งานนิทรรศการเดี่ยวครั้งล่าสุดของ ผศ. เกรียงไกร กงกะนันทน์ ศิลปินที่สร้างชื่อจากการวาดภาพด้วยหมึกจีนในรูปแบบขาวดำ และเป็นผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้นำ The Garden of God สวนของพระเจ้าในใจของเขา มานำเสนอผ่านงานเพนท์ติ้ง ที่เขาเรียกว่าเป็นการทดลองครั้งใหม่ของตัวเอง
ชีวิตของคนเราอาจจะไม่ได้หยุดที่ลมหายใจสุดท้าย เพราะในหลายความเชื่อจากทั่วโลกมีความเห็นคล้ายกันในเรื่องของชีวิตหลังความตาย การมีอยู่ของนรกและสวรรค์ อย่างในบ้านเราก็มีสำนวนสุภาษิตที่บอกไว้ว่า ‘สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ’ ไม่ต้องรอให้สิ้นลมเราก็สามารถสัมผัสกับดินแดนปริศนาทั้งสองที่นี้ได้
งานชุดก่อนของ ผศ. เกรียงไกร กงกะนันทน์ เป็นเรื่องของความรู้สึกในใจทั้งความโกรธ ความหลง ความริษยา ความเกลียด ซึ่งก็คืออารมณ์ด้านลบของมนุษย์ที่อยู่ในใจลึกๆ และถูกแสดงออกมาผ่านลายเส้นของตัวประหลาดด้วยเทคนิคสื่อผสม โดยใช้พู่กันจีนเป็นหลัก เมื่อมาถึงงานเดี่ยวครั้งล่าสุด The Garden of God เขาก็ยังพูดถึงเรื่องของความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเหมือนเดิม แต่คราวนี้ถูกแสดงออกมาผ่านเรื่องราวของตัวละครที่อยู่ในสวนแห่งพระเจ้า
“งานชุดนี้ผมทำขึ้นมาเป็นโปรเจ็กต์ต่อเนื่องกับงานครั้งก่อน เพียงแต่คราวนี้เราจะวาดภาพเป็นสีทั้งหมด ต่างจากงานครั้งที่แล้วซึ่งเป็นภาพขาวดำและมีสีเข้ามาอยู่ในรูปบ้างแต่ไม่เยอะ ผมอยากลองทำอะไรใหม่ๆ ใช้วัสดุใหม่ๆ มาสร้างผลงาน ลองใช้สีที่ปกติศิลปินท่านอื่นจะไม่นิยมใช้กันอย่างสีเมทัลลิก หรือสีที่ผสมกากเพชร รวมไปถึงมีเดียมหรือตัวทำละลายในสีที่ช่วยให้เกิดพื้นผิวที่แปลกตา”
“งานชุดนี้ใช้เวลาทำหนึ่งปีนิดๆ ที่นานเพราะเราไม่ค่อยมีเวลา และแต่ละภาพก็มีรายละเอียดที่ค่อนข้างเยอะ” เขาบอกกับเราระหว่างที่พาไปเดินชมผลงานชุด Story of Life, Chapter 1 : Firebloom ซึ่งเป็นภาพของสัตว์ในจินตนาการกำลังต่อสู้กันอยู่ในสวนของพระเจ้า “งานชุดนี้ยังพูดถึงกิเลศของมนุษย์เหมือนเดิม แต่พูดในเรื่องของสวรรค์ที่มนุษย์ที่จินตนาการไว้ สำหรับเราบนสวรรค์คือดินแดนที่มนุษย์ต้องการความหรูหรา เครื่องประทับทอง ความสุข โชคลาภ ความร่ำรวย เราจึงใช้ภาพของปีเซียะ ปลาทอง สิงห์คู่ มาเป็นตัวละครในงานนี้ เพราะสัญลักษณ์พวกนี้เป็นตัวแทนความปรารถนาของมนุษย์ อยากรวย อยากมีเงิน อยากมีพลัง อยากมีอำนาจ นั่นคือด้านมืดที่ทุกคนมี และกำลังต่อสู้กับความดีที่อยู่บนสวรรค์”
“
เราว่าสวรรค์จริงๆ ไม่สงบหรอก เพราะสวรรค์ในความคิดของคน ยังมีการจินตนาการที่โยงถึงความเป็นมนุษย์อยู่
”
สำหรับตัวเราเองถ้าถามถึงสวรรค์ที่อยู่ในใจ ภาพนั้นคงเป็นเหมือนฉากในหนังเรื่อง The Lovely Bones ที่เป็นภาพของหมู่เมฆกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา และนิ่งสงบ แต่สำหรับศิลปินคนนี้ภาพสวรรค์ของเขาคืองานเพนต์ติ้งขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสีสันฉูดฉาด และความชุลมุน จนเราคิดว่าถ้าหลุดเข้าไปได้เหมือนในหนังเรื่อง What Dreams May Come คงสนุกไม่น้อย
