Galleries’ Nights 2021: เดินทอดน่องท่องแกลเลอรีนับสิบริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ช่วงนี้บทสนทนาของเรากับเพื่อนๆ คงไม่พ้นความหวังว่าอีกไม่นานเราจะสามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้เหมือนเดิม ซึ่งสิ่งที่เราจะวางโปรแกรมไว้ในทุกทริปคือ การแบ่งเวลาในการเดินทางเพื่อไปเดินท่องดูแกลเลอรีที่อยู่ในย่านต่างๆ ของเมืองที่ไป มีการเอาปากกามาวงและสร้างแผนที่คร่าวๆ เพื่อเริ่มต้นเดินทางและลัดเลี้ยวแวะไปเก็บสถานที่ที่หาข้อมูลไว้ เรื่องเล่านี้เป็นความรื่นเริงใจที่หยิบขึ้นมาเล่ากันทีไร ก็มีแต่ความสนุกเกิดขึ้นในวงสนทนาทุกที

        เมื่อการพูดคุยมาถึงประเด็นที่บางคนในกลุ่มตั้งคำถามว่า ‘แล้วทำไมบ้านเราถึงไม่มีแกลเลอรีที่โชว์งานศิลปะให้เดินเที่ยวไปรอบๆ เหมือนต่างประเทศขึ้นมาบ้าง’ คำตอบนี้ก็ถูกไขด้วยงาน ‘Galleries’ Nights ครั้งที่ 8’ โดยสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ที่จัดขึ้นมาหลังจากที่เราไม่สามารถออกนอกบ้านไปใช้ชีวิตได้เกือบสองปี และทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้ว ในกรุงเทพฯ นั้น มีแกลเลอรีมากมายทั้งใหญ่และเล็ก ที่ซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ มากกว่า 80 แห่ง และเราสามารถใช้เวลาช่วงแดดร่มลมตก ตระเวนไปเยี่ยมชมงานได้ไม่ต่างกับในต่างประเทศเลย 

Galleries’ Nights 2021 : Art is the Solution

        กิจกรรมนี้ได้เริ่มต้นขึ้นไปแล้ว โดยเปิดงานที่ N22 Art Warehouse ซอยสาธุประดิษฐ์ 15 อาร์ตสเปซที่เป็นหนึ่งในชุมชนของแกลอรีที่มีแกลเลอรีอย่าง Gallery VER, Cartel Art Space, La Lanta Fine Art, VS Gallery และ Tentacles อยู่ใกล้ๆ กัน โดยเปิดงานด้วย Unsubjected Verses | บทกวีที่ไม่มีประธาน โดย 100 Tonson Gallery ซึ่งเป็นการออกมาพูดถึงพลังและความรู้สึกที่อัดแน่นตลอด 8 ปีที่ผ่านมาของมุมมองคนรุ่นใหม่ที่มีต่อสังคมไทยในวันนี้ 

        โดยงานนี้มีการทำแผนที่เส้นทางของแกลเลอรีต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางสายสีลม-สาทร-ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเส้นทางอารีย์-ปทุมวัน-สุขุมวิท มาให้ ซึ่งทำให้รู้ว่า ไม่ว่าคุณจะเลือกไปย่านไหนก็จะได้เจอกับจุดชมงานศิลปะที่ตั้งอยู่รวมกันทั้งสองย่านก็ 80 กว่าจุดแล้ว ซึ่งเราสามารถวางแผนการเดินทางได้ทั้งใช้รถตุ๊กตุ๊กไปลง ณ ที่ใดที่หนึ่งแล้วเดินท่องไปรอบๆ ซึ่งเรียกว่าถ้าเอาจริงๆ แล้วละก็ แค่เส้นทางสายเดียวอาจจะใช้เวลาทั้งวันก็ยังเก็บไม่ครบ 

        ดังนั้น เราจึงหยิบแกลเลอรีบางส่วนที่เราลองไปเดินตระเวน และหยิบเอางานศิลปะที่จัดแสดงบางส่วนมาให้ดูกัน ซึ่งงานเหล่านี้ยังแสดงอยู่ คุณสามารถไปเยี่ยมชมเพิ่มเติมได้อีกครั้ง 

ดูแผนที่ของแกลอรีต่างๆ ของเส้นทางทั้ง 2 สาย ได้ที่ https://static1.squarespace.com/static/612f8136a28853425a1fd303/t/619f1857c0ee18237404865f/1637816448158/GN2021+-+eMap.pdf

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.galleriesnights.com/

บ้านเกิดเมืองนอน ๒๕๖๔
ประกิต กอบกิจวัฒนา

        จุดแรกคืองานนิทรรศการของศิลปินผู้เป็นเจ้าของเพจอยู่เมืองดัดจริต ชีวิตต้องป๊อป ซึ่งงานนี้เขาตั้งคำถามสำคัญว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในวันนี้ของสังคมไทยโดยรวม โดยเฉพาะคนต่างจังหวัดเป็นแบบนี้ดีแล้วหรือ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่เรากับเขาสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมคนต่างจังหวัดต้องมีชีวิตแบบเดิมๆ เหมือนสมัย 60 ปีก่อน โดยไม่สามารถพัฒนาความเป็นอยู่ให้ทันสมัยตามโลกได้ และอีกหลายคำถามที่เกิดขึ้นบนบ้านเกิดเมืองนอนของเขาและพวกเรา

        แสดงที่ VS Gallery 

Nowhere Woman 
juli baker and summer

        การเติบโตของ Nowhere Girl สู่ Nowhere Woman ของ ป่าน Juli Baker & Summer ที่แสดงความคิดเห็นที่เปลี่ยนแปลงไปจากเด็กสาวน่ารักสดใส สู่มุมมองของหญิงสาวที่ตั้งคำถามทั้งกับตัวเองและคนรอบข้างถึงความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ทั้งภายในจิตใจและสังคม

        แสดงที่ VS Gallery

From Simmer to Ignition

        นิทรรศการที่รวมผลงานของศิลปินอย่าง อริญชย์ รุ่งแจ้ง, มิตร ใจอินทร์, ณัฐดนัย จิตต์บรรจง, ณัฐพล สวัสดี, ภัทระ จันทร์ฤๅชาชัย, ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช, เรืองศักดิ์ อนุวัตรวิมล และ ทัศนัย เศรษฐเสรี มาไว้ในสถานที่เดียวกัน โดยเป็นการพูดถึงความทรงจำในมิติต่างๆ ของศิลปินแต่ละคน เช่น งาน One day, Another, 2009 (photograph print on newspaper 120 x 100 cm ) ของ ภัทระ จันทร์ฤๅชาชัย ที่พูดถึงนัยสำคัญของ ‘เวลา’ ผ่านหนังสือพิมพ์ที่นำมารวมกับเทคนิคของภาพถ่าย เป็นทั้งความทรงจำและการซ้อนทับของพื้นที่กับเวลาเข้าด้วยกัน

        แสดงที่ Gallery VER

Palam Palam Bangkok

        ต่อมาเรานั่งตุ๊กตุ๊กจาก N22 Art Warehouse มาที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนต์ โดยแวะมาจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ Palam Palam Bangkok เพื่อเติมพลังกันเล็กน้อย และดูสไตล์การตกแต่งร้านแบบเท่ๆ ของเขาด้วย

Beauty, Now or Later
ART Space by MOCA BANGKOK at  Four Seasons Hotel Bangkok

        ถัดจากเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนต์ แนะนำให้มาที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์ ซึ่งชั้นล่างเขาจับมือกับ MOCA BANGKOK สร้างพื้นที่การแสดงงานศิลปะเพื่อเชื่อมโยงกับเส้นทางสายวัฒนธรรมของถนนเจริญกรุง โดยนิทรรศการ Beauty, Now or Later เป็นผลงานของ 3 ศิลปินได้แก่ ภาราดา วิรัสวีร์ กับการสร้าง ‘ความงามกาลเวลา’ จากผลึกใสของสารส้มให้ออกมาเป็นรูปทรงที่ขึ้นโครงไว้ แต่ไม่สามารถควบคุมความงดงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นได้ ต่อมาเป็นงานของ จิรนันท์ จุลบท กับงานภาพพิมพ์ที่นำเสนอ ‘ความงามในรูปทรงพิลึก’ ผ่านเทคนิคของการใช้ผลไม้มาประกอบ และสุดท้ายเป็นงานภาพวาดของ ชญานิน กวางแก้ว กับภาพวาดดอกไม้ที่สวยงามบานสะพรั่งและร่วงโรยไปตามกาลเวลา

