Urban Dude

Urban Dude ร้านตัดสูทสุดขบถที่เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว

กลิ่นอายมิลานใจกลางกรุง 

        เราคุ้นชินกับไอร้อนในตอนกลางวัน เสียงและกลิ่นควันจากรถยนต์บนท้องถนนของกรุงเทพฯ เคล้ากับบรรยากาศของผู้คนขวักไขว่ที่ผสมทั้งคนไทยและต่างชาติในย่านทองหล่อ และคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของย่านนี้ที่จะเต็มไปด้วยความพลุกพล่านของความเป็นใจกลางเมือง แต่ความรู้สึกนี้ได้เปลี่ยนไปทันทีเราเดินลงบันได ก่อนจะผลักประตูกระจกที่มีเสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋งเบาๆ เข้าสู่ร้านตัดสูท Urban Dude เสียงดนตรีคลอๆ มวลบรรยากาศด้านในแปลกไปจนทำให้เราชะงักเท้า

 

Urban Dude

 

        เมื่อเดินลงมาสู่โถงต้อนรับตรงกลาง เราเจอกับร้านตัดเย็บลึกลับเก่าแก่ที่หลบซ่อนตัวอยู่เงียบๆ ในย่านที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ด้านขวามือคือตัวอย่างเสื้อสูท เนกไทผ้าไหม แว่นตากันแดด ซ้ายมือคือหุ่นที่ใส่สูทเผยให้เห็นดีเทลการตัดเย็บ ตรงกลางคือเคาน์เตอร์ที่มีชั้นวางเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีน้ำผึ้งหลากหลายยี่ห้อ 

        ประตูโค้งบานแรกพาเราเข้าสู่ห้องรองเท้าหนัง ที่วางเรียงรายเสมือนตู้โชว์คอลเลกชัน ถ้าผลักบานประตูไม้อีกบาน ก็จะเข้าสู่ห้องตัดแพตเทิร์น ด้านบนตกแต่งด้วยแพตเทิร์นกระดาษของจริง และห้องสุดท้าย ห้องรับรอง (ไม่) ลับ ที่ดูลักชัวรี แต่ให้ความรู้สึกโฮมมี บรรยากาศเหล่านั้นชวนให้เรานึกถึงภาพยนต์หล่อๆ อย่าง Kingsman และ The Godfather จนเผลอคิดว่า หากเราเป็นสุภาพบุรุษคอเดียวกัน เจ้าของร้านอาจจะเชิญชวนจิบบรั่นดี ก่อนที่จะเริ่มต้นบทสนทนาว่าด้วยเรื่องสูทของตัวเอง 

 

Urban Dude

 

        “เราต้องการให้ทุกคนที่เข้ามาในร้านได้รู้สึกราวกับว่าได้เดินทางไปร้านสูทสักแห่งในเมืองมิลาน เหมือนกับที่เราเคยไปสัมผัสมาเอง ชั่วโมงแรกเราอาจคุยแค่เรื่องความชอบหรือรสนิยม แต่ในระหว่างนั้นเราจะเก็บรายละเอียดบุคลิกภาพท่าทางการยืน นั่ง หรือเดิน ชั่วโมงถัดไปเพิ่งจะได้วัดตัว เลือกผ้า คุยดีเทลเรื่องการธีมจัดงาน ชุดของเจ้าสาว ช่างภาพที่ถ่ายให้ เพื่อนำมาประกอบการเป็นสูทแรกที่จะทำให้เจ้าบ่าวอย่างเขา เสริมความมั่นใจและโดดเด่นเท่ากับเจ้าสาว 

        “บางครั้งลูกค้าที่ต้องการสูทเจ้าบ่าว สูททำงาน หรือสูทสำหรับใส่ในโอกาสอื่นๆ เวลาสนทนาก็จะนานขึ้น ไม่ใช่แค่ดีเทลการวัดตัว แต่เป็นดีเทลชีวิต ทำให้เราต้องเสิร์ฟเครื่องดื่มสีอำพัน เพื่อต่อบทสนทนาให้ลื่นไหล กลายเป็นคอมมิวนีตี้เล็กๆ ที่แต่งแต้มให้เราสนุกและสามารถอยู่กับอาชีพนี้ไปได้อีกเรื่อยๆ” 

 

Urban Dude

ศิลปะของการตัดเย็บ จากโรงงานรองเท้าของแม่ สู่ดีไซน์ของลูก การเดินทางไปอิตาลี

        เขากระชับเสื้อสูท Double Breasted ด้วยความมั่นใจ และภาคภูมิใจกับอาชีพที่สร้างอาณาจักรสูท เกิดเป็นร้าน Urban Dude ที่ทำให้เขาเติบโตทั้งความคิด และโอกาสทางธุรกิจที่เขาเลือกเองกับมือ