“เราว่าสวรรค์จริงๆ ไม่สงบหรอก (หัวเราะ) เพราะสวรรค์ในความคิดของคน ยังมีการจินตนาการที่โยงถึงความเป็นมนุษย์อยู่ อย่างสวรรค์ในความเชื่อของหลายๆ ประเทศเช่น อารยธรรมกรีก-โรมัน หรือจีนเองก็วุ่นวายพอๆ กัน อย่างพ่อฆ่าลูก ลูกชิงเมียพ่อมาเป็นเมียตัวเอง หรือเห้งเจียที่ขึ้นไปอาละวาดจนสวรรค์ปั่นป่วน กิเลศหลายๆ อย่างยังมีอยู่ ยังไม่หลุดพ้น” เขาอธิบายถึงการตีความของสวรรค์ในจินตนาการของตัวเอง
“เราว่าสวนของพระเจ้าของเราดูหรูหราไม่น่ากลัวหรอก (หัวเราะ) แต่งานชุด Story of Life, Chapter 1 : Firebloom เป็นงานที่ทำขึ้นชิ้นแรก เพราะอยากสร้างความเชื่อมโยงกับงานชุดก่อน เลยมีการต่อสู้กับความชั่วบางอย่างอยู่ในนั้น แต่ถ้าเป็นงานชิ้นอื่นอย่าง The Garden of God, Chapter 1 : Golden Snake, The Garden of God, Chapter 9 : Goldfish หรือ The Garden of God, Chapter 3 : Pi Xiu ก็เป็นภาพวาดของสัตว์มงคลบนสวรรค์ที่สวยงาม หรูหรา ไม่น่ากลัว และถูกจองหมดแล้ว แต่ภาพที่ดาร์กๆ หน่อย พูดถึงกิเลศเยอะๆ นี่ยังไม่มีใครสนใจอยากได้ (หัวเราะ)”
แต่ที่แน่ๆ ผลงานของ ผศ. เกรียงไกร กงกะนันทน์ ในตอนนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
“ปีนี้เป็นปีที่ดีมากๆ ของเรา อย่างต้นปีงานของเราก็ได้ถูกนำไปแสดงที่สหรัฐอเมริกา ในนิวยอร์ก และซีแอตเทิล คนก็เริ่มรู้จักเราเยอะขึ้น ปีหน้าก็ตั้งเป้าว่าจะจัดงานแสดงเดี่ยวของตัวเองอีกครั้ง โดยงานจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว (หัวเราะ) และอยากมีงานแสดงคู่กับศิลปินที่เราชอบสักคน”
เมื่อพูดถึงการเป็นศิลปินที่ต้องแสดงผลงานตามแกลเลอรีต่างๆ เราก็สงสัยว่าสำหรับเขา การเป็นศิลปินอิสระกับการมีสังกัดนั้นเขาชอบแบบไหนมากกว่ากัน
“เราชอบการเป็นศิลปินอิสระมากกว่า เพราะเราเองก็เป็นอาจารย์อยู่ที่คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุมด้วย เวลาทำงานศิลปะแบบเต็มตัวจึงมีน้อย ซึ่งการทำงานแบบนี้เราจะสะดวกกว่ามาก ถ้าต้องเซ็นสัญญาจริงๆ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเราชอบทดลองอะไรไปเรื่อยๆ การถูกครอบด้วยกรอบของเวลาบางครั้งก็ทำให้อะไรหลายอย่างลงตัวได้ยาก”
เห็นเป็นคนชิลๆ แบบนี้ ในบทบาทของอาจารย์ที่สอนเด็กๆ ที่จะเติบโตไปเป็นศิลปินในงานศิลปะแขนงต่างๆ เขาก็มีความเฮี้ยบน่าดูเหมือนกัน
“
งานชุดนี้เหมือนเป็นการสำรวจจิตใจของตัวเราเองด้วย เพราะบางทีเราก็โดนกิเลศ โดนด้านมืดเข้าครอบงำบ่อยๆ
”
“เราจะให้เด็กทำในสิ่งที่เขาอยากทำจนสุดตัว จะไม่ดึงเด็กเข้าหาตัวเรา แต่ถ้างานของเขาใกล้เคียงกับแรงบันดาลใจที่เขามีอยู่สูงมาก เราก็ต้องเข้าไปช่วยปรับมุมมองให้ ต้องเข้มงวดกับเขาระดับหนึ่ง เพราะเมื่อเขาเรียนจบไป การทำงานในสายงานนี้จะมีเรื่องของลิขสิทธิ์มาเกี่ยวข้อง ถ้าเอามาเยอะจนเกินไปก็จะกลายเป็นปัญหากับตัวเขาเอง ถ้าใครไปลอกงานของคนอื่นมาก็ต้องให้ F แล้วให้ไปแก้ไข เราต้องสอนเขาให้รู้ว่าการเอาผลงานของคนอื่นมาดัดแปลงเป็นเรื่องที่ผิด”
“งานชุดนี้เหมือนเป็นการสำรวจจิตใจของตัวเราเองด้วย เพราะบางทีเราก็โดนกิเลศ โดนด้านมืดเข้าครอบงำบ่อยๆ” เขาเล่าพร้อมกับหัวเราะลั่น เมื่อเราถามไปว่างานของคุณครั้งนี้สะท้อนตัวตนอะไรของคุณออกมา
FYI
นิทรรศการ The Garden of God โดย ผศ. เกรียงไกร กงกะนันทน์ จัดแสดงที่ DUKE Contemporary Art Space ถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ เข้าชมได้ตั้งแต่ 11.00-24.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook : DUKE