานใหญ่ เป็นความโรแมนติกแบบบ้านๆ ที่หาได้ง่ายเพียงแค่รอเวลาหน่อยก็เท่านั้น

 

salt lake de Maeklong

ดื่มน้ำตาลพร้อมกับยิ้มหวานของนวลละออง

        เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของที่นี่คือ ‘นมสาวนาเกลือ’ ที่มีตั้งแต่คัพเอไปจนถึงคัพอี โดยคัพของที่นี่หาใช่ขนาดสัดส่วน แต่มาจากจินตนาการสี่สาวลุ่มน้ำแม่กลองที่แบ่งเกลือจากแหล่งที่มาแต่ละอำเภอเป็นคัพเอถึงคัพอี นมสาวนาเกลือคัพเอ นมสาวบางคนทีคัพบี  นมสาวแม่กลองคัพซี และนมสาวอัมพวาคัพดี ถูกแบ่งโดยการนำ ‘ดอกเกลือ’ หรือส่วนที่ดีที่สุดของเกลือมาผสมให้เป็นรสชาติที่กลมกล่อม ตัดกับความหวานของน้ำตาล ที่ทำออกมาให้ใกล้เคียงกับซอลเต็ดคาราเมล ซึ่งเป็นเมนูที่ใช้วิธีปรุงแบบเดียวกันกับคาราเมลรสหวาน

        เมนูของที่นี่แทบทั้งหมดมีส่วนผสมของ ‘เกลือ’ และ ‘ดอกเกลือ’ ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้จากผืนนา ถึงจุดนี้หลายคนอาจเบ้ปากเถียงในใจเมื่อคิดถึงเกลือรสชาติเค็มปี๋ในแบบที่คุ้นเคย ว่ารสชาติเค็มโดดของ ‘เกลือ’ จะเป็นวัตถุดิบชูโรงหลักในแทบทุกเมนูอร่อยได้อย่างไร

 

Salt Lake De Maeklong

 

        พอได้ลองชิมเราก็เปลี่ยนความคิดทันที เมื่อได้พบว่ารสชาติของ ‘เกลือ’ กลับอร่อยแปลกลิ้น เพราะเกลือของที่นี่ไม่ใช่ ‘เกลือแกง’ ที่ใช้ประกอบอาหารทั่วไปในครัวเรือน แต่เป็น ‘ดอกเกลือ’ หรือเกลือส่วนที่ดีที่สุดในนาเกลือ โดยเขาเล่าว่า ถ้าเป็นดอกเกลือธรรมชาติ ไม่ผ่านการปรุงแต่งหรือบดใดๆ จะมองเห็นประกายวิบวับในแสงแดดเหมือนเพชร เมื่อลองชิมจะมีรสชาติเค็มน้อยและกลมกล่อมในคราแรก ผ่านไปสักพักจะมีรสชาติหวานติดปลายลิ้น ไม่เค็มโดดเหมือนเกลือทั่วไป  

 

Salt Lake De Maeklong

 

        นอกจากเมนูรสหวานตามสไตล์คาเฟ่แล้ว จุดเด่นของที่นี่ยังเป็นการนำเกลือมาปรุงรสในอาหารคาวในแบบฉบับของตัวเอง ทั้งไก่ทอดนาเกลือที่หมักและโรยด้วยเกลือ เฟรนช์ฟรายดอกเกลือ ที่ปรุงสุกแล้วโรยด้วยดอกเกลือ รวมถึงในส่วนผสมของเมนูซุปไก่คุณยาย ที่ใช้เกลือแทนน้ำปลาที่ผ่านการหมัก เพื่อคงความเป็นธรรมชาติและผ่านการปรุงแต่งให้น้อยที่สุด

 

Salt Lake De Maeklong

 

        นอกจากแทบทุกเมนูของที่นี่จะมี ‘ดอกเกลือ’ เป็นส่วนผสมแล้ว ทางร้านยังนำ ‘มะพร้าว’ ผลผลิตทางการเกษตรที่มีเยอะในเมืองแม่กลองมาฟิวชันเป็นเมนู ‘ปังปิ้งหน้ามะพร้าวคั่ว’ โดยนำมะพร้าวมาคั่วและโรยเป็นท็อปปิ้งบนขนมปัง ระหว่างที่นั่งกินเมนูนี้อย่างเอร็ดอร่อย เราก็ได้ฟังเรื่องราววิถีชีวิตของเด็กแม่กลองจากปากของชายหนุ่มที่เดินทางตะลอนมาแล้วทั่วโลกด้วย 

