ชายร่างโปร่ง ใส่แว่น สูบบุหรี่จัด ถือสมุดและกล้องถ่ายรูปเข้าป่า และอุทิศตนในฐานะนักอนุรักษ์มาตลอดชีวิต เกียรติประวัติและผลงานมากมาย รวมทั้งเสียงปืนนัดนั้น ส่งผลให้หลายคนยกย่องว่าเขาเป็นฮีโร่ แต่เมื่อเราค้นคว้าทำความเข้าใจชีวิตของผู้ชายคนนี้ ในอีกมุมหนึ่ง สืบก็คือคนที่ตั้งใจทำงานและรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง รวมทั้งมุ่งมั่นตามปณิธานของตัวเองจนวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ เราคิดว่าสิ่งที่น่าจะสะท้อนออกมาได้ดังกว่าเสียงปืนในวันที่ 1 กันยายน 2533...
เราคิดว่าสิ่งที่น่าจะสะท้อนออกมาได้ดังกว่าเสียงปืนในวันที่ 1 กันยายน 2533 คือการไม่พูด และปล่อยให้ข้อมูลความตั้งใจในการทำงานของ สืบ นาคะเสถียร เป็นฝ่ายถ่ายทอดความละมุนจริงจังในการช่วยเหลือสัตว์และป่าไม้ที่เปรียบเสมือนลมหายใจของเขาแทน วลี “วันนี้ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่าทุกตัว” ที่สืบใช้พูดในการเคลื่อนไหวต่อต้านการสร้างเขื่อนน้ำโจนและการอภิปรายต่างๆ ยังฟังแล้วสะท้อนใจมาจนทุกวันนี้ และน่าสงสัยว่าพี่สืบพูดมันออกมาด้วยแววตาแบบไหน ในฐานะคนที่หายใจร่วมกับป่า ทำงานในประเด็นการอพยพสัตว์ และการอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้...
สืบ นาคะเสถียร เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ความหมายของคำว่า ‘Conservation’ (การอนุรักษ์) คือการรักษาโดยไม่ทำให้เปลี่ยนสภาพ ชายร่างโปร่ง ใส่แว่น สูบบุหรี่จัด ถือสมุดและกล้องถ่ายรูปเข้าป่า อุทิศตนในฐานะนักอนุรักษ์มาตลอดชีวิต เกียรติประวัติและผลงานมากมาย รวมทั้งเสียงปืนนัดนั้น ส่งผลให้หลายคนยกย่องว่าเขาเป็นฮีโร่ แต่เมื่อเราค้นคว้าทำความเข้าใจชีวิตของผู้ชายคนนี้ ในอีกมุมหนึ่ง สืบก็คือคนที่ตั้งใจทำงานและรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง รวมทั้งมุ่งมั่นตามปณิธานของตัวเองจนวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ ...