FIVE NEW OLD

FIVE NEW OLD | ความเจิดจรัสบนเวทีของวงดนตรีจากประเทศญี่ปุ่นที่คนไทยรักมากขึ้นทุกวัน

FIVE NEW OLD คือวงดนตรีที่มีสมาชิกสี่คนจากเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เดินทางมาทำความรู้จักกับพวกเราครั้งแรกในฐานะแขกรับเชิญของ แสตมป์ (อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข) ในคอนเสิร์ต STAMP & FRIENDS เมื่อปี 2018 และหลังจากนั้นเราก็ได้พบกับสี่หนุ่มนี้จากคอนเสิร์ตต่างๆ ในบ้านเรา ทั้งไปเป็นแขกรับเชิญในมิวสิกเฟสติวัลอย่าง Cat Expo และ Big Mountain หรือคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองที่ PLAY YARD by Studio Bar ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้พวกเขามีกลุ่มแฟนเพลงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

     จุดเด่นที่อยู่ในงานเพลงของวงนี้คือการใช้เนื้อเพลงภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทำให้เราเข้าใจเนื้อหาของเพลงได้ง่ายขึ้น แถมมีท่อนคอรัสที่ทำให้แฟนเพลงสามารถร้องตามและสนุกไปด้วยกันได้

     เพลงของ FIVE NEW OLD มีส่วนผสมของดนตรีป๊อปแบบญี่ปุ่น R&B และเจือความเป็น black music ลงไปเล็กน้อยพร้อมกับกลิ่นอายของเพลง City Pop ในแบบยุค 80s ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเพลงป๊อปญี่ปุ่นที่ตอนนี้กำลังกลายเป็นเทรนด์ที่คนฟังเพลงหันกลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง เมื่อรวมกับความเป็นกันเอง (ถ้าคุณไปเจอพวกเขาตามงานดนตรีต่างๆ สามารถเดินไปกอดคอขอถ่ายรูปกับพวกเขาได้) ความน่ารักที่ออกมาในการแสดงบนเวที ความเท่ของงานวิชวลที่อยู่ในมิวสิกวิดีโอแต่ละเพลง เราว่าคุณสมบัติเหล่านี้ก็ครบถ้วนแล้วที่จะทำให้คุณหลงรักพวกเขาไปพร้อมๆ กับเรา

 

FIVE NEW OLD

 

เราพบว่าเพลงของ FIVE NEW OLD มีความสว่างสดใสมากขึ้นเรื่อยๆ นับจากซิงเกิลแรกของพวกคุณ ซึ่งเป็นพัฒนาการของวงที่เห็นได้ชัดมาก อยากรู้ว่าพวกคุณปรับแนวคิดในการทำงานนี้กันอย่างไร

     ฮิโรชิ: หลังจากที่พวกเราตัดสินใจออกทัวร์เอเชียและประเทศไทย เราเลยอยากทำเพลงที่ทุกคนสามารถร่วมสนุกไปด้วยกันได้ แม้กับคนที่เพิ่งเคยฟังพวกเราครั้งแรกก็เข้าใจได้ ซึ่งเรื่องของซาวนด์ก็เป็นสิ่งหนึ่ง แต่เรื่องของภาษาก็สำคัญ เราอยากก้าวข้ามกำแพงของภาษา เพื่อให้คนที่ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นร้องเพลงไปพร้อมกับเราได้ พวกเราเชื่อว่าดนตรีคือสื่อกลางในการสื่อสารที่จะเชื่อมต่อทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน

 

นี่คือเหตุผลที่พวกคุณหันมาทำเนื้อเพลงเป็นภาษาอังกฤษสินะ แต่เรื่องความสนุก สดใส ในเพลงซึ่งมีดีเทลเยอะแยะมากมาย อย่างเสียงปรบมือ ไลน์การร้องประสาน ที่ผสมกันทำให้เพลงน่าฟังมาก เราอยากรู้ว่าคุณเติมอารมณ์ที่สดใสพวกนี้ลงไปในงานอย่างไร เพราะศิลปินที่อยากมุ่งสู่สากลเราเชื่อว่าเขาจะเต็มไปด้วยความเครียดที่อัดแน่นอยู่ในตัวค่อนข้างมาก

