คุณยายคิมิโกะ เน็ตไอดอลวัย 95 ปี ผู้ชื่นชอบถ่ายรูปและแต่งภาพสุด Surreal ที่โดนใจคนทั้งโลก

        ดีใจที่ได้เขียนถึงคนธรรมดาๆ บ้าง คนซึ่งไม่ได้มีภูมิหลังเป็นศิลปิน ไม่ใช่นักออกแบบ Silver Lining ของเราคราวนี้คือคุณยายชาวญี่ปุ่นคนนี้เป็นอินสตาแกรมเมอร์ซึ่งมีงานสนุกสนานโดดเด่นมาก (ล่าสุดยายมีคนติดตามกว่าสามแสนคน)

ชื่อ: คิมิโกะ นิชิโมโตะ
เกิด: ค.ศ. 1928 อายุ 95 ปี
อาชีพ: ช่างภาพ
Silver Lining ที่เราอยากพูดถึง: ความสามารถในการเปิดโลกตัวเอง จนพบความรักในสิ่งที่ตนทำซึ่งมารู้จักเอาในวัยไม้ใกล้ฝั่ง คือคิมิโกะเพิ่งมาเรียนเรื่องการถ่ายภาพและทำโฟโตชอปเมื่ออายุ 72 แต่ผลงานภาพถ่ายของเธอ นอกจากจะช่วยสร้างรอยยิ้มให้คนทั่วโลกแล้ว “การถ่ายภาพช่วยให้ความสุขของยายเพิ่มเป็นสองเด้ง”

        ข้อคิดสำหรับคนในวัยซึ่งสังขารเริ่มแสดงอาการเสื่อมถอย และไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือกับเราอย่างเห็นได้ชัด (อาการที่ว่าปกติจะเริ่มเมื่ออายุหกสิบเศษๆ) เป็นผลให้จะทำอะไรก็ต้องเจียมสังขารเล็กน้อย จะมารวดเร็วสมบุกสมบันอย่างเมื่ออายุสามสิบสี่สิบนั้น คงจะทำไม่ได้ และไม่ควรทำ

        อย่างไรก็ดี อาการเสื่อมสังขารไม่ใช่ข้ออ้างหรือเหตุผลให้เราหยุดทำสิ่งซึ่งให้ความสุข และทำให้รู้สึกว่า เออ เรายังมีคุณค่าอยู่ในสังคม คนแก่ยังมีช่องทางจะทำอะไรสนุกๆ แม้ทำแล้วจะไม่ผลิดอกออกผลเป็นรายได้ (จริงๆ ถ้ามีรายได้บ้างก็ดีเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเมืองไทยยุคเงินเฟ้ออย่างทุกวันนี้) แต่สิ่งที่ทำแล้วมีความสุขมันมีราคาตรงที่เป็นเหมือนเชื้อเพลิง รักษาพลังชีวิตของเราไม่ให้ดับมอด

        การรักษาพลังชีวิตให้คุกรุ่นในช่วงบั้นปลายเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะทำให้รู้สึกสดชื่นกระชุ่มกระชวย ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายได้ในแต่ละวัน มันก็อยู่ที่ตรงนี้

        ส่วนกิจกรรมอย่างเลี้ยงกล้วยไม้ เลี้ยงหลาน ปฏิบัติธรรม ถ้าชอบก็ทำไป แค่อยากจะบอกว่ายุคสมัยนี้ คนแก่มีทางเลือกในชีวิตมากมายจนคนรุ่นพ่อรุ่นแม่จะต้องค้อนควักด้วยความอิจฉา จะเป็นเพราะเรามีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น เทคโนโลยีการแพทย์ก้าวไปไกลมาก และคนสมัยนี้มีทัศนคติต่อความแก่ที่แตกต่างไปจากเดิม

        สมัยก่อนคนเราไม่ค่อยกล้าทำตัว “ไม่สมวัย” กล่าวคือคนอายุเกินหกสิบนั้น พอถึงเวลาก็แก่แล้วแก่เลย แต่สมัยนี้มันไม่ใช่เสียแล้ว คือมันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนแก่ (ขออนุญาตใช้คำนี้แทน สว ผู้สูงอายุ ซึ่งรุงรังเกิน) จะทำตัวให้สดใสแข็งแรงแต่พองาม ไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำตัวให้แก่เหมือนแต่ก่อนแล้ว

        แถมเรายังมีเทคโนโลยีแก้เหงา ซึ่งช่วยเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้น ดึงผู้คนเพื่อนฝูงมาใกล้ชิดกันมากขึ้น ไม่เหมือนคนแก่รุ่นก่อนซึ่งเวลาจะนัดเลี้ยงรุ่นทีก็ต้องโทรศัพท์ส่งจดหมายกันจนเมื่อย สมัยนี้ไม่ต้องแล้ว แค่เปิดไลน์ดูแล้วก็ตอบไป

        ในเมื่อโลกเข้าข้างคนแก่มากกว่าแต่ก่อน ก็สมควรที่คนแก่จะเปิดใจรับรู้โลกและความเป็นไปต่างๆ ด้วย อย่ามัวแต่เห็นแก่ความสบาย เคยอยู่ เคยคิด เคยทำอะไร ก็จะตอกย้ำซ้ำซากอยู่แบบนั้น

