Old Enough! ผจญภัยวัยอนุบาล | รายการทางเน็ตฟลิกซ์ที่น่ารักจนใจเจ็บ ความไร้เดียงสาที่จะพาคุณหลงรัก

        รายการเรียลลิตี้ยอดนิยมทาง Netflix ในรอบปีที่ผ่านมา ‘Old Enough!’ หรือชื่อภาษาไทย ‘ผจญภัยวัยอนุบาล’ ออกฉายครั้งแรกในปี 1990 ทางสถานีโทรทัศน์ Nippon TV ของประเทศญี่ปุ่น เป็นรายการที่พ่อแม่ส่งเด็กวัย 2-5 ปี วานออกไปทำธุระข้างนอกบ้านด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก โดยจะมีทีมงาน ตากล้อง ตามประกบอยู่ไม่ห่างเพื่อดูแลความปลอดภัย แต่ในระหว่างการถ่ายทำจะไม่มีการเข้าไปช่วยเหลือหรือก้าวก่ายการตัดสินใจของน้องๆ หนูๆ โดยเด็ดขาด 

        เป็นรายการเด็กที่ได้รับเสียงตอบรับในเชิงบวกกลับมามากมาย รวมถึงการรีวิวเรตติ้งก็อยู่ในอันดับสูงของแพลตฟอร์มที่ออกฉาย อีกทั้งยังได้รับเสียงตอบรับในเชิงบวกกลับมามากมาย นับเป็นเวลา 30 ปีหลังจากที่ออกฉายครั้งแรกในโทรทัศน์แต่ทำไมถึงยังมีผู้ชมมากมายติดตามและติดใจจนถึงปัจจุบัน เป็นเพราะเด็กๆ ในแต่ละตอนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งดึงดูดให้ผู้ใหญ่เอาใจช่วยลุ้นและส่งกำลังใจเชียร์ให้ออกจากบ้านไปทำธุระเป็นครั้งแรก สิ่งที่ผู้ชมได้กลับมาคือความความประทับใจ รอยยิ้ม แถมเรียกน้ำตา 

        Old Enough! เปิดตัวบน Netflix เมื่อวันที่ 1 เมษายนปี 2022 โดยซีซันที่ 1 มีทั้งหมด 20 ตอน และซีซันล่าสุดกลับมาตามคำเรียกร้องลงฉายให้ดู 10 ตอน โดยคัดเลือกบางส่วนจากรายการทางโทรทัศน์ที่อายุกว่า 30 ปี เพื่อมาลงฉายทางสตรีมมิง หลังจากที่มีฟีดแบ็กถามไถ่ถึงชีวิตของเด็กๆ แต่ละคนหลังจากออกอากาศไปแล้วจึงกลายมาเป็นที่มาของช่วง ‘After Years’ (หลายปีผ่านไป) ในซีซันที่ 2 

        โดยใน 5 ตอนแรกของแต่ละคลิปจะมีช่วงที่ทีมงานกลับไปเยี่ยมเด็กๆ ที่ผ่านภารกิจมาได้สำเร็จเมื่อหลายปีก่อน เพื่อให้นึกย้อนภาพในอดีตในวันพิเศษที่เคยออกไปทำธุระ เพื่อให้เห็นการเติบโต และบทเรียนที่ได้รับจากรายการนั้นส่งผลอย่างไรต่อชีวิตในปัจจุบัน ทำให้เห็นพัฒนาการของเด็กที่เคยผ่านการทำภารกิจด้วยตัวเองจนสำเร็จเมื่อครั้งยังเป็นวัยหัดเดินจนเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจนไปถึงวัยผู้ใหญ่

        หลังจากออกฉายทั่วโลกอย่างเป็นทางการในซีซันที่ 2 ก็ได้รับเสียงตอบรับในเชิงบวกจากผู้ชมแทบทุกคน หนึ่งในผู้สร้างที่อยู่เบื้องหลังกล่าวว่า หวังว่ารายการนี้จะนำความสุขมาให้กับผู้ชมในช่วงปีใหม่นี้ ซึ่งได้ก้าวข้ามวัฒนธรรมและกำแพงทางภาษา จนเอาชนะใจผู้ชมทั่วโลกเช่นเดียวกับที่ซีซัน 1 สามารถทำสำเร็จได้อย่างงดงาม 

การเผชิญหน้ากับความกลัวและเสริมสร้างความมั่นใจ

        เป็นจุดมุ่งหมายที่รายการ Old Enough! ผจญภัยวัยอนุบาล ตั้งใจให้เกิดขึ้นกับเด็กที่มาร่วมในแต่ละตอน โดยเด็กๆ แต่ละคนจะมีบุคลิกภาพที่หลากหลายซึ่งเป็นเสน่ห์เบื้องหลังของความน่ารักน่าเอ็นดูที่เมื่อเปิดรับชมจะอดอมยิ้มไม่ได้และเอาใจช่วยพวกเขาอย่างสุดใจ รวมทั้งเป็นการฝึกให้เรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่เด็กในหลายๆ ตอนก็ทำให้เราเซอร์ไพรส์กับไหวพริบเกินวัยของพวกเขา

