“ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ในอำนาจ แต่ผมพูดไว้เลยว่า ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยจะไม่มีการรัฐประหารอีกต่อไป”
หากพูดถึงตัวละครในเวทีการเมืองที่สร้างความร้อนแรงได้มากที่สุดคนหนึ่ง คงหนีไม่พ้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เพราะเขาคือคนที่โหมไฟให้กับประเด็นเชิงโครงสร้างเอาไว้มากมาย ทั้งการเสนอให้แก้ไขกฎกติกาเฮงซวยจากรัฐธรรมนูญปี 60 (เขาพูดแบบนั้น) การชี้ให้เห็นปัญหาว่าการสืบทอดอำนาจเผด็จการในคราบนักการเมืองคือต้นต่อปัญหาของประเทศไทยในปัจจุบัน พร้อมทั้งประกาศอย่างชัดเจนว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
คงมีไม่กี่คนที่กล้าออกมาวิจารณ์และท้าชนกับอำนาจเผด็จการทหารอย่างชัดเจน ลองไปฟังกันว่าอะไรคือเหตุผล ที่ทำให้อดีตนายตำรวจตงฉินวัย 70 ที่มีสถานภาพชีวิตส่วนตัวเพียบพร้อมสุขสบายอยู่แล้ว กระโดดมาต่อสู้บนสนามการเมือง และหาญกล้าบอกว่าตัวเองคือคำตอบเดียวที่จะต่อสู้กับเผด็จการได้
ด้วยอายุขนาดคุณ ทำไมถึงตัดสินใจเลือกลงเล่นการเมือง เพราะนี่คงไม่ใช่ภารกิจที่สบายนัก
ปกติผมเกษียณแล้วในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็สุขสบายไม่มีปัญหาอะไร ทั้งครอบครัวและส่วนตัว แต่เผอิญบ้านเมืองมีปัญหา อย่างที่เรารู้เห็นและทราบกันอยู่ แล้วทหารก็มาซ้ำเติมด้วยการยึดอำนาจเข้าไปอีก ทำให้ประเทศเราตกต่ำลงไป เสียหายมาก โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ
ผมคิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นต่อไปแบบนี้ก็จะเสียหายไปเรื่อยๆ เพราะทหารเขาจ้องแต่จะคิดตลอดเวลาว่าเขาจะต้องเป็นใหญ่ในบ้านเมืองให้ได้ เขาก็คิดว่าจังหวะไหนสามารถยึดอำนาจได้ก็จะทำ ทำด้วยวิธีการสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นด้วย ครั้งนี้ก็เหมือนกันที่ร่วมกับพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงในกรุงเทพฯ แล้วก็ภาคใต้ร่วมกันป่วนเมือง เพราะว่าพรรคการเมืองพรรคนี้เลือกตั้งทีไรก็แพ้ และถึงทหารจะลงเลือกตั้งยังไงก็ไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้น ไอ้สองหัวนี้ก็เลยป่วนเมืองเพื่อยึดอำนาจ
แล้วถ้าผมเป็นคนที่ไม่มีความพร้อม ผมคงจะช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะคนเราถ้าคิดจะไปช่วยใคร จะต้องช่วยตัวเองได้ก่อน อย่างที่บอกไป ผมเกษียณมาแล้วก็อยู่แบบสบายๆ ประกอบกับที่ร่างกายเราแข็งแรงเสียด้วยสิ เพราะผมเป็นนักกีฬาออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็ก เมื่อสุขภาพก็ดี ร่างกายก็ดี และเราเป็นคนที่มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ มีจิตใจที่เป็นธรรมไม่เอารัดเอาเปรียบใคร สรุปก็คือคิดว่าตัวเองมีความพร้อมทั้งทางร่างกาย ความคิด จิตใจที่จะทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมือง และก็ในสถานการณ์แบบนี้ที่ทหารมายึดอำนาจ คงไม่มีใครกล้าต่อกรกับทหาร ผมก็ต้องทำ