        คุณยายวัย 95 คนนี้เปิดโลกของตนเองเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เมื่อเธอไปเข้าเวิร์กช็อปการถ่ายภาพและการทำโฟโตชอป บ้างก็ว่ามีเพื่อนชวนไป บางที่ก็บอกว่าเป็นเวิร์กช็อปของลูกชายซึ่งเป็นช่างภาพ ยังสรุปไม่ได้แน่ชัด แต่ที่แน่ๆ คุณยายไปเรียนถ่ายภาพเมื่ออายุ 72 ปี

        เธอบอกว่า “แหม ตอนแรกที่เรียนน่ะมันยากเย็นแสนเข็ญ แต่พอได้ลองถ่ายลองทำ สักพักก็รู้สึกว่าสนุกดี แถมยังได้เจอเพื่อนใหม่ๆ อีกด้วย”

        จากวันนั้นคุณยายน่าจะถ่ายรูปเล่นสนุกๆ มาเรื่อย ผู้คนมารู้จักผลงานของเธอจากโพสต์ในอินสตาแกรม kimiko_nishimoto เมื่อปี 2017 ผลงานเข้าตาชุดแรกๆ น่าจะเป็น ภาพที่เธอกำลังต่อกรกับฝูงกาดุร้าย ภาพเธอแต่งเป็นเทพธิดาชุดขาวลอยตัวกลางอากาศ เอื้อมมือไปแตะนกกระเต็นแสนสวย หรือที่เธอทำทะเล้นลงไปนอนดิ้นพราดๆ อยู่ข้างถนนใกล้กับรถซึ่ง (ดูเหมือน) กำลังวิ่งมาด้วยความเร็ว ภาพเธอแต่งเป็นสัตว์ต่างๆ หรือยัดตัวเองลงไปในถุงใส่ขยะข้างถนน ภาพเธอลอยตัวในห้องพระขณะกำลังไหว้ป้ายชื่อสามีซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ภาพเธอกำลังซิ่งด้วยวอล์กเกอร์ช่วยประคองคนชราเวลาเดินหรือไม่ก็รถสามล้อไฟฟ้า ภาพเธอในชุดแม่มดกำลังขี่ไม้กวาดเหาะ ภาพเธอกำลังขี่รถไล่อสูรมีเขา และหลายครั้งเราได้เห็นคุณยายกับสินค้า กำลังทำหน้าที่พรีเซนต์แบบซื่อๆ ง่ายๆ นั่นหมายความว่า ไปๆ มาๆ ลูกค้าก็เข้ามาติดต่อกับคุณยายแล้ว

        ภาพเหนือจริงแนวอารมณ์ขันของคุณยายคนนี้เริ่มมีผู้ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ผลงานคุณยายไปแสดงตามแกลเลอรี เรื่องราวไปปรากฏตามหน้านิตยสาร (ใช่ครับ วงการสิ่งพิมพ์ในญี่ปุ่นสภาพยังดีกว่าบ้านเราเยอะ)

        จะว่าไปคุณยายคิมิโกะก็ไม่ใช่โอบาจังธรรมดา คุณยายเป็นคนญี่ปุ่นก็จริง แต่เป็นคนญี่ปุ่นซึ่งเกิดที่ประเทศบราซิล ตอนหลังจึงย้ายมาอยู่ญี่ปุ่น สมัยก่อนเคยทำงานเป็นช่างแต่งหน้า (ทักษะที่เอามาใช้ประโยชน์ในงานภาพถ่ายได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ) เคยเป็นนักปั่น ขี่จักรยานชนิดเอาจริงเอาจัง (น่าจะเป็นเหตุผลที่ช่วยให้แกยังมีเรี่ยวแรงและพลังใจแม้ในวัยเก้าสิบ) 

        ผลงานทั้งหมดคุณยายคิดคอนเซ็ปต์เอง ถ่ายเอง เป็นแบบเอง ในลักษณะของ self-portrait ทำโปรแกรมโฟโตชอปเอง โพสต์เองด้วย ถ้าจะให้เดา คงมีลูกชาย คัตซึทามิ นิชิโมโต ซึ่งเป็นช่างภาพมาช่วยบ้างนิดหน่อย

        คุณยายบอกว่า “ยายถ่ายรูปแบบนี้เพราะมันสนุกดี ไม่ได้อยากทำให้ใครเห็นแล้วตกอกตกใจหรอกนะ การถ่ายภาพช่วยให้ความสุขเพิ่มขึ้นเป็นสองเด้ง”

        คุณยายถ่ายรูปเปี่ยมอารมณ์ขันแบบนี้ เพราะแกสนุก ความสนุกของแกเผื่อแผ่เป็นรอยยิ้มให้ผู้คนทั่วโลก และเราเชื่อว่าคุณยายจะถ่ายภาพเซอร์ๆ ขำๆ แบบคุณยายหาทำให้เราได้ดูกันเรื่อยๆ แบบที่คุณยายส่งยิ้มให้โลกมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา


เรื่อง: ภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์​