หากจะกล่าวว่า ‘มนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร’ อย่างเต็มร้อยก็คงไม่ได้ คงกล่าวได้เพียงว่า ‘มนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรอย่างสมบูรณ์แบบ’ เท่านั้นเอง เพราะบางครั้งหลังจากการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเป็นเวลายาวนาน ร่างกายเราก็ล้า กะจิตกะใจจะทำงานต่อก็ไม่มี อิดออด อยากจะพัก ก็ต้องหาวิธีรีเซ็ตตัวเองกันไป
ปวิณ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) คงเข้าใจข้อจำกัดข้อนี้เป็นอย่างดี จึงเป็นพลังให้เขารังสรรค์ Wishing Tree Resort จังหวัดขอนแก่น รีสอร์ตที่เรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็นสถานที่พักผ่อนอย่างแท้จริงขึ้นมา สมัยนี้การพักผ่อนมันยาก คนเราไม่ค่อยได้พักผ่อนจริงๆ มีเทคโนโลยีต่างๆ รบกวนเยอะ สถานที่นี้เป็นสถานที่ที่คนมาพักแล้วสงบ สบาย ได้อยู่กับธรรมชาติ ให้คนได้มารีเซ็ตตัวเองกันก่อนจะกลับไปเริ่มทำงานอีกครั้ง
Wishing Tree Resort เป็นรีสอร์ตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วบริเวณ มีพื้นที่ติดกับลำน้ำชี แม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน ทำให้เห็นวิวของแม่น้ำสายนี้สุดลูกหูลูกตา เมื่อเดินเข้ามาที่นี่ครั้งแรก จะเห็นได้เลยว่าที่นี่ร่มรื่น มีสนามหญ้าสีเขียว มีต้นไม้ใหญ่อยู่ทั่วบริเวณ สมกับชื่อวิชชิ่งทรี ที่แปลว่าต้นกัลปพฤกษ์ ต้นไม้ต้นใหญ่ที่เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดของขอนแก่น
“คุณปวิณมองว่าต้นไม้ที่มีอยู่แล้วมันสวยงามอยู่แล้ว พยายามตัดออกให้น้อยที่สุด ควรจะรักษาไว้ การที่ไปเอาต้นใหญ่ๆ มาลง จากที่อื่นมันก็ไม่เหมือนกับต้นที่มีอยู่แล้ว” คุณพลอย นิมมิตา ไทยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัทบางกอกกล๊าสเล่าให้เราฟัง
“จริงๆ อีกจุดประสงค์ของที่นี่ก็คือใช้เป็นที่ฝึกอบรมพนักงานของบางกอกกล๊าสด้วย พนักงานของเราจะมาพักเรื่อยๆ หรือมาอบรมสัมมนาบ้าง แกต้องการให้พนักงานเปลี่ยนบรรยากาศจากที่ทำงานของแต่ละคน อยากให้มารวมกันตรงนี้ ถือเป็นการพักผ่อนไปด้วยในตัว ตรงนี้เป็นที่ที่ไม่ค่อยมีแสงสี ได้อยู่กับธรรมชาติ มองไปทางไหนก็เห็นสีเขียว ได้อยู่กับตัวเอง ได้คิด ได้คุย ได้อยู่กับคนจริงๆ” จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นนักกีฬาฟุตบอลนั่งพูดคุยกันเป็นครั้งคราว อยู่ในห้องอาหารอันโอ่โถงของรีสอร์ต
ที่นี่มีทั้งหมด 47 ห้อง แบ่งเป็นห้องดีลักซ์ ห้องจูเนียร์ สวีท ห้องวิลล่า และห้องพูลวิลล่า ห้องใหญ่สุดที่มีสระว่ายน้ำเล็กๆ ในตัว แต่ละห้องมีการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของความเป็นอีสาน ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้แสดงออกถึงเสน่ห์ของเมืองได้อย่างดี ไม่ว่าจะมุมไหนก็จะสัมผัสได้ถึงความเป็นขอนแก่น ในตัวห้องพักเองก็ลูกเล่นน่ารักๆ อย่างการใช้ผ้าขาวม้าตกแต่งบนหัวเตียง หรือใช้ทำเป็นลายชุดคลุมอาบน้ำ โคมไฟตามจุดต่างๆ จะใช้ไม้ที่ไม่ประณีตมาก ดูสมจริงแต่ทว่าๆ ยังคงความมีระดับไว้ ทำให้ได้กลิ่นอายวิถีชีวิตดั้งเดิมของขอนแก่นอย่างเต็มเปี่ยม
หากมาพักที่นี่ นอกจากจะได้สัมผัสความเป็นอีสานผ่านห้องหับต่างๆ แล้ว ยังได้ลิ้มรสผ่านอาหารอีกด้วย
“คุณปวิณมองว่าคนที่มาพักที่นี่ไม่มีกิจกรรมอะไรมากนอกจาก ทานข้าว ดูธรรมชาติ อาหารเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้คนไม่ต้องไปทานข้าวข้างนอก เชฟพยายามสร้างเมนูใหม่ๆ ขึ้นมาตลอด ไม่อยากให้มันน่าเบื่อ” คุณพลอยเล่า
Wishing Tree Resort ขึ้นชื่อเรื่องอาหารแบบฟิวชั่น ที่เสิร์ฟจากเชฟชาวขอนแก่นแท้ๆ เมนูพิเศษเห็นจะเป็น พิซซ่าผัดกะเพรา ที่พอกัดเข้าไปคำแรกจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นของกะเพราที่เราคุ้นเคยกันดี เมื่อมาพร้อมกับชีสนุ่มๆ และแป้งบางกรอบ เป็นพิซซ่าที่ไม่เคยได้ลิ้มลองจากที่ไหน หรือจะเป็นหมูย่างจิ้มแจ่ว ที่ใช้สันคอหมูชั้นดี ติดมันเล็กน้อย หมักกับเบียร์จนนุ่มแล้วย่างจนหอม มีความฉ่ำของมันติดกับเนื้อ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วรสชาติแบบอีสานแท้ๆ ก็อร่อยแบบไทยๆ คุณพลอยเล่าเสริมว่าอาหารของที่นี่ค่อนข้างมีความแปลกใหม่ ถึงขั้นมีลูกค้าที่ไม่ใช่แขกแวะเวียนมาทานกันอยู่บ่อยๆ เลยทีเดียว
ยามบ่ายแก่ๆ กับอากาศเย็นสบายของเดือนมกราคม ชวนให้ชมธรรมชาติโดยรอบอย่างมาก ใครจะปั่นจักรยานที่รีสอร์ตเตรียมไว้ให้ก็มี แต่เราเลือกที่จะเดินเล่นไปตามทางเล็กๆ ที่ขนาบข้างด้วยพื้นหญ้าสีเขียวชอุ่ม เราเดินมาเรื่อยๆ จนสุดทางเดินของรีสอร์ต ตรงนี้มีสวนผักออร์แกนิกและสวนสัตว์เล็กๆ ของคุณปวิณ
เมื่อเดินเข้ามาก็พบกับเจ้าถิ่นสองตัวที่เห่าทักทายผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร ด้านในมีม้า ควายเผือก วัว แกะ และแพะ ที่อยู่ในพื้นที่ของตนเป็นสัดส่วน สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ที่คุณปวิณเลี้ยงไว้เพราะชอบก็มี หรือจะเป็นที่ช่วยไถ่ชีวิตมาก็มี
เมื่อได้ชมสวนสัตว์อย่างหนำใจแล้ว ยังไม่รู้จะไปไหนต่อ ที่นี่มีสปาไว้บริการ มีทั้งนวดไทย นวดน้ำมัน และนวดหน้า แต่ที่ขึ้นชื่อคืออ ‘นวดแบบชีวานา’ คือการนวดโดยใช้น้ำมันอโรม่า มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ทางรีสอร์ตยังมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องซาวน่าให้ผู้มาพักได้ใช้กันอย่างเต็มที่
ที่นี่มีทุกอย่างครบในที่เดียวตามความตั้งใจของคุณปวิณ ที่อยากให้แขกผู้มาเยือนได้พักนานๆ ไม่ต้องออกไปตระเวนเที่ยวที่ไหน เป็นการพักผ่อนที่แท้จริง ได้อยู่กับธรรมชาตินานๆ ที่นี่คงเป็นเหมือนปุ่มรีเซ็ตของชาวกรุงฯ หรือใครก็ตามที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งปีแล้วอยากมาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ให้ธรรมชาติเติมเต็มหัวใจให้ชุ่มชื่นก่อนจะเริ่มใช้ชีวิตแสนวุ่นวายอีกครั้ง
เรื่อง : วิชิตา คะแนนสิน
ภาพ : วิชิตา คะแนนสิน, Wishing Tree Resort