วงดนตรีที่มีความเฉพาะตัวสูงอย่าง Instinct ก็เข้ามาร่วมสนุกกับ PLAY 2 Project ของค่าย genie records ในครั้งนี้ โดยหยิบเอาเพลงดังขวัญใจเด็กอัลเทอร์เนทีฟปลายยุค 90s อย่างเพลง ไม่รักดี มาทำใหม่ ซึ่ง ‘ปาล์ม’ – ปรียวิศว์ นิลจุลกะ นักร้องนำ ได้มาเล่าถึงการเติมความสดใหม่ให้เพลงร็อกช้าๆ ได้กลายเป็นเพลงร็อกสมัยใหม่ที่กระฉับกระเฉง ทันสมัย รวมไปถึงพาไปพบกับการเดินทางตามสัญชาตญาณครั้งใหม่ของวงดนตรีสุดเก๋าวงนี้
กว่าจะมาลงตัวที่เพลง ไม่รักดี ทาง Instinct มีเพลงอะไรเป็นตัวเลือกอื่นบ้าง
เรามีเพลงที่อยากเอามาทำเยอะมาก ก็มีเพลง ลน ของอ่ำ อัมรินทร์ แต่ก็กลัวเด็กสมัยนี้ไม่รู้จัก (หัวเราะ) เพลงพูดเล่นๆ ของพี่เบิร์ดก็เคยอยู่ในลิสต์ หรือแม้แต่เพลง รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร ของก๊อท จักรพันธ์ ก็ด้วย แต่สุดท้ายก็เลือกเพลง ไม่รักดี ของวง Paper Jam เพราะอยากได้เพลงที่สามารถเอาไปใช้เล่นในคอนเสิร์ตและคนร้องตามกันได้ ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่ดังมากๆ เพลงหนึ่งในยุค 90s
เพลง ไม่รักดี จากเดิมที่เป็นเพลงร็อกช้าๆ คุณเอามาทำใหม่ให้เข้ากับวงได้ยังไง
เราใช้ซาวนด์เยอะขึ้น เป็นซาวนด์คีย์บอร์ดสมัยใหม่ ใส่จังหวะ วิธีทำคอร์ดแบบ Instinct ยุคใหม่ จากแต่ก่อนที่ใครๆ ก็บ่นว่าเพลงของ Instinct แกะยาก เราก็ปรับคอร์ดดนตรีให้เล่นง่ายขึ้น เป็นแพตเทิร์นมากขึ้น เหมือนกับที่วงดนตรีต่างประเทศนิยมทำกัน ซึ่งส่งผลไปยังงานของ Instinct ชุดใหม่ด้วย เพลงจะใหม่ขึ้น เพราะเราพยายามทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา เรารู้ว่าการทำเพลงร็อกแบบดิบๆ นั้นไม่ทันสมัยแล้ว และเพลงก็ต้องโตไปตามอายุที่เพิ่มขึ้นของเรา
คนเราโตขึ้นความคิดอย่างก็เปลี่ยนไป แล้วคุณยังทำเพลงตามสัญชาตญาณของตัวเองอยู่ไหม
ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไป คือ Instinct จะค่อนข้างซื่อสัตย์กับอารมณ์และความรู้สึกตัวเอง อย่าง ณ วันนี้ เพลงที่ผ่านมาของ Instinct ก็ยังคงไม่ค่อยทำเพลงรักอกหักออกมา เพราะเรามีคำถามตลอดว่าทำไมคนต้องฟังแต่เพลงอกหัก
ผมเชื่อเสมอว่าเพลงที่ดี เนื้อหาที่ดี ควรจะเขียนเรื่องอะไรก็ได้แต่คนต้องคล้อยตาม ซึ่งผมทำมา 20 ปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำได้เลยจริงๆ (หัวเราะลั่น) แม้วงที่ดังมากๆ ก็เหมือนจะทำได้แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ คนฟังเพลงเขาชอบอย่างนั้น แต่ตอนนี้เราอยู่ในอายุที่บอกตัวเองว่า ‘ช่างแม่ง’ ได้ เราก็ไม่เปลี่ยน ไม่คิดจะเปลี่ยน เราก็ไปตามทางเรื่อยๆ