        “ที่บ้านผมมีสวนมะพร้าว ฝั่งหนึ่งเป็นนาเกลือ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นสวนมะพร้าว แม่ก็มักจะใช้ดอกเกลือมาปรุงอาหาร เวลาเก็บก็จะใส่ไหโบราณป้องกันความชื้น จะใช้เมื่อไหร่ก็ไปตักออกมาใช้เท่านั้น”

 

Salt Lake De Maeklong

 

        จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังที่กำแพงผนังสีน้ำตาล และบอกว่านี่คือทางมะพร้าวแห้งมัดเป็นแท่ง มีความแข็งแรง ดัดแปลงมาทำเป็นผนังสำหรับโซนชมนาเกลือด้านล่าง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศรอบด้าน  

        “คุณแม่ของผมเป็นคนทำเองกับมือทั้งหมดเลย เราได้ไอเดียมาจากสมัยก่อนที่แม่จะมัดทางมะพร้าวแห้งใส่เตาเพื่อต้มทำน้ำตาลมะพร้าว แต่สำหรับชาวบ้านในสมัยก่อนจะใช้ทำคบไฟ หรือที่เรียกว่า ‘มัดคบ’ สำหรับถือจุดไฟแล้วส่องเวลากลางคืน เวลาจะไปดูหนังกลางแปลง ขาไปคนสมัยก่อนจะมัดทางมะพร้าวที่ตกระหว่างทาง วางไว้ทีละร้อยเมตร เมื่อไฟมอดดับก็เปลี่ยนคบใหม่ ซึ่งผมก็ยังทันการใช้มัดคบกับเขาด้วยนะ” (หัวเราะ)

กรุ่นหอมไอทะเลเคล้าแซม

        เขาเล่าว่าห้วงนาตรงนี้ เป็นนาเกลือผืนสุดท้ายของจังหวัดสมุทรสงคราม จากอดีตนาเกลือธรรมชาติบวกกับอากาศร้อนๆ ที่ทำให้หลายคนมองข้าม จนกลายมาเป็นคาเฟ่และแหล่งเรียนรู้นาเกลือแห่งนี้ เขาเคยลองผิดลองถูกกับธุรกิจนาเกลือแบบดั้งเดิมมาแล้ว

        “ตอนแรกทำเป็นนาเกลือ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ คนที่ลงแรงบอกว่างานหนักมาก ขนาดคนเก่าทำมา 60 ปี ยังเลิก เพราะเกลือราคาต่ำ กิโลหนึ่งไม่ถึงบาท ราคาแค่ 50 สตางค์” 

        จากความพยายามในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกลือจากบ้านเกิด จึงขับเคลื่อนให้ Salt Lake De Maeklong ค่อยๆ เติบโตจากคาเฟ่ที่เป็นจุดแวะพักรถสำหรับนักเดินทาง มาเป็นแหล่งเรียนรู้การทำนาเกลือในท้องถิ่น

 

Salt Lake De Maeklong

 

        “เด็กๆ บางคนยังไม่รู้เลยว่าเกลือทำมาจากอะไร เกิดจากอะไรบ้าง ได้แค่กินอย่างเดียว ตอนกินเกลือก็ไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้ แต่กินแบบเป็นเกลือป่นแล้ว” เขาบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เบาลงจนเราจับความรู้สึกได้

        เมื่อจุดประสงค์เป็นไปในเชิงอนุรักษ์ เขาจึงนำอุปกรณ์การทำนาเกลือแบบดั้งเดิมมาใช้ ทั้ง ‘กังหันนาเกลือ’ ตัวสุดท้ายของประเทศไทยที่ทำจากไม้ไผ่ รวมถึง ‘ระหัดวิดน้ำ’ อายุกว่า 60 ปี ซึ่งเป็นการทำนาเกลือในความทรงจำครั้งเก่าของเขา ที่ชาวนาใช้กังหันใหญ่วิดน้ำจากนาที่หนึ่งไปยังอีกนาอีกที่หนึ่ง

 

Salt Lake De Maeklong

 

        “เราเอากังหันสูบน้ำขึ้นนาแรก เมื่อก่อน การวิดน้ำเข้านาจะใช้แค่แรงลม สมัยนั้นเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้าไม่มีหรอกเพราะที่นี่อยู่ลึกมาก ไฟเข้าไม่ถึง เลยใช้ลมในการวิดน้ำขึ้นไปยังนาแรกที่อยู่สูงที่สุด แล้วปล่อยน้ำไล่ลงมาเป็นขั้นบันได สุดท้ายนาที่ตกเกลือคือนาส่วนท้ายที่อยู่ต่ำสุด ซึ่งสิ่งนี้เป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน”