        “เราได้ภาคปฏิบัติและองค์ความรู้พื้นฐานการออกแบบมาจากคุณแม่ ซึ่งทำธุรกิจตัดเย็บรองเท้าสตรีส่งออก แต่สิ่งที่เราได้มากกว่าความรู้ คือแนวคิดและแนวปฏิบัติต่อตัวเองและลูกค้า นั่นก็คือเรื่องความซื่อสัตย์ คุณภาพที่ต้องไปให้สุด และต้องหาอัตลักษณ์ของตัวเองให้เจอ

        “แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ ความขบถเล็กๆ ของตัวเอง ที่อยากจะฉีกออกจากธุรกิจของคุณแม่ เพื่อให้ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจ และชื่นชอบเป็นพิเศษมาตั้งแต่เด็ก นั่นก็คือ สูทและรองเท้าหนังที่ดูแก่แต่แฟชั่นจัด” (หัวเราะ)

        ความน่าสนใจของเด็กหนุ่มหัวขบถอย่างเขา คือความมุ่งมั่นที่มีพลังล้นเหลือและลงลึกในเรื่องที่สนใจอย่างจริงจัง หลังเรียนจบเขาตัดสินใจสร้างแบรนด์เครื่องหนัง Urban Dude ในปี 2557 เน้นไปที่รองเท้าหนังสไตล์อิตาลี เจ้าวงการแห่งแฟชั่นที่เขาหลงใหล จนต้องซื้อทุกแบรนด์ เพียงเพื่อตามหารองเท้าคู่งามและไม่กัดเท้า  

        “รองเท้าหนังที่เราซื้อมา เรายอมแกะออกมาเพื่อดูแบบด้านใน ศึกษาเทคนิคต่างๆ เพื่อออกแบบรองเท้าหนังที่เหมาะกับเท้าคนเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนเท้าบาน จนสุดท้ายเรารู้วิธีการออกแบบรองเท้าที่สวยและไม่กัด เพียงแค่ขยายบริเวณกลางเท้าเล็กน้อยเท่านั้น เห็นว่าเป็นจุดเล็กๆ แต่กว่าจะพบก็ใช้เวลา และเพื่อการันตีว่ารองเท้าจะไม่กัด เรามีบริการที่เรียกว่า Bespoke Service การสั่งตัดเฉพาะคนหนึ่งคนเท่านั้น

        “รองเท้าก็เช่นกัน เราจะตัดตามขนาดเท้าของลูกค้า ด้วยการสร้างโมเดลเท้าของลูกค้าขึ้นมา ก่อนจะตัดแพตเทิร์นรองเท้า ลูกค้าสามารถเลือกหนัง พื้นรองเท้าได้ทั้งหมด หรือมีแบบรองเท้าหนังที่ใช้วิธีการสาน ที่ให้กลิ่นอายคราฟต์แต่ให้ความรู้สึกเท่ และสุขุม”

        จากรองเท้าหนัง วุฒิพงศ์เริ่มหันมาสนใจ ‘สูท’ มากกว่าการชื่นชอบ แต่เขามองเห็นการแตกไลน์สินค้าที่น่าลิ้มลอง ดังนั้น เขาจึงไปเรียนคอร์สสอนตัดสูทขั้นพื้นฐาน เริ่มตั้งแต่ขึ้นจักร การเย็บ เทคนิคต่างๆ ที่เขาเองก็ไม่เคยรู้

 

Urban Dude

 

            “เรามีช่างตัดพร้อมอยู่แล้ว แต่เราจำเป็นต้องรู้ให้จริงตั้งแต่ศูนย์ เหมือนกลับไปเรียนวิชาคหกรรมสมัยเด็กๆ ซึ่งแต่ละอย่างก็ยากมาก ทำให้เรารู้ว่าทำไมงานคราฟต์จึงมีราคาที่สูง ไหนจะเรื่องการเลือกวัตถุดิบอีก ซึ่งการเรียนรู้จากศูนย์ในครั้งนั้น ทำให้เรารู้รายละเอียดยิบย่อยมากขึ้น และทำให้เรารู้ว่าการตัดเย็บคือศาสตร์และศิลป์ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความรู้เป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายเราก็พบว่า สิ่งที่เรียนรู้ ไม่สู้สิ่งที่เราแสวงหาจนเกิดประสบการณ์”

        เขากลับมาดำดิ่งไปกับกองหนังสือที่เกี่ยวกับเสื้อสูท ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ ดีไซน์ และเรื่องราวของบุคคลที่เกี่ยวข้องในวงการแฟชั่นสูท โดยเฉพาะสูทอิตาลี 

        “เราศึกษาการตัดสูท ไม่ใช่แค่เรียนพื้นฐาน ไม่ได้อยู่แค่ในกองหนังสือ ไม่ได้มองเชิงธุรกิจแค่ภายในประเทศ แต่เราเลือกที่จะเดินทางไปเติมความรู้จากภายนอก” หนึ่งในนั้นก็คือการได้ไปศึกษาเทรนด์แฟชั่นผู้ชายกับงานที่มีชื่อว่า Pitti Uomo สถานที่ที่ช่างตัดเย็บผีมือดีจากหลากหลายแบรนด์ดังทั่วอิตาลีและทั่วโลกมาโชว์คอลเลกชันสำหรับสุภาพบุรุษโดยเฉพาะ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี กันมาตั้งแต่ปี 2515 และได้เขย่าวงการแฟชั่นผู้ชายมาจนทุกวันนี้ 