อย่างตัวผมที่แต่งงานแล้ว เนื้อหาเพลงนั้นเปลี่ยนไปแน่นอน อาจจะมีอกหักอยู่บ้าง แต่จะเป็นการอกหักในอีกมุมมองหนึ่ง ที่ไม่ใช่อกหักแบบฟูมฟาย อย่างเพลง ขอโทษหัวใจ ก็เป็นเพลงอกหักอีกมุมมองหนึ่งที่พยายามพูดกับตัวเอง ปลอบใจตัวเอง และพยายามบอกออกไปว่า คุณต้องหัดดูแลหัวใจตัวเองบ้าง ไม่ใช่มัวแต่ไปเศร้า ไปโอดครวญว่าต้องลืมโน่น ลืมนี่
ผมพยายามใส่อะไรเข้าไปให้มีเนื้อหาสาระมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในแต่ละเพลง ถึงแม้ว่าบางเพลงจะไม่ถูกใจตลาด แต่เราก็ยังเชื่อในสัญชาตญาณอยู่ดีว่า… ก็ของกูดีไง (หัวเราะ)
แสดงว่ายังไงก็ตาม Instinct จะไม่มีความกดดันอะไรทั้งนั้นใช่ไหม
กดดันเหมือนกัน เพราะเราก็ลุ้นตลอดว่าอยากให้เพลงมันดังอยู่ดี ผมเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองมาก (หัวเระา) อยากแต่งเพลงตามใจตัวเอง และคิดว่าคนต้องชอบในทางของเราด้วย ซึ่งมันก็อดไม่ได้หรอกที่จะเปิดดูยูทูบดูว่ายอดวิวขึ้นหรือยัง แต่สุดท้ายก็นั่นแหละ เพราะเราเลือกทางนี้กันแล้ว
เคยหัวร้อนไหมที่เราดันเป็นวงที่มีเพลงฮิตมากๆ อย่าง โปรดส่งใครมารักฉันที แล้วทำให้เกือบจะกลายเป็นวงดนตรีแบบ 1 hit wonders
ใช่ แต่สุดท้ายก็ต้องทำ เป็นอารมณ์ที่แบบกูไม่แคร์แล้ว เราเป็นตัวของตัวเอง มาร์คเป็นตัวของตัวเอง มาร์คผิดตรงไหน มันต้องมีอารมณ์แบบนี้ไง (หัวเราะ) และเราว่ายุคนี้คนเริ่มชอบอะไรแบบนี้แล้ว ที่ผ่านมาเราจะแคร์ เล่นแบบนี้จะเล่นยากไหม คนจะร้องตามไหมถ้าเพลงมีเนื้อหาแบบนี้ เพลงใหม่ของ Instinct เป็นซิงเกิลที่จะปล่อยจะเป็นเรื่องของตัวเราเอง
แต่เพลง ไม่รักดี ยังไงก็การรันตีระดับหนึ่งอยู่แล้วว่าต้องได้เสียงตอบรับที่ดีแน่ๆ
ถึงแม้ทาง genie records จะให้อิสระเราเต็มที่ในการเลือกเพลง แต่ลึกๆ ก็รู้แหละว่าเขาก็หวังว่าเราจะเอาเพลงที่เวิร์กอยู่แล้วมาทำ เราจะไปเอาเพลงสุดท้ายหน้าบีมาทำก็คงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นทั้งกับทางวงและทางค่าย
และ Play 2 Project ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องสนุกไว้ก่อน ไม่เหมือนซิงเกิลของวงเองที่อยากทำอะไรก็ได้ แต่จริงๆ บอสแกเขาก็ปลงๆ กับพวกผมแล้ว มันดื้อ บอกอะไรก็ไม่ฟังหรอก (หัวเราะ) แต่เราเองก็อยากทำเพลงออกมาแล้วคนฟังชอบอยู่ดีนั่นแหละ
ก็จริงนะเชื่อในสัญชาตญาณตัวเอง แล้วก็ต้องเชื่อในสัญชาตญาณของคนฟังด้วย
เด็กเขาเปลี่ยนไปแล้ว บางเพลงที่ออกมาในวันนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในยุคของผม เพลงแบบนี้ไม่มีทางดังได้หรอก แต่ตอนนี้คนฟังเพลงเปลี่ยนไปมาก ทำให้รู้สึกว่าน่าจะมีคนชอบฟังเพลงของ Instinct ซุกซ่อนอยู่ในหลีบไหนของประเทศไทยบ้าง ต้องมีสิ ดูอย่างนักร้องบางคน เพลงเขาติสท์จะตาย แต่เขามีแฟนเพลงเยอะมาก แฟนเพลงของ Instinct ก็ต้องมีอยู่สิ
วันนี้อะไรคือสิ่งที่ Instinct ยัง Play กับชีวิตของตัวเองกันอยู่
พวกเราสนุกกับการใช้ชีวิตนี่แหละ ชีวิตของ Instinct ก็เหมือนกับคนที่ชอบความเสี่ยง ชอบความผาดโผน พวกเราเหมือนเดินกันอยู่บนเส้นเชือกที่ขึงไว้ระหว่างหน้าผา เห็นว่าสูง อันตราย แต่ก็ลงไปเดิน ไปเล่นกับความเสี่ยง พวกเราเล่นกับสัญชาตญาณมาเสมอ เดินไต่เชื่อกข้ามหน้าผากันไปสามคน โดยไม่มองลงไปข้างล่างด้วย แล้วก็ไม่มีสลิงหรืออุปกรณ์ช่วยชีวิตติดตัวเลย เคยตกลงมาเจ็บตัวก็หลายที แต่ก็ฝืนตัวเองขึ้นไปเดินใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้คือเรื่องของดนตรีและชีวิต
มีนักดนตรีคลื่นลูกใหม่ที่ทำให้คุณทึ่งกับความสามารถของเขาบ้างไหม
(คิดอยู่นาน) เออ ผมชอบ อะตอม ชนกันต์ ชอบวิธีการแต่งเนื้อเพลงของเขามากๆ นั่นคือเพลง Good Morning Teacher ที่ฟังครั้งแรกก็ โอ้โห คิดได้ยังไง อยากเดินไปจับมือเหลือเกิน เนื้อเพลงเขาครีเอตมาก ทั้งๆ แก่นก็คือ เรื่องเดิมๆ บังเอิญเจอคนรักเก่า ที่มันทิ้งเราไป ก็แค่นั้นเอง แต่เขาเอามาเล่าใหม่ เอาคนที่ทิ้งเรามาเป็นคุณครู เอาคำว่า good morning teacher มาใช้ล้อกับการเป็นครูที่สอนให้รู้จักความรัก โอ้ย คิดได้ไง ยอมเลย จินตนาการเหนือชั้นมาก คนรุ่นใหม่ที่แต่งเพลงแบบนี้ได้ต้องยอมจริงๆ
PLAY 2 Project
Instinct: ไม่รักดี
เพลงที่สร้างชื่อให้กับวง Paper Jam และส่งให้ ‘อุ๊’ – หฤทัย ม่วงบุญศรี ถูกจับตามองในฐานะนักร้องหญิงที่มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ และทรงพลังไม่เหมือนใคร โดยเพลงนี้แต่งโดยนักแต่งเพลงที่ใช้นามปากกาว่า ส.ศรีวรา ซึ่งต่อมาถูกเฉลยว่าเขาคนนี้คือ เสกสรร สุขพิมาย หรือ เสก โลโซ นั่นเอง ซึ่งเพลงที่ต้องใช้เสียงสูงขนาดนี้ก็เข้ากับเสียงร้องของปาล์มได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ โดย โอม ค็อกเทล บอกกับเราว่า อิจฉาปาล์มอยู่เหมือนกันที่สามารถร้องเพลงด้วยการใช้เสียงสูงได้ขนาดนั้น
Teaser: PLAY 2 Project