คนกรุงเทพฯ เพิ่งจะหายใจหายคอได้ดีขึ้น (นิดหน่อย) จากมลพิษของฝุ่นระดับ PM 2.5 ไม่นาน แต่ในส่วนของภาคเหนืออย่างจังหวัดเชียงใหม่ กลับกำลังเผชิญกับวิกฤตจากฝุ่นร้ายครั้งนี้อย่างหนัก ซึ่งความน่าวิตกนี้ถูกถ่ายทอดผ่านภาพของ ชาคริต ทองวัฒนา ช่างภาพอิสระที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ตามเฝ้าสังเกตสภาพที่ไม่ปกตินี้มาตั้งแต่ต้น และพบว่าในหลายๆ จุดที่เขาไปสำรวจนั้นไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนในพื้นที่รับรู้และป้องกันตัวจากอันตรายที่แฝงอยู่ในอากาศที่พวกเขากำลังสูดมันเข้าไปเลย
“กำแพงเมืองเชียงใหม่ และรถสองแถวสีแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ ในภาพจะเห็นว่าคนขับมอเตอร์ไซค์นั้นใส่หน้ากากอนามัยอยู่ แต่หน้ากากแบบนี้ไม่สามารถกรองฝุ่นที่เล็กระดับ PM 2.5 ได้ ซึ่งผมคิดว่าเขายังไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์อย่างเข้าใจในเรื่องนี้ และที่เห็นมาก็คือคนเชียงใหม่ใส่หน้ากากกันฝุ่นน้อยมากจนน่าตกใจ”
“คนขับมอเตอร์ไซค์ที่ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง แต่คนซ้อนกลับสวมหน้ากากที่ไม่เหมือนกับคนขับ ดูแล้วมีความขัดแย้งกัน ชวนให้คิดว่าหน้ากากของคนซ้อนนั้นจะป้องกันฝุ่นได้ดีเท่าของคนขับหรือเปล่า”
“นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง แต่คนเชียงใหม่กลับไม่ค่อยสนใจจะป้องกันตัวเอง”
“ถ้าดูให้ดีจะเห็นว่าหน้ากากที่เด็กใส่นั้นจะไม่ครอบที่จมูกของเด็ก ซึ่งนี่เป็นข้อจำกัดของหน้ากากสำหรับเด็ก คือใส่แล้วปิดไม่สนิท จะมีช่องออกมาเหนือบริเวณดั้งจมูก ดังนั้น ความปลอดภัยของเด็กจึงน่าเป็นห่วงมาก”
“หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 สำหรับเด็กหาซื้อได้ยากมาก โดยเฉพาะรุ่นที่กระชับใบหน้าของเด็กวัย 2-3 ขวบ ทำให้เด็กบางคนต้องใส่หน้ากากแบบที่ไม่รองรับรูปหน้าของเขา ใส่ไปก็หลุดหรือหลวมจนมีช่องให้ฝุ่นเข้าไป”
“หอคำหลวงในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ด้านหลังเป็นวัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งมีฝุ่นและควันปกคลุมอยู่ โดยจะเห็นว่าไกลออกไปคือดอยสุเทพ แต่เราเริ่มจะมองไม่เห็นแล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินอยู่ในรูปก็ไม่ได้ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น”
“วัดอินทขีลสะดือเมือง ตั้งอยู่ใกล้ๆ ประตูท่าแพ ซึ่งเป็นย่านที่การจราจรพลุกพล่าน”
“ค่าฝุ่นละอองในระดับ 400 AQI บริเวณห้างเมญ่า ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากจนน่ากลัว แถมบางวันยังพุ่งไปถึงระดับ 500 AQI”
“ปกติถ้ามองจากตรงนี้จะเห็นว่าข้างหลังคือดอยสุเทพ แต่ตอนนี้มองไม่เห็นแล้ว และจะเห็นว่ามีคนที่ทั้งใส่และไม่ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น ซึ่งเชียงใหม่เองเเป็นจังหวัดที่มีต้นไม้และป่าเยอะ แต่สุดท้ายก็ยังสู้ฝุ่นไม่ไหว”
“เหล่านักศึกษาแพทย์บริเวณย่านสวนดอกกำลังเดินกลับที่พัก ซึ่งประชาชนที่อยู่ในบริเวณนี้ค่อนข้างจะป้องกันตัวเองได้ดี ทำให้คิดว่าความรู้มันกระจุกอยู่แค่บริเวณนี้ เพราะมีทั้งโรงพยาบาลและคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อยู่ตรงนี้”
“รูปถ่ายจากหน้าต่างเครื่องบินโดยฝีมือเพื่อนของผมที่กำลังบินไปกรุงเทพฯ ด้านล่างเป็นเป็นถนนเลียบคลองชลประทาน ด้านหลังเป็นดอยสุเทพ ฝุ่นที่ครอบเมืองเชียงใหม่อยู่ทำให้มองอะไรแทบไม่เห็น”
“รูปถ่ายจากบริเวณลานจอดรถของย่านสวนดอก อยากให้เห็นสภาพของเมืองเชียงใหม่โดยรวมที่มีต้นไม้อยู่เยอะ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานฝุ่นควันที่ลอยอยู่ในอากาศได้”
“ปกติเราจะมองเห็นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารด้วยตาเปล่าจากมุมนี้ แต่ตอนนี้จะพบว่าเหมือนมีฝ้ามากั้นสายตาเราไว้”
“รูปตอนเช้าจากจุดชมวิวของเชียงใหม่ที่ถูกปกคลุมด้วยละอองฝุ่นไปทั้งเมือง”
เรื่องและภาพ: ชาคริต ทองวัฒนา