Doe, a deer a female deer Ray, a drop of golden sun Me. a name I call myself Far, a...
“It keeps me awake, the look on your face, the moment you heard the news. You’re screaming inside, and frozen...
“ผู้ที่มีรักคือผู้เข้มแข็ง ผู้เข้มแข็งคือไม่มีความกลัว ผู้ที่ยังมีความกลัวไม่อาจมีความรักและให้อภัย แม้ว่ารักมันจะยากเย็น เกลียดชังมันจะง่ายดาย แต่ในลมหายใจสุดท้าย เธอจะตายพร้อมสิ่งใด…” บทเพลง โปรดเรียกขานฉันด้วยนามอันแท้จริง ดังขึ้นอีกครั้งในค่ายเยาวชนเชียงดาว บทเพลงที่คล้ายเป็นเพลงประจำสถานที่แห่งนี้ไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะกิจกรรมครั้งใด บทเพลงนี้ดูจะถูกนำกลับมาร้องใหม่ในบรรยากาศรอบกองไฟ ใต้แสงดาว ดอยหลวงตระหง่านตัดฟ้าสีดำอยู่เบื้องหน้า บรรยากาศลมหนาวต้นปีเขยิบเราเข้าใกล้กันมากขึ้น ชิดขึ้น...
“มนุษย์ไม่ได้กลัวความทุกข์ มนุษย์แค่กลัวความทุกข์ที่ไร้ความหมาย” วิกเตอร์ อี. แฟรงเคิล (Viktor E. Frankl) เขียนไว้ในหนังสือ Man’s Search for Meaning1 บันทึกความทรงจำว่าด้วยความหมายของชีวิตในวันเผชิญหน้ากับความตายในค่ายกักกันนาซี ...
(1) ร่วงหล่น… สภาวะเคว้ง วาบหวิว เบา ว่างเปล่า ความไม่รู้ ไม่แน่ใจ...
“ตอนที่หนูเกิดมา พ่อพูดอะไรกับหนูเป็นประโยคแรกรู้ไหม พ่ออุ้มหนูไปยืนริมหน้าต่างห้องพักในโรงพยาบาล มันสูงพอที่เราจะมองเห็นภาพมุมกว้างของเมือง พ่อกระซิบกับหนูว่า… ยินดีต้อนรับสู่โลกของเรานะลูก มันไม่ค่อยน่าอยู่นักหรอก แต่เราจำเป็นต้องมีศรัทธาว่าเราสามารถทำบางสิ่งบางอย่างให้ดีขึ้นได้”1 ความปรารถนาถึงโลกที่ดีกว่าน่าจะเป็นความหวังที่พ่อแม่ทุกคนล้วนมี และคงน่ายินดีไม่น้อยหากลูกของตนไม่เพียงรอคอยความหวัง แต่พยายามเป็นพลังและมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ดีกว่า ทว่าปัญหามันอาจอยู่ตรงนั้น...
ในดินแดนแห่งความจริงทุกอย่างเปลี่ยนผัน และโชคชะตากับคนเรา ไม่เคยได้คุยกัน มันไม่ยอมบอกให้ใครรู้ก่อน ว่าจะเสียอะไรไปเมื่อไร อย่างวันนั้น ฉันไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะเป็นวันสุดท้ายที่ได้เจอกัน เธอกับฉัน จะไม่ได้พบกันต่อไป ถ้าหากเพียงได้รู้ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย ฉันก็คงทำได้ดีกว่าแค่พูดทักทาย แต่เพราะฉันไม่รู้ ความรู้สึกที่ควรจะอยู่ในประโยคสุดท้าย เธอไม่เคยได้ยิน1 ...
“แก้วสาเกในมือฉันลอยลิ่วไปใส่เขา เขาโกรธ คว้าแก้วที่ร่วงหล่นใส่ตัววิ่งเข้ามาหาฉัน แล้วทุบแก้วนั้นอย่างแรงลงไปบนผนังห้องด้านหน้าฉันสองครั้ง พร้อมน้ำเสียงด่าทอที่แสดงว่าโกรธสุดขีดแล้ว ต้องบอกว่าดีที่ทุบกำแพง เพราะถ้าเลื่อนมาอีกนิดเดียวก็หน้าฉัน ขนาดกำแพงยังเป็นรู ทะลุจนแก้วหลุดเข้าไปได้ทั้งใบ ถ้าเป็นหน้าคงไม่ต้องพูดถึง”1 นี่ไม่ใช่บทละคร นิยาย หรือเรื่องแต่ง หากคือเรื่องจริงของผู้หญิงคนหนึ่ง เรื่องจริงที่เธอเก็บไว้กับตัวมาเนิ่นนาน อาจกล่าว...
“Where are we now?” —เราอยู่ที่ไหนกัน เคต—ภรรยาชาวอังกฤษของอดัม แขกอาวุโสคนสำคัญที่ฉันมีหน้าที่คอยดูแลในการเดินทางไปทำงานในครั้งนี้ เคตหยุดกะทันหันระหว่างทางต่อแถวอยู่หน้าเกตรอขึ้นเครื่องบิน ฉันตอบไปอย่างอัตโนมัติถึงที่หมายที่เรากำลังจะไป และอดประหลาดใจไม่ได้กับคำถาม นี่ล้อกันเล่นหรืออย่างไรที่ไม่รู้ว่าเราอยู่ไหน จะไปไหนกันทั้งๆ ที่กำลังจะขึ้นเครื่องอยู่แล้ว ...
(1) เขาหยิบไม้หนีบผ้ามาหนีบเธอทีละจุด เริ่มจากหัวไหล่นั่นคงไม่เจ็บเท่าไร หนีบผิวหนังชั้นบนของเธอไล่มาเรื่อยๆ ถึงเอวบางๆ นั่นน่าจะเจ็บพอใช้ ไล่ต่อลงมาถึงผิวหนังเหนือสะบ้า แล้วย้อนขึ้นกลับไปหนีบหนังหน้าเธอ แก้ม ริมฝีปาก จมูก เอาละ นั่นคงเจ็บน่าดู คนดูบางส่วนเริ่มขยับให้หยุด...
Time will heal everything. กาลเวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง หากจะมีคำโกหกยอดนิยมใดที่ใช้ปลอบใจผู้คน คงหนีไม่พ้นวลีนี้ วลีว่ากาลเวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง ในที่สุดความจริงจะเปิดเผย… และหากจะมีคำโกหกใดที่ใช้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ที่แยบยล คงหนีไม่พ้นการปล่อยให้ผู้คนลืมเลือนมันไป ไม่ต้องถูกจดจำ...
“ผมได้ยินว่าประมาณ 8 ปีที่แล้ว มีคนตายเพราะการประท้วงกว่า 90 คน ผมสงสัยว่าแล้วทำไมถึงไม่มีคดีอาญาเกิดขึ้นเลย”1 ‘ชองยุนซอก’ ผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความตรงไปตรงมาในเนื้อหาวิพากษ์สังคมตั้งคำถามซื่อๆ แต่แสบทรวงว่านั่นสินะ ทำไม เราถึงยังแน่นิ่งสงบได้ในสถานการณ์ที่ผ่านมา ...