เรารู้จัก Beach Fossils ผ่านเพื่อนคนหนึ่ง และได้ฟังเพลงของวง Her’s ครั้งแรกจากคำแนะนำของแอพ Spotify แต่ถึงอย่างนั้นก็เรียกได้ว่าแทบจะไม่รู้จักแบ็กกราวนด์ของทั้งสองวงนี้เลยแม้แต่น้อย นอกเสียจากซาวนด์ทันสมัยที่ฟังแล้วทำให้เคลิ้มได้ a day BULLETIN จึงรวมบทสัมภาษณ์เก่าๆ ของพวกเขามาให้คุณได้อ่าน ก่อนจะไปเจอตัวจริงของเขาทั้ง 5 ที่คอนเสิร์ต JAMnight Live! with Beach Fossils + Her’s ในวันศุกร์ที่ 9 มีนาคมนี้
_
Beach Fossils
Origin: Brooklyn, New York
Members: Dustin Payseur, Jack Doyle Smith, Tommy Davidson
_
ช่วยเล่าถึงการเดินทางที่ผ่านมา Beach Fossils ตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มล่าสุด Somersault ให้เราฟังหน่อย
ดัสติน: มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ตอนเริ่มแรก พวกเราเริ่มจากการเป็นโปรเจ็กต์เดี่ยว เพราะผมเพิ่งย้ายมานิวยอร์ก และยังไม่รู้จักใคร พออยากจะทำดนตรี ก็เลยลองทำเองคนเดียว จนตอนนี้ก็ชินกับการอัดเสียงและเล่นเครื่องเล่นคนเดียวไปแล้วเหมือนกัน พอเวลาผ่านไป เรามีสมาชิกเพิ่มมาใหม่และจากไป จนมาลงตัวที่ปัจจุบัน ซึ่งในการทำงานเราก็จะมารวมตัวกัน แล้วก็เล่นสนุกไปกับเครื่องดนตรี ไม่ได้เป้าหมายออะไรชัดเจน แต่ค่อยๆ ปะติดปะต่อชิ้นส่วนจนกลายเป้นอัลบัมที่พวกเราแฮปปี้
สำหรับอัลบั้มใหม่ Somersault นี้ ได้ Rachel Goswell จาก Slowdive มาร้องด้วย พวกคุณมาร่วมงานกันได้ยังไง?
ดัสติน: เคที ภรรยาผมกำลังทำอัลบัมใหม่กับ Slowdive อยู่พอดี แล้วผมก็กำลังมองหาเสียงที่เหมาะจะมาร่วมร้องในเพลงนี้ เคทีเลยบอกให้ผมอีเมลหา เรเชล (Slowdive) เพื่อลองถามเธอว่าสนใจมั้ย ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจ แต่หลังจากโดนบิลด์สักพักก็เลยอีเมลไปหาเธอจนได้ ซึ่งเธอตอบรับกลับมาทันทีว่ายินดีที่จะมาร่วมงานกัน
ถึงเราจะทำงานกันผ่านอีเมล แต่พอได้เสียงร้องของเธอมา มันได้เปลี่ยนเพลงนี้ไปอีกขึ้นหนึ่ง ทำให้ผมรู้เลยว่าเรเชลเพอร์เฟ็กต์มากๆ สำหรับเพลงนี้
พวกคุณกำลังทำอัลบั้มกันอยู่ตอนที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง รู้สึกยังไงกับประธานาธิบดีคนใหม่?
ดัสติน: มันส่งผลกับพวกเราอย่างมากเลย คืนวันเลือกตั้งเป็นตอนที่เรากำลังเข้าห้องอัดกัน ซึ่งพอดึกขึ้นเรื่อยๆ มันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นว่าทรัมป์จะชนะ จนเราต้องหยุดทำงานกันเดี๋ยวนั้น
พอกลับมาที่สตูดิโอวันถัดมา ผมรู้สึกพังมากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งนี้เลยทำให้เกิดเนื้อเพลง Saint Ivy ขึ้นมา มันเป็นวิธีที่ผมใช้จัดการกับความรู้สึกแย่เหล่านั้น ผมว่าทุกคนในนิวยอร์กก็รู้สึกแบบเดียวกัน ผมจำได้แม่นเลยว่าความรู้สึกห่อเหี่ยวนั้นมันเป็นยังไง
คุณไปเล่นซีรีส์เรื่อง Vinyl ของมาร์ติน สกอเซซี กับมิก แจกเกอร์มาด้วยใช่ไหม เป็นยังไงบ้าง?
ดัสติน: ผมเจอสกอร์เซซีวันแรกที่ถ่ายทำเลย เราถ่ายกันสิบกว่าชั่วโมงได้ ตอนเสร็จงานเขาเดินมาหาผมแล้วบอกว่า “เฮ้ เก่งมาก” ผมโคตรช็อก นี่มาร์ติน สกอร์เซซีเพิ่งเดินมาตบบ่ากูจริงๆ หรอเนี่ย มันเซอร์เรียลมาก
คือผมถูกชวนให้ไปเล่นเป็นนักดนตรีวงสมมติในเรื่อง ซึ่งมีลูกชายของมิก แจ็กเกอร์ เล่นเป็นนักร้องนำ มันดีมาก เพราะผมไม่เคยแสดงมาก่อน และก็ชื่นชอบผลงานของสกอร์เซซีกับซีนดนตรีนิวยอร์กยุค 70 อยู่แล้ว ถึงหลังจากนี้จะยังไม่รู้ว่าจะมีใครชวนไปเล่นอะไรอีกหรือเปล่า แต่ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
มีท่อนหนึ่งในเพลง This Year ที่คุณร้องว่า “By now I told myself I’d be a better friend” มันหมายความว่ายังไง?