        แสดงที่ ART Space by MOCA BANGKOK ชั้นล่างของโรงแรม Four Seasons Hotel Bangkok

THRESHOLD ON by 9 Artists
Bridge Arts Space

        แกลเลอรีหนึ่งคูหาอยู่ (เกือบ) ติดกับสาทรยูนีคทาวเวอร์ ที่มีความเชื่อมโยงกับนิทรรศการ THRESHOLD ON (2021) ซึ่งเป็นการรวมผลงานของศิลปินกว่า 8 คนมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังเป็นนิทรรศการครั้งสุดท้ายของทางแกลเลอรี โดยมีคอนเซปต์ของการสร้างสรรค์และสำรวจจุดตัดของดิจิทัล จิตวิญญาณ จินตนาการ ความฝัน และความเป็นจริงทางกายภาพในปัจจุบัน และมุ่งหน้าต่อไปสู่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

        แสดงที่ Bridge Arts Space

 

The Message is the Message by Cameron Platter
Warin Lab Contemporary

        ผลงานของ Cameron Platter ศิลปินชาวแอฟริกัน ที่สื่อสารความหมายของ ‘ขยะ’ ออกมาเป็นงานศิลปะแบบเฉพาะตัวด้วยภาพวาดจากดินสอสี และการทำเก้าอี้ไม้ให้ออกมาล้อกับเก้าอี้พลาสติกที่เราคุ้นตา (นั่งไม่ได้นะ) เพื่อพูดถึงมุมมองของระบบนิเวศ การเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม การกลายพันธุ์ และมลพิษ ที่สะท้อนภาพความจริงของปัจจุบัน รวมถึงทำนายอนาคตของโลกไปด้วย

        แสดงที่ Warin Lab Contemporary

1973 Exhibition by Tawan Wattuya
Central: The Original Store

        งานที่พูดถึงวันชื่นคืนสุขของ ตะวัน วัตุยา ที่เราเห็นแค่ภาพของเจ้าหนูอะตอมหรืออุลตร้าแมนทาโร่ ก็ต้องปรี่เข้าไปดูทันที โดยนิทรรศการนี้เขาบอกว่านอกจากเป็นการรำลึกอดีตแล้ว ยังสื่อถึงความเลือนรางของความทรงจำ เกิดเป็นความไม่ปะติดปะต่อกันขึ้น แต่ยังสามารถรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในอดีตผ่านเสียงเพลง โปสเตอร์หนัง ภาพข่าว และสิ่งประดิษฐ์ของแต่ละยุคสมัย ที่เป็นเหมือนเครื่องไทม์แมชีนพาเขาและคนดูย้อนกลับไปยังอดีตได้

Conclusions

        ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่ง (น้อยๆ) ของแกลเลอรีที่อยู่บนเส้นทางสีลม-สาทร-ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เราใช้เวลาช่วงบ่ายถึงค่ำ ตระเวนแวะเวียนดูงานศิลปะเจ๋งๆ มากมาย จนกลับบ้านไปก็หลับฝันดี เพราะนอกจากจะได้พบปะพูดคุยกับศิลปินและดูงานที่น่าสนใจแล้ว การเดินท่องเมืองครั้งนี้ก็เป็นการออกกำลังกายไปในตัวหลังจากที่กระหายการเดินท่องเที่ยวมานานนับปี เราจึงอยากชวนคุณไปแวะเที่ยวด้วยกัน โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมนี้ที่อากาศกำลังเย็นสบาย ถือเป็นเยียวยาความอยากเดินทางได้ดีมากๆ ทั้งยังทำให้รู้ว่าพื้นที่แสดงงานศิลปะในบ้านเราก็มีไม่น้อยเหมือนที่เคยคิดไว้