     ฮิโรชิ: กินพิซซ่าครับ (หัวเราะ)

     adB: โอเค ผมจะเอาวิธีนี้ไปใช้บ้าง

     ฮิโรชิ: ตอนที่ทุกคนมาทำเพลงใน EP What’s Gonna Be? ที่บ้านผม ตอนแรกพวกเราคิดเพลงกันแทบตาย แต่ทำยังไงก็คิดไม่ออก จนท้องเริ่มหิว พวกเราเลยสั่งพิซซ่ามากิน และนั่งเล่นเกมไปด้วยกัน พอทุกอย่างเริ่มผ่อนคลาย ไอเดียต่างๆ ก็จะเริ่มออกมาเอง

 

ไอเดียที่ว่ารวมถึงมิวสิกวิดีโอของทางวงด้วยไหม เพราะเราชอบ MV แต่ละเพลงที่นำเสนอได้อย่างมีเสน่ห์มากๆ อย่างเพลง What’s Gonna Be? ก็มีการย้อมสีชมพูแบบปกอัลบั้มหรือเพลง Better Man ก็ทำเก๋ด้วยการให้เราเลือกหมุนมุมกล้องดูพวกคุณเล่นดนตรีด้วยตัวเอง

     ฮิโรชิ: ที่ญี่ปุ่นไม่เหมือนกับประเทศไทย ประเทศไทยมีอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปี แต่ญี่ปุ่นช่วงที่สดใสคือตอนฤดูใบไม้ผลิ ช่วงนั้นญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระ เราก็เลยวางธีมให้ MV เพลง What’s Gonna Be? เป็นสีชมพู รวมถึงเสื้อผ้า และของอื่นๆ จะคุมโทนไว้ทั้งหมด เพราะอยากให้คนดูร่วมสนุกในฤดูใบไม้ผลิไปด้วยกัน หรืออีพีอัลบั้ม For A Lonely Heart ก็มีธีมเป็นฤดูใบไม้ร่วงนะ แต่อาจไม่ได้สื่อออกมาชัดเท่าเพลง What’s Gonna Be? แต่ส่วนใหญ่แล้วเพลงของพวกเราจะพยายามทำออกมาในธีมของฤดูต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตของคนฟังเพลง และเอาเรื่องราวบางส่วนของชีวิตมาเป็นคอนเซ็ปต์งาน

 

 

เพลง Good Life พวกคุณทำออกมาโดยคำนึงถึงใคร แฟนเพลงญี่ปุ่นหรือพวกเราเพราะในเพลงมีการฟีเจอริงกับแสตมป์ด้วย

     ฮิโรชิ: (หัวเราะ) เพลง Good Life พวกเราทำออกมาโดยคิดว่าแค่อยากให้ทุกคนทั้งคนไทยและญี่ปุ่นร่วมร้องไปกับพวกเราได้

 

เพลงของ FIVE NEW OLD หลายๆ เพลงเองก็ทำให้เรารู้สึกว่าได้รับอิทธิพลของเพลงแนว City Pop ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพวก J-Pop ในยุค 80s มาพอสมควร และตอนนี้เทรนด์ของเพลงแนว City Pop ก็กำลังเป็นที่สนใจจากคนทำเพลงทั่วโลก พวกคุณมองเรื่องนี้กันอย่างไร

     ฮิโรชิ: จริงๆ เราก็ไม่เข้าใจความหมายของ City Pop ในปัจจุบันสักเท่าไหร่นะ เพราะตอนนี้แนวทางของเพลงได้ขยายตัวออกไปมาก ประเภทของดนตรีก็มีหลากหลาย พวกเราเลยทำเพลงที่ตัวเองชอบ ซึ่งก็มีเกือบทุกแนว (หัวเราะ) แต่ถ้าพูดกันเรื่องรสนิยม พวกเราได้รับอิทธิพลมาจากเพลงเก่าของ ทัตสึโร ยามาชิตะ (มีเพลงดังอย่าง Magic Ways หรือ Christmas Eve และเป็นโปรดิวเซอร์เพลง Plastic Love ของ Mariya Takeuchi) และเพลงเก่าของศิลปินอีกหลายคนซึ่งก็ทำเพลงแนว City Pop เหมือนกัน

 

ส่วนตัวเราชอบเพลง Please Please Please ที่อยู่ในอีพี What’s Gonna Be? มาก ทั้งเสียงกีตาร์ที่โดดเด่น จังหวะที่คึกคัก เมื่อรวมเข้ากับเนื้อเพลงและเสียงร้องของฮิโรชิ ทำให้รู้สึกว่าเพลงนี้มีกลิ่น City Pop มากๆ

     วาตารุ: เพลง Please Please Please จะมีส่วนผสมของเพลงป๊อปญี่ปุ่นที่เรียกว่าคะโยเกียวกุ* เข้ากับดนตรีทางฝั่งตะวันตกในยุค 80s เป็นหลัก แล้วผมก็ใส่สไตล์ของตัวเองเข้าไป หาอะไรใหม่ๆ เติมเข้าไป ส่วนเสียงกีตาร์ก็พยายามคงเอกลักษณ์หรือฟีลลิ่งของยุค 80s ไว้ ดังนั้น ที่คุณบอกว่าชอบเพลงนี้ โดยส่วนตัวนั้น ผมดีใจมากๆ เลยครับ

 

FIVE NEW OLD
WATARU OMORI (กีตาร์, คีย์บอร์ด และคอรัส)
FIVE NEW OLD
HIROSHI NAKAHARA (กีตาร์ และร้องนำ)

 

ทำไมถึงอยากทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศ ที่ถามเพราะเราเห็นว่าช่วงที่ผ่านมาพวกคุณลุยทัวร์คอนเสิร์ตอย่างจริงจังมาก ที่ประเทศไทยรวมกันก็เกิน 4 ครั้งแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

     ฮิโรชิ: เราอยากใช้เวลากับทุกคนที่สามารถมาสนุกกับเพลงของพวกเราได้ สำหรับผมนี่คือพลังของดนตรี เพราะถึงแม้เราจะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ดนตรีทำให้เรามีโอกาสมาพบเจอกันได้ นี่คือสิ่งที่ FIVE NEW OLD อยากให้ความสำคัญ

 

เราแทบไม่ค่อยได้เห็นวงดนตรีจากต่างประเทศโดยเฉพาะวงญี่ปุ่นมาทัวร์คอนเสิร์ตจริงจังขนาดนี้ มีไปเล่นตามจังหวัดต่างๆ เดินสายกันทรหดมาก ถามจริงๆ ร้อนไหม เหนื่อยไหม เพราะช่วงนี้อากาศของประเทศไทยร้อนมากเหลือเกิน

     ฮิโรชิ: การไปทัวร์คอนเสิร์ตเอาจริงๆ ก็เหนื่อยนะ (หัวเราะ) ใครๆ ก็เหนื่อย แต่พอถึงตอนขึ้นแสดงนี่ไม่เหนื่อยเลย มาเหนื่อยอีกทีก็หลังเล่นคอนเสิร์ตเสร็จเพราะร้อนเหลือเกิน (หัวเราะ) แต่ถ้าพูดถึงโดยรวมเราสนุกกันมากกว่า เพราะเราได้รับพลังมาจากทุกคน ยิ่งคนฟังสนุกเท่าไหร่ก็ทำให้เราได้รับพลังกลับมามากเท่านั้น

 

ช่วงแรกที่มาทัวร์คอนเสิร์ตประเทศไทย คุณจะมีแฟนเพลงกลุ่มเล็กๆ ตามให้กำลังใจ พอวันนี้แฟนเพลงเพิ่มจำนวนมากขึ้น ถึงตอนนี้เริ่มกลัว เริ่มรู้สึกกดดันบ้างไหม

     ฮิโรชิ: จริงนะ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนมาดูพวกเราเยอะขึ้น ก็มีหลายช่วงที่รู้สึกว่ากดดัน แม้แต่ที่ญี่ปุ่นก็เป็นเหมือนกัน แต่พวกเราก็รู้สึกว่าได้ก้าวขึ้นมาอีกระดับ ถึงแม้การที่คนฟังเพลงเพิ่มขึ้นมาจะทำให้เรากดดันก็จริง แต่ในทางกลับกัน การที่เราได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชีย ทำให้มีคนจำนวนมากทั้งไทย จีน ไต้หวัน ที่รู้จักพวกเรา และเริ่มฟังเพลงของพวกเรา แทนที่จะมากลัวว่ากดดัน ผมว่าเรื่องนี้ทำให้พวกเราดีใจและเข้มแข็งขึ้นมากกว่า

 

FIVE NEW OLD
HAYATO MAEDA (กลอง และคอรัส)
FIVE NEW OLD
SHUNSUKE KASUGA (เบส และคอรัส)

 