ซีซันที่ 2 Episode ที่น่าสนใจและสร้างความประทับใจ ได้แก่

        Episode 3 หนึ่งในตอนชุดภารกิจ ‘After Years’ หลังจากที่พี่สาวและน้องชายทำภารกิจสำเร็จเมื่อครั้งวัยเยาว์ ครั้งนี้ส่งลูกชายและหลานคนโปรดมารับภารกิจออกไปธุระครั้งแรก ต้องลงเรือเฟอร์รีและเข็นรถซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของตามที่ได้รับคำสั่ง เพื่อทำให้คุณแม่ภาคภูมิใจและหวังจะได้รับเสียงชมจากน้าชายที่เขารัก

        Episode 10 เป็นอีกหนึ่งตอนที่เรียกน้ำตาท่วมจอ เมื่อเด็กสาวที่คุณแม่ป่วยด้วยโรคมะเร็งขอให้คุณพ่อส่งลูกสาวคนเดียวออกเดินทางมาส่งของให้ที่โรงพยาบาล จากเด็กที่เป็นไข่ในหินสุดหวงของคุณพ่อต้องออกเดินทางเอง ทำให้ทั้งลูกและพ่อต้องเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน 

         หลายๆ ตอนที่เมื่อเด็กๆ กลับมาถึงบ้าน พ่อแม่หลายๆ คนก็อดกลั้นน้ำตาแห่งความภาคภูมิใจในตัวลูกชาย ลูกสาวตัวน้อยที่แสดงความตั้งใจ มุ่งมั่น (ปนงอแงบ้างในช่วงเริ่มต้นภารกิจ) ที่ออกไปเผชิญโลกภายนอกอย่างกล้าหาญ นอกจากเป็นการเรียนรู้ของลูกๆ ที่ได้ลองผิดลองถูก กล้าตัดสินใจ และเติบโตด้วยตัวเอง ยังรวมถึงการที่พ่อแม่เองก็ได้เรียนรู้ที่จะมอบความไว้วางใจและปลูกฝังให้เด็กๆ มีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ แม้จะมีเรื่องวุ่นๆ ระหว่างทาง หรือได้ของกลับมาไม่ตรงตามที่บอกไว้ แต่ก็จะเห็นความพยายามอย่างสุดความสามารถของพวกเขาที่จะทำธุระที่ได้รับมานั้นอย่างเต็มที่ ซึ่งตลอดทางเราจะได้เห็นผู้ใหญ่ใจดีคอยในกำลังใจและชื่นชมในความพยายามของเด็กๆ เหล่านี้

โดยสิ่งที่ทีมงานจะเตรียมความพร้อมในขั้นตอนก่อนการถ่ายทำ มีดังนี้

  • ผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตจะร่วมกันสำรวจเส้นทางการทำภารกิจของเด็กๆ อย่างรอบคอบก่อนวันถ่ายทำเพื่อตรวจหาความเป็นไปได้ที่อาจเกิดอันตรายขึ้นตลอดระยะทาง 
  • ทีมงานผู้ดูแลการทำภารกิจจะประกอบด้วยทีมกล้องและทีมความปลอดภัยที่จะสอดส่องอยู่ในทุกจุดของเส้นทางการทำธุระของเด็กๆ 
  • สำหรับเพื่อนบ้านในย่านนั้นๆ จะได้รับแจ้งรายละเอียดและภารกิจของเด็กๆ ให้ทราบล่วงหน้าก่อนการถ่ายทำ

ภารกิจที่เด็กๆ จะได้รับมอบหมายให้ออกไปทำด้วยตัวเอง อาทิ

  • การซื้อของกิน ของใช้ในซุเปอร์มาร์เก็ตที่เคยไปเป็นประจำกับคุณแม่ 
  • ฝากให้เด็กๆ เก็บผัก ผลไม้ในฟาร์มหลังบ้าน
  • ไว้วานให้ไปซื้อของที่ตลาดสดในท้องถิ่นใกล้บ้าน
  • ขอให้นำของหรืออาหารไปส่งให้คุณปู่ คุณย่า หรือเพื่อนบ้าน 

เบื้องหลังการถ่ายทำที่ต้องยกเครดิตให้ทีมงานรัฐบาลที่เอาใจใส่ทุกคน

        การถ่ายทำใน 1 ปีจะสามารถออกฉายเป็นรายการรวมระยะเวลาแล้วเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น นั่นก็เพราะต้องมีการเตรียมงานเบื้องหลังการการถ่ายทำต่อภารกิจ 1 ครั้งค่อนข้างนาน จึงได้ออกมาเป็นเพียงรายการตอนสั้นๆ ประมาณ 10-15 นาที แต่ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะสร้างความอิ่มเอม ใจฟู ให้กับผู้ชม ความน่ารักไร้เดียงสาที่จะเรียกรอยยิ้มและน้ำตาในความใจสู้ ไม่ยอมแพ้ มุ่งมั่น จนทำภารกิจลุล่วงจนผู้ใหญ่อย่างเรามีไฟอยากไฟต์กับสิ่งที่รออยู่ในวันพรุ่งนี้โดยใช้หัวใจบริสุทธิ์แบบเด็กๆ ทำภารกิจของเราเองให้สำเร็จ

