ทอดสายตาออกไปเบื้องหน้า ทุ่งหญ้าพลิ้วไหวอย่างเกียจคร้านเป็นแนวตามสายลมเย็นที่พัดมาเป็นระลอก ทันใดนั้นเสียงฝีเท้ากุบกับดังแว่วมาแต่ไกล และใกล้เข้ามาทุกขณะ หญิงสาวผมสีฟางร่างทะมัดทะแมงปรากฏตัวขึ้นตรงเส้นขอบฟ้า เธอวิ่งกระหืดกระหอบในมือถือถังพลาสติกบรรจุอาหารสัตว์มาด้วยใบหนึ่ง ด้านหลังคือฝูงแกะนับร้อย นำโดยแกะหนุ่มจ่าฝูง วิ่งกวดประชิดตัวเธอพร้อมเอาหัวกระแทกถังใส่อาหารอย่างดุดัน
“เปิดประตู!” เธอตะโกนเสียงดังลั่นทุ่ง
เรารีบวิ่งไปคว้าประตูรั้วไม้ขนาดมหึมา ผลักมันเปิดออกอย่างทุลักทุเล เสี้ยววินาทีต่อมา ถังใส่อาหารลอยลิ่วข้ามหัวเราเข้าไปในคอกไม้ พร้อมฝูงแกะหน้าตาหิวกระหายที่ควบตามเข้าไปติดๆ หญิงสาวผมสีฟางเดินมาพักหอบหายใจข้างๆ
“สนุกเนอะ ว่าไหม” เธอถามพร้อมรอยยิ้มกว้าง
เราพยักหน้าแทนคำตอบ พูดอะไรไปเธอก็ไม่ได้ยิน เพราะวันนี้เธอไม่ได้ใส่เครื่องช่วยฟัง!
3 สัปดาห์สั้นๆ กับการใช้ชีวิตในฟาร์มแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศสวีเดน ช่วยให้เราสัมผัสเส้นแบ่งเบาบางตรงช่องว่างระหว่างความ ‘เงียบ’ และ ‘เหงา’ ได้อย่างเข้าอกเข้าใจ เพราะหมู่บ้านเล็กๆ In the middle of nowhere แห่งนี้ เป็นแหล่งรวมพลของผู้พิการทางการได้ยินชาวสวีดิช รวมถึงโฮสต์ชาวไร่ทั้งสองคนของเรา, คิมและแพทริก
แพทริกหูหนวกสนิทตั้งแต่เกิด เขาไม่เคยได้ยินเสียงใดๆ บนโลกใบนี้ ไม่เคยรับรู้ว่าแกะนับร้อยตัวที่เขาเลี้ยงไว้นั้นส่งเสียงร้องอย่างไร ส่วนคิมเริ่มสูญเสียการได้ยินเมื่อเธออายุ 5 ขวบ ความผิดปกติทางการได้ยินของเธออยู่ในระดับที่การใส่เครื่องช่วยฟัง สามารถยืดอายุขัยโลกแห่งสรรพเสียงรอบตัวได้ แต่เวลาส่วนใหญ่ในหมู่บ้าน เธอเลือกที่จะปิดการรับฟังด้วยการไม่ใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้น และสัมผัสความงดงามของธรรมชาติโดยรอบด้วยสองตาของเธอแทน
เราเรียนรู้ภาษามือสำหรับบทสนทนาในชีวิตประจำวันไว้คุยกับแพทริก เป็นประโยคง่ายๆ เช่น
“อรุณสวัสดิ์แพทริก คุณพร้อมสำหรับมือเช้าหรือยัง”
“ช่วยส่งเนยแข็งตรงนั้นมาให้ฉันที และอย่าลืมส่งมีดมาด้วยล่ะ”
“อย่าลืมปิดประตูคอกแกะนะ พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน”
“
หลายครั้งที่บทสนทนาพาเราไปไกล
ถึงเรื่องความเชื่อ จิตวิญญาณ และตัวตน จนเราอดแปลกใจไม่ได้ว่า
การขยับมือไปมาของแพทริกสามารถสื่อสารเป็นถ้อยคำได้มากมายขนาดนี้เลยหรือ
”
แม้ว่าเราจะไม่สามารถสนทนากับแพทริกได้อย่างลื่นไหลนัก ด้วยอุปสรรคทางภาษา แต่ใช่ว่าเราจะไม่มี Deep Talks กันเสียเมื่อไหร่ แทบทุกมื้อค่ำ หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับงานในฟาร์มมาทั้งวัน สมาชิกในบ้านจะมานั่งล้อมวง กินอาหารค่ำง่ายๆ ซึ่งทำจากวัตถุดิบในฟาร์ม แลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตระหว่างกันด้วย 2 ภาษา นั่นคือภาษาพูดและภาษามือ หลายครั้งที่บทสนทนาพาเราไปไกลถึงเรื่องความเชื่อ จิตวิญญาณ และตัวตน จนเราอดแปลกใจไม่ได้ว่าการขยับมือไปมาของแพทริกสามารถสื่อสารเป็นถ้อยคำได้มากมายขนาดนี้เลยหรือ
