เวียร์

‘เวียร์’ – ศุกลวัฒน์ คณารศ | ถ้าคุณรักผม ก็ขอให้รักมอเตอร์ไซค์ของผมด้วย

แน่นอนว่า คำจำกัดความผู้ชายชื่อ ‘เวียร์’ – ศุกลวัฒน์ คณารศ สำหรับแฟนๆ ละคร คงไม่พ้นคำว่า ‘พระเอก’ ซึ่งคำว่าพระเอกสำหรับคนอื่น ก็มีเฉดและรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน

แต่สำหรับเจ้าตัวแล้ว เขาเชื่ออย่างที่บอกกับเราว่า “ผมพยายามให้คนรู้สึกว่า พระเอกที่คนมองว่าเป็นเทวดานั้น ต้องเป็นคนที่เก่งจริงๆ ต้องมีความสามารถจริงๆ ต้องไม่ใช่พระเอกที่แค่ได้ชื่อว่าเป็นพระเอก แต่ต้องเป็นทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่าง ทั้งบู๊ ทั้งดราม่า ทุกอารมณ์ ต้องเข้าใจทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของเรา”

     ด้วยความหมายที่เขาว่ามานั้น เราว่าถึงที่สุดแล้วคำว่า พระเอก ก็คือคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ถ้าหน้าที่นั้นจะทำให้ตัวเองหมดหล่อไปบ้างก็ต้องทำ ซึ่งเวียร์ก็ยืนยันว่า เขาเป็นพระเอกที่หมดหล่อบ่อยมาก จนบางทีก็เหมือนคนงานมากกว่าพระเอก เพราะละครที่เขารับเล่นแต่ละเรื่องก็มีแต่บทบู๊ ลุยน้ำลุยโคลน

     คำตอบหลายๆ เรื่องในบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้อาจไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกว่า เป็นพระเอกพูดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ดี แต่มันอาจทำให้คุณมองเห็นคุณสมบัติด้านอื่นๆ ของผู้ชายคนนี้ ที่วันหนึ่งจะได้เป็นพระเอกหรือไม่ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า คุณจะยังรักในสิ่งที่เขาเป็นอยู่หรือเปล่า?

สมมติว่าผมชอบคุณ ผมก็ชอบมอเตอร์ไซค์ของผมด้วย แต่อย่าให้ผมต้องเลือก คือถ้าจะไปกับผม ผมให้ไป แต่ถ้ามาห้ามผม ก็อาจจะได้ในบางครั้ง แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจผม คุณก็อยู่กับผมไม่ได้หรอก มันผิดตั้งแต่มาบอกให้เลือกแล้ว

เวลากว่า 10 ปีในวงการบันเทิง มีช่วงไหนที่รู้สึกว่าแสบที่สุดไหม แล้วอยากเตือนตัวเองในตอนนั้น หรือเตือนคนอื่นว่าอย่างไร

     จริงๆ ชีวิตผมในวงการบันเทิงก็เป็นกราฟที่สวยงามดีนะ มันมีขึ้นมีลงอยู่เรื่อยๆ คือยากมากที่จะมีใครมีกราฟแบบนี้ เข้าวงการบันเทิงมาเพราะจับพลัดจับผลู มาด้วยดวงล้วนๆ ช่วงแรกก็เป็นช่วงที่ไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่ แต่ก็มีคนชื่นชอบ เหมือนสำนวนที่ว่า ขี้ใหม่หมาหอม ของใหม่ไง ผมเป็นขี้นี่แหละ เป็นดาราหน้าใหม่ ทุกคนให้อภัย เล่นไม่ดีช่างมัน พอสักพักเราก็เหนื่อย ไม่ชอบ กลับไปเรียนวิศวะดีกว่า

     แต่ด้วยสิ่งต่างๆ นานาที่มันเข้ามา ด้วยชื่อเสียง ที่เหมือนจะดึงเราไปในจุดลืมตัว แล้วมันก็จะมีช่วงที่เผลอ ซึ่งผมก็คิดว่ามีทุกคนแ บบว่า เฮ้ย อย่ามายุ่งกับกูนะ กูทำงานรับผิดชอบได้ อารมณ์เหมือนกูเก่ง แต่กูไม่เก่งหรอก
 
แล้วรู้ตัวเพราะอะไร

     ครอบครัวไง คนที่เตือนเราได้ก็จะมีเฉพาะครอบครัว เพราะเขารู้ว่าเราเป็นยังไงมาก่อน แล้วก็มีเพื่อนเก่าที่จะเป็นคนดึงเรากลับมา ซึ่งผมก็จะเจอเพื่อนเก่าอยู่ตลอด สักอาทิตย์ก็จะเจอกันแล้ว อีกอย่างคือด้วยความที่เราถูกปลูกฝังให้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง พูดง่ายๆ ก็คือไม่ค่อยเอาใจคนอื่น เข้าวงการแรกๆ ก็เป็นอย่างนี้ พอเวลาผ่านไปก็ยังเป็นอย่างนี้ มันเหมือนว่าเราไม่เปลี่ยน พอเราไม่เปลี่ยน คนก็ชอบ เพราะบางคนเข้ามาอีกแบบ แต่พอเวลาผ่านไปเป็นอีกแบบ ก็จะเห็นได้เยอะ บางคนโดนบ่นว่าเปลี่ยนไป ดังแล้วหยิ่ง แต่ผมมาแบบนี้ตั้งแต่แรก

 

เวียร์

 

คำว่า ‘พระเอก’ สำหรับคุณ คืออะไร

     ผมก็ไม่ได้มองหรอกว่าเราจะต้องเลิศหรูอลังการ ชีวิตเราก็ทำตามหน้าที่ให้เต็มที่ อยากให้เห็นในกอง ผมไม่เหมือนพระเอกเลย เหมือนคนงานมากกว่า จริงๆ นะ คือทำงานเต็มที่มาก สกปรก เลอะเทอะ เละเทะ เอาตรงๆ พระเอกนางเอกหรือนักแสดงที่มีชื่อเสียงบางคนก็เหมือนเทวดามาเกิด เพราะคนหล่อมีเป็นล้าน คนเก่งมีเป็นสิบล้าน แต่พระเอกอย่างในสังกัดช่อง 7 มีแค่หลักสิบคน ทำไมมันน้อยจัง แล้วอีกล้านคนล่ะ เออนั่นสิ เพื่อนเราก็หล่อนะ เก่งด้วย ทำไมเขาถึงไม่ชวนมันมาบ้างล่ะ ก็มีคนบอกว่า พวกมึงเป็นเทวดาไงถึงได้เป็นพระเอกนางเอกได้ นี่คือความคิดแรกนะ แสดงว่าเรามีบุญ โชคดี

     โอเค ผมมองว่า ถึงแม้คนอื่นจะมองว่าเราเป็นเทวดา แต่เราก็ไม่ได้มองตัวเองถึงขั้นนั้นหรอก ผมได้สนุกกับงานที่ทำ ไม่ได้ทำงานแค่พอให้ผ่านๆ บางทีคนดูเขาไม่รู้หรอกว่าเราเล่นจริงหรือเล่นไม่จริง แต่เราก็อยากทำให้มันออกมาดีในทุกๆ เรื่อง ให้คนดูเห็นความแตกต่างในแต่ละเรื่อง ให้เห็นว่าเล่นดีขึ้นเพราะตั้งใจ

     ผมพยายามให้คนรู้สึกว่าพระเอกที่คนมองว่าเป็นเทวดานั้นเป็นคนที่ต้องเก่งจริงๆ ต้องมีความสามารถจริงๆ ต้องไม่ใช่พระเอกที่แค่ได้ชื่อว่าพระเอก แต่ต้องเป็นทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่าง ทั้งบู๊ ดราม่า ทุกอารมณ์ ต้องเข้าใจทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของเรา
 
แต่ไม่ได้ความหมายว่าเป็นพระเอกต้องเท่ตลอด หรือมีสิทธิพิเศษเหนือกว่าคนอื่นตลอดใช่ไหม

     ไม่ใช่ครับ คือผมมองว่าการแสดงมันเป็นอาชีพ แล้วผมก็เต็มที่มากนะ เช่น ครั้งหนึ่งผมรู้สึกว่าตัวเองเละมาก เพราะต้องแสดงบทที่ต้องโดนทุบ โดนตี เลือดออก ผมเต็มที่มาก และผมก็ชอบนะ ชอบเหนื่อย ชอบทำงานเต็มที่ แล้วออกมาดี ซึ่งทำแบบธรรมดาก็ไม่ชอบไง

ผมพยายามให้คนรู้สึกว่าพระเอกที่คนมองว่าเป็นเทวดานั้นต้องเป็นคนที่เก่งจริงๆ ต้องมีความสามารถจริงๆ ต้องไม่ใช่พระเอกที่แค่ได้ชื่อว่าพระเอกแต่ต้องเป็นทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่างทั้งบู๊ ดราม่า
ทุกอารมณ์ ต้องเข้าใจทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของเรา

เคยคิดถึงอายุงานของตัวเองในวงการบันเทิงไหม

     โอย… เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง มีคนชอบถาม ทั้งรุ่นน้อง รุ่นพี่ มีคนชอบพูดเสมอเลยตอนอยู่ในวงการแรกๆ เขาบอกว่าถ้าอยู่ได้ 3 ปี นี่ถือว่าเต็มที่แล้วนะ ถ้าอยู่ได้ถึง 5 ปี ก็ถือว่าสุดยอด แต่ถ้าอยู่ถึง 7 ปี จากนั้นกราฟจะลงเลย ผมก็ถามว่า อ้าวพี่ แล้วผมจะทำอะไรต่อล่ะทีนี้ ก็คิดอยู่ประมาณสองสามเดือนกับคำพูดนี้ คือจำอยู่ในหัวน่ะ จนผมก็เลิกคิดมานานแล้วนะ ช่างแม่ง ไม่เกี่ยวหรอก ก็แค่ทำงานอย่างเต็มที่ไปเรื่อยๆ

     ผมเคยคุยกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เขาบอกว่า ถ้าเวียร์ยังเป็นพระเอกที่ดี เป็นนักแสดงที่มีวินัย พัฒนาฝีมือตัวเอง มีคนชื่นชอบ มีคนรัก แล้วโฆษณาเข้ามาที่ช่อง เวียร์ก็จะเป็นพระเอกของพี่ตลอดไป แต่ถ้าวันหนึ่งเวียร์ไม่ตั้งใจ ทุกคนมองเห็นว่าเวียร์ไม่ตั้งใจ เวียร์เล่นละครไม่ดีขึ้น เวียร์ไม่มีความรับผิดชอบ สำมะเลเทเมา มีข่าวเสียๆ หายๆ ไม่มีแฟนคลับ ไม่มีคนชอบแล้ว พี่ก็ยังมีละครให้เวียร์ แต่เล่นเป็นพ่อ ฟังแล้วรู้สึกว่า เออ เขาพูดตรงเว้ย หลังๆ มาก็เลิกคิดเลย ตั้งใจทำงานของตัวเองไป อาจจะด้วยเพราะว่าเราตั้งใจทำงานตามที่เขาพูด ทำเต็มที่ในส่วนของเรา แล้วอย่างที่บอก ด้วยความเป็นตัวของตัวเองมันก็อยู่ได้เรื่อยๆ อยู่แล้ว ไม่ต้องไปปรับโน่นปรับนี่ให้ใคร ส่วนข้อสุดท้าย ก็อาจจะเป็นดวงด้วยที่ได้เจอคนดี ได้เจอค่ายดี ได้เจอผู้ใหญ่ดีๆ ป้อนละครให้สม่ำเสมอ

     มันก็ผสมผสานกันจนทำให้เราอยู่ได้ถึง 10 ปี ทุกวันนี้ก็ยังตั้งใจอยู่ ตั้งใจอ่านบทตลอดไม่ใช่ว่าเล่นมานานแล้วจะสบายๆ เหมือนจะทำงานหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะเด็กๆ รุ่นใหม่ เขาก็มองเราอยู่ไง เหมือนเราตอนเด็กๆ เราก็ดูรุ่นพี่ ปัจจุบันเด็กก็ชอบมาถาม มาแอบดู เห็นเราอ่านบท เด็กมันก็อ่านมั่ง
 
คุณบอกว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยใช้รูปลักษณ์หน้าตาของตัวเองในการเข้าหาผู้หญิง เพราะอะไร

     คือเพื่อนมันชอบบ่นว่า มึงก็หล่อนะ กูเห็นมึงเป็นคนดีเหลือเกิน มึงควรจะเจ้าชู้สักหน่อย เราก็บอกว่า กูก็เจ้าชู้อยู่นะ แต่ไม่เยอะ เพราะว่าเป็นคนที่… ไม่รู้จะบอกว่ายังไง ดูเป็นคนดีมากเลย คือกลัวคนจะเกลียดน่ะ คือผมเป็นคนไม่เจ้าชู้ เป็นคนที่ชอบใครก็ชอบคนนั้นคนเดียว แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบมองผู้หญิงสวย ชอบสิ ชอบมองด้วย บางทีก็ไปตามอินสตาแกรมเขา เป็นเรื่องปกติ ซึ่งผมก็ไม่ได้ปิดบัง ใครๆ ก็เห็น ก็ชอบไง เขาสวย แต่ผมก็ไม่ได้ไปอะไรกับเขา

 

เวียร์

 

ผู้หญิงยุคนี้ก็จะกล้าๆ หน่อย เข้าหาผู้ชายก่อน ในมุมของผู้ชาย คุณมองว่าคุณค่าของผู้หญิงอยู่ตรงไหน เช่น ต้องเรียบร้อย หรือเป็นแบบไหน

     ไม่หรอกครับ ขอแค่มีความคิด เป็นคนดี ไม่จำเป็นว่าภาพภายนอกจะเป็นยังไงหรอก คือผมมีเพื่อนเยอะนะ แล้วเพื่อนผมกล้าๆ ก็เยอะ แต่ว่าสุดท้ายมันก็คือคนดีแหละ ส่วนใหญ่คนที่ให้สัมภาษณ์ก็จะบอกว่าชอบคนดี ขอให้เข้ากันได้ จริงๆ มันมีมากกว่านั้นไหม คือถ้าเราคุยเรื่องความรักมันก็จะมีมากกว่านั้น
 
อย่างบางคู่อยู่กันมา 20 กว่าปีแล้วเลิก คุณมองว่ามันเป็นเรื่องน่าเศร้าใจไหม

     เอาอย่างนี้ดีกว่า คนเราแต่งงานกันยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่กันได้ตลอดหรือเปล่า จริงๆ มันก็มีระยะเวลาของมัน มีบ้างที่เป็นคู่แท้ แก่มาก็ยังจับมือกัน อันนั้นผมมองว่าเป็นการดูแลกันมากกว่า ความรักก็มีอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต แล้วคนเรามันก็จะมีความเมตตา ความจริงใจ มีความปรารถนาดีต่อกันเป็นพื้นฐานของชีวิตอยู่แล้ว

 


จากนิตยสาร a day BULLETIN ฉบับ 367
เรื่อง : วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม, วสิตา กิจปรีชา
ภาพ : ภาสกร ธวัชธาตรี