บ้านเล็กในทุ่งกว้าง เวลาผ่านไปหลายสิบปี นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้มีโอกาสกลับบ้านเกิดของแม่ ตอนนั้นฉันยังเป็นเด็กน้อยวัยเพียงประถมสาม ตัวอ้วนกลม ผิวเข้มจากการเรียนว่ายน้ำ มาพร้อมกับผมสั้นเสมอติ่งหู ตัดหน้าม้าเต่อขึ้นไปจนถึงกลางหน้าผาก ภาพของเด็กน้อยที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นแม่ในวัยเด็กได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน ในความทรงจำ สิ่งเดียวที่อยู่ตรงหน้าของฉันคือ บ้านเก่าที่ทรุดโทรม แต่ถึงอย่างนั้น...
น้องสะใภ้ และกลิ่นอายภูเขียว “ฮาโหลแม่ ปีนี้บ่ได้กลับบ้าน คิดฮอดล้ายหลาย” (ลากเสียงยาว) (ฮัลโหลแม่ ปีนี้ไม่ได้กลับบ้าน คิดถึงมากๆ เลยนะ) ฉันแอบได้ยินเสียงน้องสะใภ้วิดีโอคอลคุยกับแม่เมื่อช่วงก่อนวันสงกรานต์ที่ผ่านมา “บ่เป็นหยังดอกลูก...
ของเล่นธรรมชาติ โชคดีที่ข้างบ้านของฉันมีพื้นที่สีเขียวที่กึ่งร้างกึ่งใช้งาน ในอดีตตรงนี้เคยมีบ้านไม้อยู่หลายหลัง และทุกหลังก็คือเพื่อนเล่นแก๊งวัยเด็กของฉัน ที่จะใช้พื้นที่ที่เหลือเล่นด้วยกันตั้งแต่ปีนต้นตะขบ เล่นขายของ โดดหนังยาง วิ่งไล่จับ เป่ากบ ดีดลูกแก้ว และอีกสารพัดที่งัดกันมาเล่น แต่แล้วไม่นานทุกคนก็ย้ายออก...
ท้องฟ้า สายฝน และการเอิ้นขวัญ ทุกครั้งที่เมฆเทาเข้มเคลื่อนตัวมาคลุมท้องฟ้าจนเปลี่ยนเป็นสีหม่น หากมีลมกระโชกแรงมาเป็นระลอกๆ นั่นแสดงว่า อีกไม่ช้าฝนก็จะตก หยดน้ำที่กำลังพอดี นำความอุดมสมบูรณ์มาสู่ชาวบ้าน รวงข้าวในนาเจริญงอกงาม พืชผักต่างๆ ผลิดอกและแตกใบอ่อน สัตว์กินได้ตัวเล็กตัวน้อยต่างอ้วนพี มีแอ่งน้ำเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้กระโดดย่ำโคลนเล่นอย่างสนุกสนาน...
กลิ่นฝนมาพร้อมกับ ‘ความทรงจำ’… ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มนั่งคุยกับแม่เรื่องอาหารอีสานและชีวิตบ้านนอกในวัยเด็กเมื่อช่วงกลางฤดูแล้ง กระทั่งเข้าฤดูฝน สีหน้าและคำพูดของแม่ทำให้ฉันคิดแบบนั้นเรื่อยมา ตลอดการพูดคุยกับแม่ ทำให้เรารู้ว่า ทุกฤดูที่ผ่านไปในแต่ละปี ชีวิตของแม่ในวัยเด็กก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ แม่ใช้ชีวิตบ้านนอกได้เพียงสิบสามปีเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงสั้นๆ แต่กลับกลายเป็นว่าแม่สามารถบันทึกความทรงจำดีๆ...
ฤดูร้อน “ร้อนอีกปีแล้วสิเนอะ” เสียงพึมพำของเด (คำเรียก ‘พ่อ’ ในภาษาจีนไหหลำ) ที่กำลังสอยมะม่วงเขียวเสวยอยู่หน้าบ้าน ลอยมาตามสายลมเอื่อยๆ ที่หอบเอาไอร้อนมาเป็นระยะๆ สลับกับเสียงขยับปีกของจักจั่นที่ดังก้องมาจากต้นฉำฉาหลังบ้าน แตรสัญญาณตามธรรมชาติที่บ่งบอกว่า ฤดูร้อนเริ่มต้นขึ้นแล้ว ...
ความจริง หรือ ความฝัน? เมื่อคืนฉันฝันดี – ฝันเห็นตาบุและยายชีน้อยที่เสียไปนานแล้ว ฉันเห็นบึงกว้างสุดสายตา เรือลำน้อยที่มีรอยน้ำซึม เล้าเป็ดสองชั้น กระต๊อบเก่าคร่ำคร่าใต้ถุนสูง และตัวฉันเองในวัยเด็กใส่ชุดกระโปรงสีชมพูสลับขาว ฉันทบทวนความฝันและนั่งปะติดปะต่อเรื่องราว...
