เรื่องเล่นเห็นธรรม

ชมผลงานภาพถ่ายส่วนตัว หนึ่งในกระบวนการทดลอง ‘เล่นให้เห็นธรรม’ ของท่านพุทธทาสภิกขุ

หากใครเคยได้ศึกษางานของพระธรรมโกศาจารย์ หรือที่รู้จักกันในนามพุทธทาสภิกขุ คงจะได้เห็นจุดร่วมแนวคิดอย่างหนึ่งที่ท่านพุทธทาสภิกขุใช้ทำงานมาโดยตลอด นั่นคือการหยิบเอาความเชื่อดั้งเดิมมาตั้งคำถาม ตรวจสอบ และทดลองหาคำตอบด้วยตัวเอง อะไรที่ใช้ไม่ได้ก็ทิ้งไป และอะไรที่ใช้ได้ก็หยิบมาต่อยอดทดลอง เหมือนที่ครั้งหนึ่งท่านบอกกับชาวพุทธว่า “แม้แต่พระพุทธเจ้าและพระธรรมคำสอนก็อาจจะเป็นภูเขาที่ขวางกั้นชาวพุทธให้เข้าถึงแก่นหรือหัวใจของธรรมะอย่างแท้จริง” จนท่านถูกกล่าวหาจากสังคม ว่าเป็น ‘พระคอมมิวนิสต์’

        หนึ่งในกระบวนสำคัญที่ท่านพุทธทาสใช้ทดลองสิ่งต่างๆ นั้นมีแนวคิดมาจาก ‘การเล่น’ ใครที่ได้เห็นอุปกรณ์ทำงานหรือสิ่งของที่ท่านเหลือทิ้งไว้ จะรู้ได้เลยว่าท่านเป็นหนึ่งในพระสงฆ์ที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น

        “สมัยหนึ่งเคยเล่นชนิดที่ที่มีประโยชน์ทางวัตถุ เคยเล่นหีบเสียง เรียนภาษา เล่นพิมพ์ดีดเพื่อพิมพ์หนังสือ เล่นกล้องถ่ายรูปเพื่อรวบรวมรูป และอะไรๆ ที่มันคล้ายๆ อย่างนี้ ก็เป็นส่วนแห่งการเล่น… ผมเคยเล่นเกือบทุกอย่างตามความเหมาะสม ตามโอกาส จะจัดลำดับไม่ค่อยได้ แต่มันก็มีลำดับอยู่ในตัว ตามที่อายุมันมากเข้า สถานะของตนมันเปลี่ยนไป เรื่องเล่นก็ต้องเปลี่ยนไปพอเหมาะพอสม” (เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา, 2535 หน้า 286)

        เรื่องเล่นๆ ที่ท่านพุทธทาสทดลองศึกษา ฝึกฝนกับตัวเอง หลายครั้งได้ออกดอกเป็นผลงานชั้นครูที่ยังเป็นที่กล่าวถึง แม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบปี โดยเฉพาะด้านภาพถ่าย ผลงานชุด ‘บทพระธรรมประจำภาพ’ ที่เป็นภาพถ่ายและกลอนธรรมะกว่า 423 บท มีการใช้เทคนิคอัดภาพสมัยใหม่ สร้างสรรค์ภาพปริศนาธรรมได้อย่างน่าสนใจ โดยภาพส่วนใหญ่ถ่ายโดยพระสมเณรบุญชู พระช่างภาพคู่บุญ ซึ่งท่านพุทธทาสที่วางมือจากการจับกล้องเป็นผู้กำกับไอเดียในแต่ละภาพ และการเผยแพร่ธรรมะด้วยกลวิธีการดังกล่าว โดดเด่นแตกต่างจากพระสงฆ์องค์อื่นๆ ในยุคสมัยนั้นอย่างมาก

        จากคำบอกเล่าของพระมหาบุญชู เป็นเรื่องน่าเสียดายมากๆ ว่าผลงานภาพถ่ายจำนวนมากผุพังไปตามกาลเวลาและการเก็บรักษาที่ไม่ดีพอ แต่เรามีโอกาสได้ภาพถ่ายชุดพิเศษ ในวันวานที่ท่านพุทธทาสภิกขุยังคงทดลองกดชัตเตอร์ด้วยตัวเอง ซึ่งผลงานเหล่านี้จะไปโชว์ในนิทรรศการ ‘เรื่องเล่นเห็นธรรม’ ที่จัดขึ้นที่สวนโมกข์กรุงเทพ ตั้งแต่วันนี้ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2563 

        เราอยากชวนคุณไปดูผลงานภาพถ่ายที่เป็นหนึ่งในกระบวนการทดลอง ‘เล่นให้เห็นธรรม’ ของท่านพุทธทาสภิกขุในบทความชิ้นนี้

 

เรื่องเล่นเห็นธรรม

เรื่องเล่นเห็นธรรม

 

        “กล้องแรกที่มีใช้ โกดัก เวสต้า 12 บาท ซื้อที่เวิ้งนาครเขษม มันก็ถ่ายได้ดี แล้วก็มาหัดล้างหัดอัดเอง มันเป็นงานง่ายๆ น้ำยามันสำเร็จรูป ผสมมาเป็นขวด มาเติมน้ำสิบเท่า ก็ล้างได้” (เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา, 2535 หน้า 72)

 

เรื่องเล่นเห็นธรรม

 

        “สิ่งที่เรียกว่าเล่นมันมีความหมายมาก กินความกว้างขวาง จากเล็กที่สุด จนถึงใหญ่ที่สุด แม้แต่แต่งโคลงแต่งกลอน มันก็เป็นของเล่น ไม่ได้จริงจัง ผมก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร บอกได้แต่ว่าเคยเล่นสิ่งเหล่านี้มาตามโอกาส” (เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา, 2535 หน้า 287)

 

เรื่องเล่นเห็นธรรม

เรื่องเล่นเห็นธรรม

เรื่องเล่นเห็นธรรม

 

        “โอ๊ย มันสนุก ถ่ายรูปมาดีก็สนุก ถ้าไม่ดีก็อยากจะแก้ตัวใหม่ มันก็ให้เราเลือกได้ตามพอใจ ผมเคยถ่ายแต่เมฆอย่างเดียวตั้งพันภาพ เมฆสวยขึ้นมาเป็นรูปอะไรๆ ก็ถ่ายไว้ อัดเองมันถูกมาก… เราไม่ต้องมีห้องมืด ล้างตอนกลางคืน อากาศก็เย็นสบาย ทำเฉพาะกลางคืน เข้าไปในห้องมันร้อน มันอับ มันอึดอัด” (เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา, 2535 หน้า 72-73)

 

เรื่องเล่นเห็นธรรม

เรื่องเล่นเห็นธรรม

เรื่องเล่นเห็นธรรม

เรื่องเล่นเห็นธรรม

 

        “มันต้องพิสูจน์ว่าไม่มีโทษ คือให้มันมีประโยชน์ ของเล่นมีประโยชน์ก็มี ของเล่นที่ไม่มีประโยชน์ก็มี ให้โทษก็มี พูดรวมๆ กันไม่ได้ ของเล่นมันต้องมี พักผ่อนหย่อนใจต้องมี” (เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา, 2535 หน้า 434)

 

เรื่องเล่นเห็นธรรม

เรื่องเล่นเห็นธรรม

เรื่องเล่นเห็นธรรม

เรื่องเล่นเห็นธรรม