แต่การต่อสู้ครั้งนี้คงไม่เหมือนกับสมัยก่อน ที่คุณเป็นตำรวจถือปืนออกไปปราบผู้ร้าย แต่นี่เป็นการต่อสู้ในระบบเลือกตั้ง และอาวุธคือเสียงจากประชาชน
ใช่ แต่ผมไม่ได้คิดว่าต้องสู้กับใครหรอก เราแค่มาช่วยพี่น้องประชาชนเท่านั้นเอง ผมคิดว่าตอนนี้ตัวเองพร้อมที่สุดทั้งความคิด ทั้งจิตใจ และประสบการณ์ ถ้าเลยจากตอนนี้ไป เราอาจจะจิตใจดีเหมือนเดิม ความรู้เหมือนเดิม แต่ร่างกายอาจจะอ่อนล้าลงไป ตอนนี้ผมอายุ 70 แล้ว ถ้าไม่ลงมาตอนนี้ก็จะหมดโอกาสหมดเวลา เพราะเดี๋ยวพลังก็จะถดถอยน้อยลงไป ตอนนี้ผมมีความพร้อมก็ควรจะเสียสละให้กับพี่น้องประชาชน
หลักการของพรรคเสรีรวมไทยคืออะไร
เมื่อเราคิดจะช่วยประชาชน เราก็ต้องตั้งพรรคการเมือง เพราะถ้าเป็นแค่พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เราก็คงช่วยไม่ได้หรอก อาจจะช่วยได้เล็กๆ น้อยๆ เหมือนกับที่เคยทำมา ดังนั้น ผมเลยตั้งพรรคการเมือง ชื่อพรรคเสรีรวมไทย ชื่อก็มาจากสถานการณ์ปัจจุบัน เมื่อบ้านเมืองมีปัญหา เสรีก็อาสารวมไทยเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียว
บางคนอาจจะบอกว่าประเทศสงบดีนี่ ไม่มีม็อบแล้ว ไม่เห็นจะมีปัญหาเลย
ลองไปดูรัฐบาลที่คุณประยุทธ์ไปยึดอำนาจและบริหารมาจะครบ 5 ปี ถามว่ารวมประเทศไทยให้เป็นหนึ่งเดียวได้ไหม ไม่ได้หรอก เพราะว่าคุณประยุทธ์ใจไม่เที่ยง คุณประยุทธ์คิดแต่จะเอาผลประโยชน์ของตัวเอง ผลประโยชน์ของพวกพ้อง ไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ของประชาชน เพราะฉะนั้น เขาทำไม่ได้ ถ้าจะทำได้ต้องมีใจที่เที่ยงธรรม ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ถูกก็ต้องว่าถูก ผิดก็ต้องว่าผิด ลองย้อนไปดูพฤติกรรมของคุณประยุทธ์เป็นแบบนี้หรือเปล่า ไม่เป็น มีแต่ปกป้องคนชั่ว แล้วก็ทำลายล้างคนดีที่ไม่ใช่พวกของกู คุณประยุทธ์ไม่ใช่ผู้นำ ไม่สามารถรวมไทยหรือแก้ปัญหาของชาติได้ แต่เขาก็ยังจะทะเยอทะยานเพราะอะไร เพราะเขาคิดว่าเดี๋ยวลงจากหลังเสือเขาจะเจ็บตัว
สมมติถ้าผมเป็นเขา ผมไม่คิดยึดอำนาจหรอก เป็นแค่ผู้บัญชาการทหารบกก็พอแล้ว แต่เขาก้าวล่วงมาถึงการยึดอำนาจ ยึดสำเร็จก็เป็นนายกรัฐมนตรี เป็น คสช. ปกครองประเทศไป แต่เขาควรคิดว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่ใช่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหายิ่งขึ้น
5 ปีเขาทำอะไรล่ะ เขาสามารถสร้างความสงบเรียบร้อยได้ไหม อย่ามาพูดว่าตอนนี้ไม่มีเดินขบวน ไม่ใช่ ไอ้นั่นมันสิ่งลวงตา ลองคุณเอามาตรา 44 ออกไป คุณก็อยู่ไม่ได้แล้ว ถ้าผมเป็นเขาผมจะสร้างกฎสร้างกติกา ออกระเบียบอะไรต่างๆ ที่ถูกต้องเป็นธรรม เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ได้ไปเอื้อนายทุนตัวเองหรือพรรคพวก แล้วก็รีบจัดกติกาให้เร็วที่สุด ควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่แบ่งฝักฝ่าย ใครชนะก็ชนะไป ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ในระบอบประชาธิปไตยประชาชนศรัทธาใครก็เลือกเข้ามา ถ้าเขาคิดได้กลางๆ แบบนี้นะ เขาก็จะลงมาได้อย่างสวยงามเลย
แต่คราวนี้มันตรงกันข้าม เพราะว่าการยึดอำนาจครั้งนั้นคิดสืบทอดอำนาจมาแล้วตั้งแต่ต้น ทั้งการออกรัฐธรรมนูญ การออกกฎหมายคำสั่งต่างๆ ระเบียบ คสช. ก็เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจทั้งสิ้น หรือแม้จัดการตั้งพรรคการเมืองมารองตัวเอง ทั้งชื่อ ทั้งการกระทำ ผิดกฎหมายหมดนะ ใช้ชื่อโครงการของรัฐมาตั้งพรรคก็ผิด หาคนมาอยู่ในพรรคก็ผิด ไปซื้อเขามา ไปข่มขู่เขามา เอาผลตอบแทนต่างๆ มาล่อ ไม่ได้หยุดแค่นี้นะ เขายังเอาเงินหลวงต่างๆ ไปหว่านให้ชาวบ้านเพื่อที่จะชนะเลือกตั้งครั้งนี้อีก นี่ไม่ใช่วิสัยของลูกผู้ชาย ไม่ใช่วิสัยของทหาร คนดีๆ เขาไม่ทำกันหรอก
“
อย่ามาพูดว่าตอนนี้ไม่มีเดินขบวน ไม่ใช่ ไอ้นั่นมันสิ่งลวงตา ลองคุณเอามาตรา 44 ออกไป คุณก็อยู่ไม่ได้แล้ว
”
เหตุผลที่ทหารเอามาอ้างตลอดเพื่อยึดอำนาจ คือปัญหาเรื่องคอร์รัปชันและความแตกแยกของประชาชน ที่ผ่านมาคนไทยติดอยู่กับกับดักอะไรหรือต้องอยู่กับลูปการเมืองแบบนี้ต่อไป
เขาพยายามสร้างวาทกรรมหลอกลวงประชาชนว่าให้เชื่อเขาสิ เขากลับไปแต่งเพลงมาหลอกชาวบ้าน สัญญาว่าอีกไม่นาน ไอ้พวกไม่เชื่อก็เรียกเข้ามาปรับทัศนคติ ไปต่างประเทศก็ไปหลอกเขาว่าจะมีเลือกตั้ง กว่าจะมีประกาศเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม เขาหลอกมาเท่าไหร่แล้ว แล้วเราคนไทยไม่เห็นเหรอว่าใครกะล่อนปลิ้นปล้อน คนที่โกหกแค่นี้ก็รับไม่ได้แล้วนะ แล้วเราจะยอมให้คนโกหกปกครองประเทศเหรอ แต่ดูอย่างผม พูดคำไหนคำนั้น เราสัจจะลูกผู้ชาย พูดวันนี้ พูดปีที่แล้ว หรือสิบปีที่แล้วก็เหมือนกันไม่มีเปลี่ยน คุณประยุทธ์เขาไม่มีลักษณะผู้นำหรอก นำประเทศไม่ได้
คุณเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างไร
อยู่ที่ว่าประชาชนจะเข้าใจไหม ถ้าพี่น้องประชาชนไม่กล้าตัดสินใจก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และที่ผมออกหาเสียงก็เพื่อสื่อสารว่าทหารคือปัญหาของประเทศ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องฏิรูปอย่างเร่งด่วน และต้องหาคนไปแก้ด้วย ซึ่งคนขี้กลัว คนขี้ขลาด ทำไม่ได้หรอก ก็ไปดูว่าพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาต่างๆ มีคนไหนที่กล้าสู้ทหารบ้าง ไม่กล้าทั้งนั้น ก็เหลือแค่ผมคนเดียวที่ออกมาตรงนี้
แต่พรรคที่ไม่เคยผ่านการบริหารงานมาก่อนเลยอย่างพรรคของคุณ จะทำให้ประชาชนมั่นใจได้อย่างไรว่าจะมาบริหารประเทศได้
คนมักจะพูดแบบนี้นะ ว่านโยบายคืออะไร ใครจะเป็นรัฐมนตรีความมั่นคง รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ไหนโชว์ตัวหน่อยสิ แต่ผมอยากจะให้ประชาชนตระหนักถึงข้อเท็จจริงว่า พรรคต่างๆ ส่วนใหญ่มักจะเอาลูกหลาน เอาญาติพี่น้องมารับตำแหน่ง
สมมติพรรคหนึ่งยึดพื้นที่ได้แล้ว พูดตรงๆ นะ โดยเฉพาะพรรคเก่าแก่ เขาจะส่งเสาไฟฟ้าลงรับตำแหน่งก็ได้ ส่งหมาลงก็ได้ เพราะเขาคิดแต่ได้ และบรรดานักการเมืองพวกนี้ก็ไม่ได้มีความรู้อะไร มีแต่ญาติพี่น้อง สายเลือดต่างๆ พอลงไปปุ๊บสองสมัยสามสมัย ก็เอาไปอ้างว่าเคยเป็นรัฐมนตรีแล้ว ถามว่ามึงเคยทำอะไรประสบความสำเร็จบ้าง ไม่เคยเป็นผู้บริหาร ไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลย แล้วก็เอาแต่ไปพูดๆ