ดัสติน: อัลบั้มนี้ ผมได้มองดูสิ่งที่ผมควรจะทำให้ดีขึ้น มีจุดไหนบ้างที่ผิดพลาดไป เหมือนได้ทบทวนว่าเราจะเป็นคนที่ดีขึ้นได้ยังไงบ้าง ซึ่งผมว่ามันสำคัญมากนะที่เราจะยอมรับมันให้ได้ ไม่ใช่แค่กับเรื่องศิลปะ แต่กับทุกเรื่องของตัวเรา การยอมรับข้อผิดพลาดและการสามารถวิจารณ์ตัวเองได้เหมือนที่เราวิจารณ์คนอื่นๆ น่ะ
ผมว่ามิตรภาพมันสำคัญไม่แพ้ความสัมพันธ์แบบคนรักหรอก เราจะล้อมรอบตัวเราด้วยคนแบบไหน จะปฏิสัมพันธ์กับคนแบบไหน มันเป็นเรื่องใหญ่มากนะ
_
Her’s
Origin: Liverpool, United Kingdom
Members: Stephen Fitzpatrick, Audun Laading และ Pierce Brosnan ในฐานะสมาชิกกิตติมศักดิ์
_
สตีเฟ่นมาจาก Barrow ส่วน Audun มาจากนอร์เวย์ ถามจริงๆ ว่ามาเจอกันได้ไง
Her’s: เรามาเจอกันที่ลิเวอร์พูลเพราะความรักและความเทิดทูนที่เรามีต่อ Paul McCartney และ The Beatles เราทั้งคู่เป็นนักเรียนที่ Liverpool Institute for Performing Arts ซึ่งก็เป็นของเซอร์พอลอีกนั่นแหละ
นอกจากคุณสองคนแล้ว ได้ข่าวมามีสมาชิกคนที่ 3 ด้วย
Her’s: ใช่ Pierce Brosnan จาก เจมส์ บอนด์ เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ เขาเป็นเหมือนผู้นำทางจิตวิญญาณของเรา จำได้ว่าเพื่อนคนหนึ่งพริ้นต์รูปเพียร์ซมาเยอะมากๆ และเขาให้เรามารูปหนึ่ง แล้วเพียร์ซก็อยู่กับเรามาตั้งแต่นั้น
ยังจำเพลงแรกที่ทำให้คุณคลั่งไคล้ในดนตรีได้ไหม
Audun: ผมจำได้ว่าตัวเองพยายามจะผิวปากตามเมโลดี้ทรอมโบนในเพลง Ce Matin La จากอัลบั้ม Moon Safari ของ Air พี่ชายผมเล่นใหญ่กับเพลงนี้มาก ผมเลยอยากลองบ้าง
สตีเฟ่น: ส่วนผมตกหลุมรักเพลง Uptown Girl ของ Billy Joel ตั้งแต่ฟังครั้งแรก แม่บอกว่าตอนแรกผมพยายามจะร้องตามเวอร์ชันของ Westlife แล้วก็เปิดแผ่นเสียงของ Billy ทันที
คำแนะนำสำหรับคนทำดนตรีที่ดีที่สุดที่คุณเคยได้ยิน
Audun: สตีเฟ่นเคยบอกว่า ‘อย่ากลัวที่จะแต่งเพลงแย่ๆ’
สตีเฟ่น: ซึ่งนั่นไม่ใช่คำพูดผม ผมเอามาจาก Adam Shuttleworth
อะไรที่ทำให้การอยู่ด้วยกันของคุณทั้งสองมันเวิร์กมากๆ
Her’s: เราค้นพบว่าเรามีความคิดคล้ายๆ กันในเรื่องของดนตรี เราเป็นเหมือนผลผลิตของแบนด์ที่เราชอบเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น The Smiths หรือ Ariel Pink หลายคนชอบตั้งแง่ว่าวงดนตรีที่มาจาก LIPA (Liverpool Institute for Performing Arts) จะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งเราไม่ติดนะ เรามีช่วงเวลาดีๆ ที่นั่น แล้วก็ได้เจอเซอร์พอลตัวเป็นๆ ด้วย เราไม่อายหรอก เพราะจริงๆ เราไม่ได้คิดว่า Her’s เป็นโปรดักต์ของที่นี่อยู่แล้ว มันเป็นโปรเจ็กต์อิสระที่เราทำกันเองนอกรั้วมหาวิทยาลัยต่างหาก
คุณมีความเห็นยังไงกับ Songs of Her’s คอลเล็กชันเพลงครั้งแรกของ Her’s
Her’s: มันคืออารมณ์ขัน ความโรแมนติก และเราหวังว่ามันจะผสมความคลุมเครือและความเศร้าอยู่ในนั้นด้วย
เพลงไหนของคุณที่สามารถบอกความเป็น Her’s ได้ดีที่สุด
Her’s: หูยยยยยยยยย… คำถามยากมาก Songs of Her’s มันเป็นการรวมสไตล์ของเราเข้าด้วยกัน การที่จะต้องเลือกออกมาเพลงเดียวจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ถ้าต้องแนะนำ อยากให้ลองฟัง What Once Was ดู
FYI
JAMnight Live! with Beach Fossils + Her’s จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2018 ที่ Voice Space บัตร Early Bird ราคา 1,600 บาท และ บัตร Regular ราคา 1,800 บาท สามารถซื้อบัตรได้ที่ www.ticketmelon.comหรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/HaveYouHeard.Live
ที่มา: