แฟนเพลงที่คิดถึง Sqweez Animal คิดถึงเสียงร้องและซาวนด์ดนตรีในสไตล์ของวงน่าจะดีใจไม่น้อย เมื่อช่วงที่ผ่านมา วิน ศิริวงศ์ หนึ่งในสมาชิกประกาศกลับมาทำเพลงในนาม Sqweez Animal อีกครั้ง ซึ่งล่าสุดก็ได้ปล่อยเพลง ‘ขอบคุณทุกช่วงเวลา’ นับเป็นซิงเกิลที่ 3 ในอัลบั้มที่ 3 ที่ต้องรอคอยกว่าสามปีเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่านอกจากบทเพลงที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเองแล้ว วินก็ต้องมีบทเพลงอื่นๆ ที่มีเรื่องราว ความหมาย และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเขาในฐานะศิลปินเช่นกัน
และนี่คือ 5 บทเพลงที่ช่วยย้ำเรื่องราว ความทรงจำ และแรงบันดาลใจที่มีความหมายตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาของเขา
01 เวลา – Moderndog
เป็นเพลงแรกที่หัดเล่นกีตาร์ พอเล่นได้เป็นเพลงก็รู้สึกสนุกกับมัน อารมณ์แบบ ‘เฮ้ย เราร้องเพลงกับสิ่งที่เราเล่นขึ้นมาเองมันดีกว่าไปร้องคาราโอเกะเยอะเลย’ จะเล่นให้ช้าหรือเร็วก็ได้ จะให้สูงขึ้นต่ำลงทำได้หมด นี่คืออิสรภาพแบบใหม่ แล้วในแง่ของเนื้อหาเพลงหลายคนอาจจะคิดหรือถูกสอนมาโดยเข้าใจว่าเพลงต้องสร้างความสุขหรือพูดแต่อะไรที่หวานแหววตลอดเวลา แต่เพลงนี้บอกผมว่าเพลงสามารถพูดถึงสัจธรรม พูดถึงเรื่องธรรมะ หรือเตือนสติได้ด้วยนะ มันใช่แค่ฉันรักเธอตลอดไป หรือทำนองนั้นอย่างเดียว ก็เลยรู้สึกว่าเพลงนี้มันเป็นจุดเริ่มต้นหลายๆ อย่างให้กับความคิดผมเหมือนกัน
02 อยู่มานาน – Yokee Playboy
เป็นเพลงที่ผมเล่นดนตรีครั้งแรกเป็นวง แล้วก็ช่วงนั้นยังไม่ได้เขียนเพลงของตัวเองเลย ไม่ได้เล่นกีตาร์ด้วย แต่ว่าชอบร้องเพลง ซึ่งเพื่อนๆ เขาก็ฟอร์มวงขึ้นมา แล้วในที่สุดก็ให้ผมไปร้อง ตอนนั้นเขาบอกว่าจะเล่นเพลง อยู่มานาน ของ โยคีเพลย์บอย ผมฟังชื่อก็คิดว่าวงอะไรวะ (หัวเราะ) หยิบปกมาดูก็เป็นนมหนามๆ ก็คิดว่ามันคืออะไรวะ ผมเอาเนื้อมากางดูแล้วก็ร้องไป แต่ตอนหลังก็กลายเป็นอิน ชอบ เหมือนเป็นการเซตไดเร็กชันให้ตัวเองเลยว่าการเขียนเพลงแบบนี้ การร้องแบบนี้ ดนตรี ซาวนด์ประมาณนี้เป็นสิ่งที่เราอยากทำ แล้วก็เล่นเพลงนี้ตลอด เล่นคอนเสิร์ตครั้งแรกก็น่าจะเพลงนี้แหละ ซึ่งเป็นเวทีแบบงานสโมสรเลย งานเลี้ยงโรงแรม ไม่ใช่งานทางดนตรีที่ใหญ่อะไร
03 ครึ่งสายตา – Sqweez Animal