แต่ถามผม ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคลัง ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคมนาคม ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีกลาโหม ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ ผมบอกเลยว่ารัฐมนตรีของผมเยอะแยะ เอามาจากไหนล่ะ ก็คนเก่งๆ ในประเทศไง ถ้าผมเป็นนายกผมบอกเลยว่าพวกที่อยู่กับพรรคผม แต่ไม่มีความรู้ความสามารถจะให้ขึ้นมาป็นรัฐมนตรีทำไม เราต้องเอาคนที่ทำงานได้มาเป็นสิ ไปเชิญเขามา และพอเขาไม่ต้องเสียเงินเสียทองเพื่อให้ได้ตำแหน่งตรงนี้มา ก็จะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องไปรับใช้นายทุน ดูแค่ผลประโยชน์ของประชาชนเท่านั้น ประเทศก็จะเจริญ ทำไมเราต้องปิดกั้นคนภายนอกล่ะ
พูดถึงแล้วนโยบายของพรรคบ้าง มีอะไรที่สำคัญและคิดว่าต้องผลักดันเป็นอย่างแรก
นโยบายที่สำคัญของพรรคเรา มีอยู่ 6 อย่างด้วยกัน 1) หยุดความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ 2) หยุดคอร์รัปชันเอางบประมาณคืนมา 3) หยุดยาเสพติดปราบผู้มีอิทธิพล 4) หยุดเผด็จการ ปฏิรูปทหาร 5) หยุดไฟใต้เอาสังคมสันติสุขกลับมา 6) หยุดแยกเสื้อสี เลิกแบ่งพรรคพวกสถาบัน และก้าวสู่อนาคตใหม่
แต่ถ้าจะถามประเด็นย่อยๆ ว่าจะให้เลิกเกณฑ์ทหารหรือเปล่า ก็อยู่ในการปฏิรูปทหาร ถามเรื่องสาธารณสุขถามเรื่องการหยุดความยากจน ก็อยู่ในนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ เพราะเราลงพื้นที่เยอะ ได้เห็นพี่น้องประชาชนเดือดร้อนในการทำมาหากิน คำว่าประเทศนี้นั้นประกอบด้วยพื้นที่และประชาชน ถ้าประชาชนอ่อนแอไม่มีคุณภาพ ประเทศก็อยู่ไม่ได้หรอก ดังนั้น ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้าประชาชนต้องมีคุณภาพ เขาต้องกินดี อยู่ดี มีความสุข
จะสู้กับอำนาจทุนผูกขาดอย่างยั่งยืนอย่างไร
เราไปแก้คนอื่นเขาไม่ได้ ไปแก้พรรคอื่นเขาไม่ได้ ถ้าพรรคอื่นเขาคิดว่าทำอะไรก็แล้วแต่ต้องใช้เงิน เขาก็ต้องหานายทุน และพอได้รับตำแหน่ง นายทุนเขาก็จ้องมาขี่คอแล้ว ลองไปถามผู้สมัครของพรรคผมทั่วประเทศได้ ว่าเราสู้ด้วยตัวตนที่แท้จริง ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ไม่มีการทำผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น
“
ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ในอำนาจ แต่ผมพูดไว้เลยว่า ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่มีการรัฐประหารอีกต่อไป
”
พลังของประชาธิปไตยสำคัญแค่ไหนในมุมมองของคุณ
ประชาธิปไตยคือการให้โอกาสให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจ ที่จะเลือกให้คนคนหนึ่งมีอำนาจปกครองประเทศ ซึ่งการทำให้ประเทศสงบเรียบร้อย พี่น้องประชาชนต้องเลือกคนดี อย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พูดว่า ในบ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนไม่ดี การทำให้บ้านเมืองสงบสุขและมีความเรียบร้อย ต้องยกย่องและสนับสนุนคนดี เพื่อที่จะให้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง
ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าประชาชนจะมองว่าใครเป็นคนดีที่จะมาปกครองบ้านเมือง และประชาชนรู้ไหมว่าใครดีใครไม่ดี ประชาชนไปรับเงินและเลือกคนนี้ถูกหรือเปล่า การเลือกต้องอยู่บนพื้นฐานของความสุจริตเที่ยงธรรม กติกาก็ต้องถูกต้อง เพราะทุกคนมีหน้าที่ เราเป็นคนไทยก็มีหน้าที่ นี่ประเทศของเรานะ จะยอมให้คนชั่วมาปกครองเหรอ ถ้าเราเชื่อที่ในหลวงสอน ก็ต้องมาดู มาตรวจมาค้น ว่าเขาเป็นคนดีไหม ประวัติเขาเป็นยังไง ผลงานเขาเป็นยังไง
ถ้าเผด็จการทหารได้สืบทอดอำนาจ คุณรับได้ไหม
ถ้าได้เลือกตั้งและพี่น้องประชาชนไปเลือกเขาเป็นรัฐบาล ก็โอเค ถึงแม้จะเป็นกติกาเฮงซวย เราก็ต้องยอมรับ ให้เขาจัดตั้งรัฐบาล เขาอยากบริหารประเทศก็ให้บริหารไป แต่พรรคเสรีรวมไทยจะไม่ร่วมกับพรรคที่มีพฤติกรรมแบบนี้เด็ดขาด เราจะร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้น คุณอยากปู้ยี่ปู้ยำทำอะไรก็ว่าไป เพราะว่าประชาชนเลือกคุณมานี่ เราก็ถือว่าเป็นฉันทามติของประชาชน และประชาชนก็ต้องรับผิดชอบเองนะ จากการกระทำของคนที่คุณเลือกมา เพราะคุณไม่เลือกผมนี่ ก็ว่ากันไปตามระบบตามกติกา
หลังผลเลือกตั้งครั้งนี้ออกมา ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน
ถ้าประชาธิปไตยมาจริงนะ ก็หมายความว่าต้องชนะขาด ถ้าชนะไม่ขาดเผด็จการไม่ยอมหรอก พูดง่ายๆ ว่าตอนนี้เตรียมมาโกงทุกอย่างแล้ว ถ้าเปิดหีบแล้วทุกอย่างขมุกขมัว เผด็จการก็จะโกงแหลกเลยเพื่อที่จะชนะให้ได้ ถ้าชนะกันขาดในแบบที่โกงไม่ได้นะ ไอ้พวกนี้มันหนีก่อน คอยดูสิ
กลัวจะมีรัฐประหารซ้อนไหม
จะมีรัฐประหารซ้อนไหมอย่างนั้นนะเหรอ อันนี้ข้ามไปได้ ถ้ามีก็ว่ากันไป ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ในอำนาจ แต่ผมพูดไว้เลยว่า ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยจะไม่มีการรัฐประหารอีกต่อไป
เลือกตั้ง 2562:
• ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ | ถ้าคุณไม่กล้าเสี่ยง คุณจะไม่เคยได้รับรางวัลอะไรเลยในชีวิต
• อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | ประชาชนยังมีสิทธิ์ในการเขียนบทให้ประเทศ
• ไพบูลย์ นิติตะวัน | อุดมการณ์อันแรงกล้า และหลักศรัทธาที่ถูกสังคมตั้งคำถาม
• ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ | ความทะเยอทะยาน การจัดลำดับความสำคัญที่จะทำให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น
• เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ | สามัญชนผู้หวังหอบหิ้วเสียงของคนตัวเล็กๆ เข้าไปในสภา
• บ.ก. ลายจุด | ขอเป็นไม้ประดับในการเมืองไทย เพิ่มสีสันและแชร์ไอเดียให้เกิดเป็นร่องความคิดของสังคม
• พอลลีน งามพริ้ง | ถ้าทุกคนมีความเท่าเทียม ประเทศไทยจะเดินหน้าไกลกว่าทุกวันนี้