ลิโดในความทรงจำของเราคือโรงภาพยนตร์ราคาย่อมเยา มีความคลาสสิกที่เจ้าหน้าที่ฉีกตั๋วจะใส่ชุดสูทสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์ และหนังในความทรงจำอย่าง Up in the Air ที่ได้ดูในช่วงวัยที่เข้าใจถึงความล้มเหลวในเรื่องความสัมพันธ์ รู้สึกเศร้าและหดหู่ไปกับตัวละคร ไรอัน บิงแฮม (จอร์จ คลูนีย์) จนกระทั่งถึงวันที่ทางโรงได้ประกาศยุติการให้บริการ แม้จะรู้สึกเสียดายแต่ก็เข้าใจว่าเป็นสัจธรรมของชีวิต เมื่อเราเคยปล่อยให้พื้นที่ของความผูกพันนี้ต้องแบกรับกับภาระหลายๆ อย่างเพียงลำพัง
แต่วันนี้เมื่อได้รู้ว่า ลิโด จะกลับมาอีกครั้งในชื่อ ‘ลิโด้’ เราก็ตื่นเต้นกับการเกิดใหม่ของโรงหนังแห่งนี้ไปพร้อมๆ กับ ADDCANDID หรือ พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ ช่างภาพสายสตรีทที่หลายคนชื่นชอบ ซึ่งเขาอาสาไปเก็บภาพวันติดตั้งป้ายลิโด้ในช่วงกลางดึกมาให้เราได้ดู และนับวันรอที่จะได้ทักทายเพื่อนเก่าในมาดใหม่นี้ด้วยกันอีกครั้ง
Lido Connect
การกลับมาของลิโด้ครั้งนี้จะเป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ โดย Lido Connect ได้ปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคารให้กลายเป็น Co-cultural Space จุดรวมงานศิลปะใจกลางสยามที่มีให้คุณได้เสพทั้งดนตรี การแสดง แฟชั่น และวรรณกรรม กันอย่างจุใจ
ช่วงค่ำคืนของวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน ป้าย ‘ลิโด้’ ได้ถูกนำมาเตรียมติดตั้งบนอาคารหลังเดิมอีกครั้ง ราวกับจะบอกกับเราว่าเพื่อนเก่าที่ขอตัวไปพักผ่อนจนเต็มอิ่มกำลังจะถูกปลุกให้ตื่นเพื่อสร้างความสุขให้กับพวกเราอีกครั้ง
Change to Unchange
คงมีหลายคนที่อยากรู้ว่าหนึ่งในโรงหนังที่ตัวเองผูกพันนั้นจะถูกปรับเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่ทางทีมงาน Lido Connect ยืนยันกับเราว่าลิโด้ ไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลง แต่ลิโด้กำลังจะเติบโต เพื่อให้ทุกคนได้บันทึกเรื่องราวบทใหม่ไปด้วยกันอีกครั้ง
เมื่อก่อนเราแอบขัดใจเล็กๆ ว่า ทำไมสยามถึงได้ตลาดวายเร็วนัก แค่สองทุ่มกว่าๆ ก็แทบจะปิดไฟปิดร้านกลับบ้านกันหมดแล้ว ทาง Lido Connect ก็คงคิดเหมือนกัน จึงออกไอเดียชื่อ We’re up all night ขึ้นมา ด้วยเหตุผลว่ากรุงเทพฯ ยิ่งดึกยิ่งโรแมนติก แล้วจะรีบพาสยามเข้านอนเร็วๆ ทำไม ลิโด้จึงเตรียมกิจกรรม และโปรแกรมไว้ให้เราอยู่นานๆ อีกนิด (เพลงของ Triumphs Kingdom มา!)
ADDCANDID ช่างภาพสายสตรีทของเราก็เป็นอีกคนที่ผูกพันกับลิโด้ และอดจะตื่นเต้นกับการปลุกเพื่อนเก่าให้ตื่นขึ้นมาไม่ไหว เขาจึงอาสาไปเก็บภาพการติดตั้งป้ายลิโด้ใหม่ในครั้งนี้ โดยขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้า และอยู่เก็บภาพจนเกือบเช้ามาให้
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ฉายในโรงหนังลิโดคือ Guns for San Sebastian โดยเข้าฉายในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2511 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ทางโรงหนังได้ฉายภาพยนตร์สองเรื่องสุดท้ายนั่นคือ Tonight At Romance Theater และ Kids On The Slope เมื่อภาพยนตร์ได้จบลงทีมงานของลิโดก็ได้ออกมายืนสวัสดีอำลาผู้ชมที่เดินออกมาจากโรงหนัง พร้อมกับความใจหายของเราที่คิดว่าหลังจากวันนั้นคงจะไม่ได้มานั่งดูหนังที่นี่อีกแล้ว
หลังจากโรงหนังได้อำลาชาวสยามไปไม่นาน ก็มีข่าวดีขึ้นมาเมื่อบริษัท Love is Entertainment เจ้าเดียวกับค่ายเพลง LOVEis ออกมาบอกว่าพวกเขาจะขอรับลิโดเข้ามาดูแลต่อ โดยเพิ่มไม้โทลงไปในชื่อเป็น ‘ลิโด้’ และเพิ่มคำว่า Connect เข้าไปหลังชื่อภาษาอังกฤษเป็น Lido Connect เพื่อให้โรงหนังแห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรับเชื่อมต่อความคิดสร้างสรรค์ของทุกคน
ลิโด้เตรียมเปิดทำการอีกครั้งและล่าสุดเขาก็บอกว่าใครที่สนใจอยากปล่อยของ ปล่อยผลงานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหนังสั้นฉบับงานทดลอง วงดนตรีที่กำลังหาเวทีขึ้นโชว์ (ไม่จำกัดแนวดนตรี) หรือกลุ่มนักเต้นที่อย่างโชว์ สามารถสมัครได้แล้ว โดยประเภทเดี่ยวเข้าไปที่ https://bit.ly/2Fp7Wqd ส่วนประเภทกลุ่มก็ตามลิงก์นี้ https://bit.ly/2L2P2ZE หากสงสัยก็สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง เฟซบุ๊ก LIDO CONNECT
การติดตั้งป้ายลิโด้เสร็จสมบูรณ์ และเราเลือกภาพนี้เป็นภาพปิดเพราะชอบองค์ประกอบในภาพที่มีทั้งพระจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่ด้านบน และแสงแฟร์จากการสะท้อนของแสงไฟในบริเวณสยาม ที่มองแล้วรู้สึกว่าโรงหนังแห่งนี้ได้กลับมาผงาดขึ้นอีกครั้ง