 

Urban Dude

ขบถแห่งสูท  

        วุฒิพงศ์เดินกลับมาที่โถงหน้าร้าน พาเรามาดูแพตเทิร์นด้านในของสูท ชี้ให้เห็นรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย โดยเฉพาะการเสริมด้วยผ้าแคนวาสด้านใน เพื่อทำให้ทุกการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่เป็นไปอย่างราบรื่น ราวกับ Second Skin ที่ตัดเย็บแบบ Urban Dude Bespoke ที่มีเพียงตัวเดียวในโลก 

        “เราหลงใหลสูทแบบอิตาลี เพราะดีไซน์ผสมกับความคราฟต์ที่ละเอียดยิบทุกอณู” นี่คือเหตุผลหลักของเขา บวกกับการเดินทางไปอิตาลีหลายต่อหลายครั้ง ตามไปดูและพูดคุยกับช่างตัดเย็บที่มีฝีมือและขึ้นชื่อมากมาย เขาจึงค้นพบว่า ช่างทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสูทหนึ่งตัว แต่ละคนก็จะลงลึกในสายงานของตัวเอง ทำซ้ำๆ แบบนั้นมาเกือบทั้งชีวิตด้วยความหลงใหล และนี่คงทำให้วงการแฟชั่นอิตาลีโดดเด่นและโด่งดังในระดับโลก 

        “อิตาลีมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่เราชอบและนำเทคนิคนี้มาใช้ หนึ่งในนั้นคือวิธีเสริมให้สุภาพบุรุษดูอกผายไหล่ผึ่ง ดูเท่ เพียงแค่การตัดหัวไหล่ให้เทลาดขึ้นมาเป็นสัน ไม่ตั้งตรงเสริมฟองน้ำเหมือนทางฝั่งอังกฤษ ลักษณะจะเหมือนกับรูปทรงสามเหลี่ยมคว่ำ จุดนี้จะทำให้เสริมบุคลิกของสุภาพบุรุษได้ทุกรูปแบบ” 

 

Urban Dude

 

        เขาเล่าดีเทลตั้งแต่เนื้อผ้า เทคนิคการเย็บแบบคราฟต์ ประเภทของสูท เรื่อยไปจนถึงเรื่องเล็กสุดแต่ใหญ่ที่สุดอย่างกระดุมบนสูท เขาเล่าว่า อิตาลีคือผู้นำเรื่องวัฒนธรรมการติดกระดุม ต้องปลดกระดุมตัวล่างเสมอ ต่อให้มีสามเม็ดหนึ่งแถว หรือสี่เม็ดสองแถวก็ตาม เรื่อยไปจนถึงเรื่องความยาวแขนเสื้อกับข้อมือที่ต้องเผยให้เห็นข้อมือนิดๆ และหากใส่นาฬิกาก็ต้องไม่หลบอยู่ในแขนเสื้อ ไม่รวมกับแอคเซสซอรีอื่นๆ ไม่ว่าเนกไทไหมอิตาลี ที่ใช้วิธีคราฟต์ด้วยการพับทับที่มีตั้งแต่สองทบ จนถึงแปดทบ จนเป็นทรงเทกไนอย่างที่เห็น การพับผ้าเช็ดหน้าใส่สูท เสื้อเชิ้ตตัวใน ทรงกางเกง แว่นตากันแดด หรือแม้กระทั่งร่มแบรนด์ในตำนาน  Francesco Maglia ที่สืบทอดวิชาช่างทำภายในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 160 ปี ที่ไม่นานก็จะสามารถสั่งทำแบบ Bespoke ได้เช่นกัน

        “อิตาลีคือแรงบันดาลใจ แต่เราก็ยังคงผสมผสานไปกับความเป็นตัวของตัวเองของเราและผู้สวมใส่เสมอ เราเป็นผู้ชายจัดจ้านฉีกกฏก็จริง แต่เรานำสิ่งเหล่านั้นมานำเสนอผ่านงานดีไซน์ที่เนี้ยบทุกรายละเอียด ขบถนิดๆ แต่มีลูกเล่นที่ออกนอกกรอบ อย่างการใช้ผ้าลายกราฟิกทำเป็นซับในอยู่ด้านหลัง เวลาใส่จะไม่เห็น แต่เวลาขยับร่างกาย หรือถอดออกมา ก็จะให้เห็นมุมสนุกที่ซ่อนอยู่ หรือการทวิสต์รูปทรง ผสมหลายอย่างเข้าด้วยกัน ไม่ได้ดูแปลก ไม่ได้ดูแฟชั่นจนสวมใส่ไม่ได้ ทั้งหมดยังคงพื้นฐานสูทกลิ่นอายอิตาลี ที่มีความสุขุม ลุ่มลึกไว้เหมือนเดิม” 

 


Urban Dude: ซอยทองหล่อ 8 เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30-21.00 น. www.facebook.com/urbandudestore