เพราะการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัส คือการสร้างพัฒนาการที่ดีที่สุดสำหรับเด็กเล็ก ‘โกกิ’ – กัญญาพัชร์ วงศ์ชยาศิลป์ และ ‘กีกี้’- ภริฐญดา ปัณฑาพงศ์ จึงแปลงโฉมบ้านสีขาว 2 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 46 ให้เป็นโรงเรียนแสนอบอุ่นสำหรับเด็กวัย 2-6 ปี โดยเน้นการเรียนการสอนผ่านกิจกรรมเอาต์ดอร์หลากประเภท ที่ช่วยส่งเสริมทักษะของนักเรียนตัวน้อยทั้งทางด้านสมอง ร่างกาย และจิตใจ
“ที่นี่ถือว่าเป็นโรงเรียนแห่งแรกในประเทศไทยที่นำกิจกรรมเอาต์ดอร์มาปรับใช้กับการเรียนการสอนอย่างจริงจัง โดยเรายึดคอนเซ็ปต์ว่า ‘Healthier Happier Smarter’ เพราะจริงๆ แล้วพฤติกรรมของเด็กไม่ซับซ้อนเลย หากได้เล่น กิน นอน ทำกิจกรรมสนุกๆ เขาก็จะสุขภาพดี ส่งผลให้มีความสุข และพร้อมที่จะเปิดรับการเรียนรู้ใหม่ๆ ซึ่งพัฒนาสมองเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” กัญญาพัชร์บอกกับเราด้วยรอยยิ้ม
พื้นที่กว่า 1,600 ตารางเมตรของโรงเรียน Outdoor School Bangkok ได้รับการจัดสรรออกเป็นพื้นที่อินดอร์และเอาต์ดอร์ในสัดส่วนที่เกือบจะเท่ากัน โดยพื้นที่กลางแจ้งจะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ แปลงผัก บ่อโคลน ผนังสำหรับปีนผาจำลอง และสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ ที่นอกจากจะทำให้เด็กๆ ได้ปีนป่ายอย่างสนุกสนานแล้ว ยังเป็นห้องเรียนเรื่องสีและแสงตกกระทบที่สะท้อนผ่านกระจกแต่ละบานอีกด้วย
“จากงานวิจัย เด็กๆ จะมีพัฒนาการทางสมองจริงๆ ก็หลัง 6 ขวบ ตอนนี้เราจึงอยากพัฒนาส่วนของร่างกายเขาให้เต็มที่ก่อน” กัญญาพัชร์พูดกับเราด้วยน้ำเสียงจริงจัง พร้อมกล่าวปิดท้ายว่า “การศึกษาไทยควรมีความแตกต่างบ้าง เราไม่อยากให้โรงเรียนเป็นสถานที่ส่งต่อความรู้เพียงอย่างเดียว แต่ควรเป็นเหมือนสถานที่เติมเต็มความสุขของความฉลาด ไม่ใช่ให้เด็กโดนบังคับเรียน แต่ต้องเรียนอย่างมีความสุขจริงๆ”
ภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร
_
Inspired by Space
_
“โรงเรียนที่ดีควรสอนให้เด็กมีทั้งความรู้และความคิด เพราะเรามองว่าในอนาคต อาชีพที่เรามีทุกวันนี้อาจไม่มีแล้ว ซึ่งถ้าเขามีแต่ความรู้ ไม่มีความคิด เขาอาจจะอยู่ไม่รอด แต่ถ้าเขามีทั้งความรู้และความคิด เขาก็จะอยู่ที่ไหนก็ได้”กัญญาพัชร์ ปัณฑาพงศ์