เป็นเพลงที่ผมแทบจะแต่งขึ้นมาเป็นเพลงแรก ตอนนั้นผมชอบสายฟังก์ ดิสโก้ ในขณะที่เพื่อนรอบๆ ตัวไม่ได้มีใครชอบเลย แล้ววงตอนนั้นก็ไม่ใช่สิงห์ แต่เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่เล่นดนตรีคนละแนวและไม่ได้มีกรูฟดนตรีแบบนี้ ผมก็เลยหาทางออกให้เพลงไม่ได้ ไปเล่นให้ใครฟังเขาก็ไม่เข้าใจ มันยากไป มีปัญหาหลายอย่าง ซึ่งผมก็พยายามจะแสดงตัวตนมากเลยว่าผมชอบเพลงแบบนี้ แต่มันก็ไม่เกิดสักที จนกระทั่งได้มาเล่นให้สิงห์ฟัง แล้วความที่เขาเป็นน้องที่น่ารัก เขาก็จะบอก ‘พี่วินว่าไงผมก็ว่างั้น’ เขาก็ตามผมมาและเราก็ทำให้เพลงนี้ออกมาได้ในที่สุด ตอนที่เสร็จออกมาเป็นเพลงผมดีใจมาก แล้วก็รู้สึกว่าผมอยู่กับเพลงนี้มานานมากในทุกช่วงเวลาเลย
04 ไม่มีความหมาย – Singing in the playground feat. วิน ศิริวงศ์
เหมือนเป็นเพลงเปลี่ยนชีวิต เป็นเพลงแรกที่ได้มีการบันทึกเสียงแบบจริงจัง แล้วก็ปล่อยออกมาให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่แค่วงเพื่อนๆ ได้ฟัง
ผมมีความตั้งใจอยากจะทำอัลบั้ม อยากจะมีผลงานของตัวเองอยู่แล้วในตอนนั้น ในเวลาเดียวกันผมก็รู้จักศิลปินในค่ายเบเกอรี่ด้วย ทุกครั้งที่ผมกลับมาช่วงปิดเทอม ก็จะมีความรู้สึกอยากจะหาอะไรสักอย่างเพื่อเข้าไปใกล้ค่ายนี้ให้มากๆ ถึงแม้จะรู้ว่าเรายังออกไม่ได้เพราะต้องกลับไปเรียน แต่ช่วงหยุดสองสามเดือนก็จะมีความรู้สึกอยากสร้างผลงานขึ้นมา ไม่ได้อยากจะเป็นนักร้องดังด้วยนะ แค่อยากมีผลงาน มีเทปหรือได้ยินเพลงตัวเองในวิทยุ มันเป็นความฝันที่ไม่ได้ใหญ่มาก
ทีนี้ในช่วงที่เพลงของตัวเองยังไม่ได้ออก พี่โป้ โยคีเพลย์บอย ก็ชวนไปร้องเพลงนี้ในอัลบั้มรวมศิลปิน (Singing in the playground) ผมก็บอก ‘โอเค ผมร้องก็ได้ แต่ผมมีเพลง ครึ่งสายตา ที่แต่งไว้ด้วยนะ’ (หัวเราะ) ก็บอกพี่เขาว่าเอาเพลงผมไปออกแทนได้ไหม ซึ่งถ้าเอาไปออกจริงๆ สงสัยจะไม่ดัง (หัวเราะ) ก็เลยได้ร้องเพลงนี้ คนที่ร้องไกด์คือพี่บอย ตรัย พอร้องทุกคนก็ชอบ แล้วก็ชวนผมไปร้องเพลงนั้นเพลงนี้ต่อเต็มไปหมด เพราะทุกคนเหมือนเป็นนักแต่งเพลงที่ขาดนักร้องเสียงใหม่ๆ ในยุคนั้นก็ยังไม่ค่อยมีใครใหม่มาก ถือว่าเพลงนี้ก็เปิดทางให้ผมมาตลอดจนถึงทุกวันนี้
05 Virtual Insanity – Jamiroquai
เอ็มวีล้ำมาก แล้วเพลงนี้เจ้าตัวเองก็ยังพูดว่ามันล้ำยุคล้ำสมัยของเขามาก ในช่วงที่เขาปล่อยออกมาคนก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่ใหม่ เขาเขียนเพลงดี เสียงดี เต้นเก่ง ผมยกให้เขาเป็นไอดอลของผมคนหนึ่ง รู้สึกว่าถ้าชาตินี้ไม่ได้ดูคอนเสิร์ตเขาอาจจะผิดพลาดอะไรสักอย่างหนึ่ง ก็เลยลงทุนบินไปสเปนเพื่อไปดูคอนเสิร์ตเขา ซึ่งเพลงนี้ก็น่าจะเป็นเพลงที่ดังมากที่สุดเพลงหนึ่งของเขา