เมื่อถึงเวลา ลมหนาวก็จะกลับมาเอง ตั้งแต่ฉันกลับบ้านที่ทุ่งโพธิ์ จังหวัดพิจิตร ครั้งแรกจนถึงครั้งล่าสุด ที่นี่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคงมีเพียงฤดูกาลที่ฉันมักจะชอบเฝ้ามองอยู่เสมอ ช่วงต้นฤดูหนาวท้องฟ้าสีครามไร้ริ้วเมฆ ฉันจะเห็นแมลงปอและผีเสื้อหลากสี ตกกลางคืนยิ่งแล้วใหญ่ ฟ้าไร้เมฆ แต่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับทั่วทั้งฟ้า...
ลิ้นชักไม้ และรูปใบเก่า ตั้งแต่กงจากไป ฉันก็ไม่เคยฝันถึงกงเลย จนกระทั่งช่วงสิ้นปีที่แล้ว ก่อนจะถึงวันครบรอบหนึ่งขวบเต็มของลูกชายของฉัน ฉันก็ฝันเห็นกงในชุดตัวเก่ง เสื้อผ้าฝ้ายสีขาว กางเกงแพรสีน้ำเงิน สวมสร้อยพระที่มีมากกว่าหนึ่งองค์ ใส่แว่นสายตาทรงกลมที่เอียงกระเท่เร่ สองแก้มทาด้วยแป้งหอมเด็กยี่ห้อฮอลลีวู๊ด กลิ่นอ่อนๆ ที่ลอยมาเตะจมูก ในอ้อมกอดของกงคือเหลนชาย ลูกชายของฉันในวัยแรกเกิด กงค่อยๆ ก้าวลงบันไดมาจาก ‘เหล่าเต้ง’...
ฤดูลม และว่าวจุฬาอีสาน “ปีนี้จะหนาวไหมนะ” ฉันจำได้ว่าแม่มักเอ่ยถามท้องฟ้าแบบนี้เป็นประจำทุกปี หลังจากบ่นเรื่องฝนตกหนักจนทำให้เสื้อผ้าส่งกลิ่นเหม็นอับแทบทุกวัน ถึงอย่างนั้นแม่ก็ยังชอบฤดูฝน แต่ก็อดคิดถึงฤดูหนาวไม่ได้ แม่บอกว่า หน้าหนาวที่บ้านกอกจะเริ่มตั้งแต่ราวปลายเดือนพฤศจิกายน สังเกตได้จากไอเย็นที่เริ่มพัดมาเป็นระลอกๆ มองไปในนาก็จะเห็นรวงข้าวของตาเริ่มโน้มตัวลงต่ำ อีกไม่ช้าก็จะได้เวลาเก็บเกี่ยว...
อากงแห่งเกาะไหหลำ และธุรกิจโรงสีข้าว ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ท้องนากว้างสุดลูกหูลูกตาในหมู่บ้านทุ่งโพธิ์ จังหวัดพิจิตร ยังคงว่างเปล่า วันไหนที่ฝนตกพอให้ผิวหน้าดินอ่อนนุ่ม เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นชาวนาก็จะกระโดดขึ้นรถแทรกเตอร์พ่วงด้วยผานเจ็ดหรือผานพรวน (เครื่องมือเตรียมดินชนิดหนึ่ง เหมาะสำหรับการไถเตรียมดินระดับตื้นๆ ในครั้งแรก) จากนั้นก็ขับลงท้องนาเพื่อไถเปิดหน้าดิน ซึ่งชาวนาจะเรียกวิธีนี้ว่าการไถหยาบ จากนั้นก็จะไถละเอียดอีกครั้งด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่าไถลูกกลิ้ง ทั้งหมดเพื่อเตรียมดินสำหรับการหว่านเมล็ดข้าวเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนเต็มฤดูในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ...
รสชาติของฤดูกาล ที่ประจำของฉันเวลาเขียนต้นฉบับคอลัมน์ ‘รสกับข้าว’ จะต่างจากพื้นที่เขียนงานชิ้นอื่นๆ ฉันชอบนั่งในห้องนอน เปิดประตูฝั่งระเบียงออก เปิดประตูหน้าห้อง ปิดพัดลม และรูดผ้าม่านขึ้นให้ชิดติดขอบหน้าต่างด้านบน ให้อากาศถ่ายเทแทนการเปิดเครื่องปรับอากาศ สัมผัสกับอุณหภูมิตามความเป็นจริง เพื่อให้เกิดประสบการณ์ร่วมเวลาที่แม่เล่าถึงฤดูกาล แม้ว่าจะไม่ใกล้เคียงเลยก็ตาม ...