        เกลือที่นี่ยังใช้วิธีขนด้วยแรงงานและคานไม้หาบ เพราะการหาบด้วยวิธีโบราณสามารถแยกชั้นเกลือประเภทต่างๆ ได้ ทั้งเกลือตัวผู้ ที่ลักษณะเป็นผลึกปลายแหลม เกลือตัวเมียจะมีลักษณะเป็นผลึกก้อนๆ ส่วนเกลือกลาง และเกลือดำจะเป็นเกลือเหมาที่ราคาถูกลง

        ปัจจุบันเอกมองว่าการแปรรูปเป็นทางอยู่รอดของเกษตรกรยุคใหม่ เขายังทำนาเกลือของตนเอง และเก็บเกี่ยวผลผลิตเกลือเองเพื่อควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ของร้าน 

        “แทนที่จะเอาเกลือธรรมดาไปกิน กิโลกรัมหนึ่งราคาแค่ 2-3 บาท นำมาแปรรูป ใส่แพ็กเกจและการตลาดไปก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้ ถ้าเกษตรกรยุคก่อนทำแล้วขายหน้าร้าน สักพักก็จะวนลูปอยู่แบบนี้ ขายราคาถูกก่อนเพื่อเอาเงินไปใช้เพราะเงินขาด สุดท้ายคนที่รวยไม่ใช่ชาวนา แต่เป็นนักธุรกิจ ส่วนชาวนาก็ยังคงจนอยู่อย่างเสมอต้นเสมอปลาย”

 

Salt Lake De Maeklong

ล่องลอยเมื่อคืนข้างแรม

        สาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ Salt Lake de Maeklong ถือกำเนิดขึ้นกลางลุ่มน้ำแม่กลองได้มาจากความเป็น ‘นักเดินทาง’ ที่เราเห็นได้ในมุม Salt Around the World มุมที่เขาจัดแสดงเกลือที่ได้จากการเดินทางรอบโลก โดยเก็บเอาเกลือจากประเทศต่างๆ มาให้ลูกค้าชม

        เขาเล่าว่าทุกประเทศมีเกลือหมด แต่ต่างกันด้วยแหล่งผลิต รูปร่าง สีสัน และรสชาติ และจากประสบการณ์แบ็กแพ็กเที่ยวไปสัมผัสเรื่องราวในหลากหลายประเทศพร้อมกล้องคู่ใจ เขาพบว่าเกลือไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก อย่างเกลือสีชมพูอ่อนๆ ในนาแห่งนี้ที่เกิดเฉพาะหน้าหนาวช่วงปลายปีที่แล้ว

        เขายังเฉลยกิมมิกของร้าน ด้วยป้ายหลักกิโลที่เขาเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังประเทศต่างๆ และได้กลับมาบ้าน (Bangkok-Bangkok) เป็นระยะทาง 48,000 กิโลเมตร จึงไม่ใช่ระยะทางที่เราเข้าใจว่าเป็นการเดินทางจากกรุงเทพฯ มาแม่กลอง ที่ระยะ 60 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น แต่เป็นการเดินทางรอบโลกที่ออกทางฝั่งเมียนมา ท่องเที่ยวประเทศต่างๆ กว่า 15 ประเทศ 38 เมือง เป็นเวลา 60 วัน จนอิ่มหนำ ก่อนกลับมายังจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

        “การออกเดินทาง เพื่อย้ำความคิดและความเชื่อของตัวเอง และผมก็ได้คำตอบมาเป็นคาเฟ่แห่งนี้”

        จากจุดเริ่มต้น ณ อำเภอแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ผ่านเส้นทางสายชีวิตที่เรียนรู้และค้นหาต่อไปอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด แต่ในสุดสายปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกไปไกลสักแค่ไหน เส้นทางสายนี้ก็จะนำเขากลับมาสู่ ‘แม่กลอง’ เมืองบ้านเกิด และทาบทับกับ ‘จุดเริ่มต้น’ จนได้เรื่องราวใหม่ๆ อีกครั้ง

 


WHERE TO FIND ‘Salt Lake De Maeklong’

Address: 178/9 หมู่ 7 ถนนพระราม 2 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม

Facebook: Salt Lake De Maeklong ซอลท์ เลค เดอ แม่กลอง