Sign Language นั้นมีภาษามือสากล และภาษามือท้องถิ่นที่ผู้พิการทางการได้ยินแต่ละประเทศใช้ เช่นเดียวกับภาษาพูด อังกฤษ สวีดิช ไทย ผู้ใช้ภาษามือสามารถบอกได้ว่าคนนี้เป็นชาวต่างชาติที่พยายามใช้ ‘ภาษามือแบบสวีดิช’ จากการดูรูปแบบการใช้มือสะกดคำและเรียงประโยค นอกจากนี้ประเทศสวีเดนยังเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้รับสิทธิตามกฎหมายคนหูหนวกให้มีการศึกษาระดับสูงด้วยภาษามืออีกด้วย คิมบอกเราอย่างกระตือรือร้น ในบ่ายวันหนึ่งที่เทเรซา เพื่อนบ้านสาวสวยมาร่วมกินของว่างในสวน พร้อมสามีชาวต่างชาติของเธอ
เทเรซาและจอห์น สองสามีภรรยาชาวไร่ ทั้งคู่พบกันหลายปีก่อนตอนที่เทเรซาร่วมกับ ‘Pink Caravan’ คณะเดินทางอันโด่งดังของประเทศสวีเดน ซึ่งก่อตั้งตั้งแต่ปี 1969 เธอท่องโลกไปไกลถึงทวีปแอฟริกา และตัดสินใจเป็นอาสาสมัครสอนภาษามือสากลให้กับผู้พิการทางการได้ยินที่ประเทศกานา และที่นั่นเธอได้พบรักกับหนึ่งในนักเรียนหูหนวกชาวแอฟริกันของเธอ ไม่กี่ปีต่อมาทั้งคู่ย้ายกลับมาตั้งถิ่นฐาน และสร้างครอบครัวเล็กๆ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่บ้านเกิดของเทเรซา
พวกเขามีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ในปี 2014 ที่เราได้พบกับครอบครัวที่แสนอบอุ่นครอบครัวนี้ หนูน้อยอายุ 8 เดือน สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกอย่าง มีพัฒนาการตามวัย สิ่งที่ไม่ปกติและน่าหวั่นใจคือเทเรซาและสามีหูหนวกสนิท ดังนั้นทั้งคู่จึงต้องหมั่นพาลูกสาวมาเล่นที่บ้านเราบ่อยๆ เพื่อให้เรียนรู้ทักษะการพูด และแน่นอนตลอด 3 สัปดาห์สั้นๆ ที่เราอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนั้น หนูน้อยได้หัดพูดภาษาไทยด้วย!
“
เหมือนอย่างที่มหาตมะ คานธี กล่าวไว้
ความรักนั้นไร้พรมแดนเฉกเช่นมหาสมุทร
”
เหมือนอย่างที่ มหาตมะ คานธี กล่าวไว้ ‘True love is boundless like the ocean and, swelling within one, spreads itself out and, crossing all boundaries and frontiers, envelops the whole world.’ ความรักนั้นไร้พรมแดนเฉกเช่นมหาสมุทร… เทเรซาและจอห์นพบกัน ณ ที่ไกลแสนไกล ซึ่งความรักอันยิ่งใหญ่เอ่ยด้วยหัวใจไม่ใช่คำพูด
3 ปีต่อมา มีคลิปวิดิโอคลิปหนึ่งส่งมาจากสแกนดิเนเวีย ทำให้เราหวนคิดถึงช่วงเวลา 3 สัปดาห์สั้นๆ นั้นอีกครั้ง หมู่บ้านเล็กๆ ที่ความเงียบงันแผ่กว้างไกลสุดสายตา ทุ่งหญ้าพลิ้วไหวอย่างเกียจคร้าน เสียงฝีเท้ากุบกับของฝูงแกะ และความเรียบง่ายของการใช้ชีวิตแบบพอเพียง ในคลิปวิดีโอนั้นเทเรซาและจอห์นยิ้มร่า มีคิมกับแพทริกยืนอยู่ลิบๆ ข้างหลัง เด็กหญิงลูกครึ่งหน้าตาน่ารักน่าชังพูดเจื้อยแจ้ว เธอได้ผมหยิกมาจากพ่อ และดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมาจากแม่
‘ความรัก’ คือเส้นแบ่งเบาบางที่ขีดแบ่งตรงช่องว่างระหว่างความ ‘เงียบ’ และ ‘เหงา’ ที่เราค้นพบ