        นอกเหนือไปจากนั้น ผู้เขียนมองว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้รายการนี้เกิดขึ้นได้จริงและประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น ทั้งยังขยายไปในหลายๆ ประเทศ คือการออกแบบเมืองเพื่อทุกคนในสังคม (Accessibility City) ซึ่งในหนังสือชื่อ ‘Livable Japan ใส่ใจไว้ในเมือง’ ได้ช่วยไขความกระจ่างนี้เป็นภาพสรุปของความใส่ใจที่รัฐบาลมอบให้ประชาชนรวมถึงผู้ที่มาเยือน โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับรายการนี้แบ่งได้เป็นสองเรื่องคือ ทางเท้าและทางม้าลาย ที่เด็กๆ เหล่านี้ต้องจัดการกับภารกิจที่ได้รับเป็นครั้งแรก 

        การเดินเท้าถือเป็นการสัญจรขั้นพื้นฐานที่สุดที่เชื่อมต่อจุดต่างๆ ในเมือง จึงมีความสำคัญและเป็นแนวคิดตั้งต้นสำหรับการออกแบบของประเทศญี่ปุ่นโดย 3 องค์ประกอบหลักที่เป็นแกนกลางของความมีระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่นนั้นเกิดจาก ‘การออกแบบ วินัย และการบังคับใช้กฎหมาย’ ที่ทำงานควบคู่กันซึ่งเริ่มจากการตั้งโจทย์ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อออกแบบสภาพแวดล้อมให้สังคมเป็นไปตามโจทย์ที่วางไว้ ทั้งยังได้ผลลัพธ์ทางอ้อมมาเป็นรายการ Old Enough! ที่ช่วยกอบกู้หัวใจพังๆ ของผู้ชมจากเรื่องวุ่นวายกลับคืนมา

        ซึ่งแต่ละตอนของรายการจะสร้างความประหลาดใจว่าแม้แต่เด็กวัยหัดเดินก็สามารถใช้งานทางเท้าได้ด้วยตัวคนเดียวได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย อันเป็นผลมาจากการออกแบบพื้นถนนให้มีความกว้างขวาง เรียบเสมอกัน และไม่มีสิ่งกีดขวาง เช่น ร้านค้าแผงลอยหรือต้นไม้ที่รบกวนการเดินทางของคนใช้ทางเดิน

        ส่วนทางม้าลายก็มีสัญญาณไฟจราจรและผู้ขับขี่ที่รักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เด็กๆ เองก็ได้รับการสอนให้รู้จักการมองซ้าย-ขวา และยกมือเพื่อส่งสัญญาณก่อนข้ามถนน เพียงแค่สองเรื่องนี้ก็เห็นถึงความใส่ใจที่มอบความสุขทั้งทางร่างกายและจิตใจให้กับผู้ใช้งานทุกคน จึงขอยกสิ่งที่หนังสือสรุปไว้ว่า 

        “ทางเท้าที่ดีนี้จึงสะท้อนถึงความเท่าเทียมเพื่อทุกคนไม่ว่าคุณจะเป็นคนพิการนั่งวีลแชร์ คนแก่ คนท้อง หรือใครก็ตามที่มีสภาพร่างกายเปราะบาง ทุกคนสามารถออกจากบ้านมาเดินบนทางเท้าดีๆ นี้ได้เหมือนกันหมด”

เรื่อง: จันจิรา  ยีมัสซา

______

ที่มา

https://www.springnews.co.th/spring-life/823073

https://time.com/6167580/old-enough-netflix/

https://www.nme.com/en_asia/news/tv/netflix-second-season-nippon-tv-old-enough-3365913

https://www.ntv.co.jp/english/pressrelease/20221213.html

https://www.theguardian.com/tv-and-radio/2022/apr/07/old-enough-the-japanese-tv-show-that-abandons-toddlers-on-public-transport

 

https://www.imdb.com/title/tt1289730/

https://www.theguardian.com/tv-and-radio/2022/apr/07/old-enough-the-japanese-tv-show-that-abandons-toddlers-on-public-transport

https://www.ntv.co.jp/english/pc/2011/02/old-enough.html

https://www.nme.com/en_asia/news/tv/netflix-second-season-nippon-tv-old-enough-3365913

https://www.channelnewsasia.com/singapore/old-enough-singapore-season-three-japan-nippon-tv-series-mediacorp-covid-19-3024541