ไหนๆ พวกคุณก็มาเยือนประเทศไทยหลายครั้งแล้ว ขอถามความเห็นหน่อยว่า มีอะไรที่ประเทศไทยควรเปลี่ยนแปลงบ้าง เพราะเราชอบระบบการจัดการบ้านเมืองของประเทศญี่ปุ่นมากเลย

     ฮิโรชิ: คนไทยนั้นยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ส่วนตัวผมไม่อยากให้เปลี่ยนนะ แต่ขอนิดหนึ่งเรื่องทิชชูในห้องน้ำ ควรจะเปลี่ยนมาใช้แบบที่สามารถทิ้งลงชักโครกได้เลยสิ เพราะกระดาษทิชชูในห้องน้ำที่ญี่ปุ่นนั้นสามารถทิ้งลงไปได้เลยนะ

 

     วาตารุ: ส่วนตัวชอบเมืองไทยที่เป็นแบบนี้ และคนไทยที่เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ผมไม่ได้อยากให้เปลี่ยนอะไรเลย

 

     ฮายาโตะ: ประเทศไทยอาหารอร่อย ผู้คนก็ดี แต่มีเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับผม แต่สำหรับคนกรุงเทพฯ อาจจะไม่มีปัญหามากนัก นั่นคือโรงแรมตามต่างจังหวัดเขาไม่มีไดร์เป่าผมให้เหรอ ปกติคนไทยไม่ใช้ไดร์เป่าผมกันเหรอ ผมพยายามหาทุกซอกทุกมุมในห้องแล้วก็ไม่เจอ

 

     ชุน: กรุงเทพฯ รถเยอะมาก รถติดมากๆ จะไปไหนแต่ละครั้งไม่สามารถกะเวลาได้เลย

 

อยากรู้วิธีสร้างทัศนคติในการทำงานแบบพวกคุณบ้าง เพราะถ้าต้องอาศัยพิซซ่าบ่อยๆ กลัวว่าจะอ้วนเกินไปเสียก่อน

     ฮิโรชิ: ส่วนตัวผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนมุ่งมั่นจริงจังอะไรมาก และผมก็ไม่ได้บอกว่าคนไทยไม่จริงจังนะ แต่ผมว่าต่างคนก็ต่างมีวิธีการใช้ชีวิต คนไทยอาจจะใช้ชีวิตได้ง่ายกว่า สนุกกว่า ซึ่งผมว่าเป็นสิ่งที่ดี ส่วนของคนญี่ป่นทุกคนจะพยายามมองสภาพรอบตัวอยู่เสมอ พยายามมองสิ่งที่อาจมีผลกระทบต่อคนรอบข้าง คนญี่ปุ่นไม่ชอบอะไรที่คาดการณ์ไม่ได้ ทำให้ค่อนข้างจะดูจริงจังไปหน่อย ส่วนเรื่องแรงบันดาลใจในการทำงานเพลงของตัวเองจะไม่ได้จริงจังขนาดนั้น คือทำให้มันมีอิสระมากกว่า แต่แน่นอนว่าการขึ้นโชว์ เราต้องจริงจังกับมันเพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดครับ

 

     วาตารุ: แรงบันดาลใจในการทำเพลงเหรอครับ ก็เดดไลน์ไง (ฮา) คือเราต้องมีเป้าหมายก่อน แล้วก็นึกภาพเอาว่าจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย แต่ถ้าไม่ถึงเดดไลน์ก็ไม่ทำนะครับ เพราะผมจะอู้เสียเป็นส่วนใหญ่ (หัวเราะ)

 

     ฮายาโตะ: เวลาที่ทำเพลงถ้ามองที่ผลงานโดยรวมแล้วยังมีจุดที่เรายังไม่ชัวร์ ก็จะนำมาปรับปรุงให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก เพื่อให้เพลงออกมาดีที่สุดครับ

 

     ชุน: ตอนแสดงสดผมจะดูปฏิกิริยาของแฟนๆ แล้วพยายามนึกภาพว่าถ้าเราทำเพลงแบบนี้แล้วคนจะคิดแบบไหน อยากให้ผู้ฟังรู้สึกยังไง คิดไปทางไหน ก็จะนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลงครับ

 

     ฮิโรชิ: จริงๆ แรงบันดาลใจก็ได้รับมาจากหลายๆ อย่างนะครับ ทั้งเกม หนัง หนังสือ ดนตรีต่างๆ ที่เป็นสื่อรอบตัว ทั้งเพลงเก่ามากๆ หรือเพลงใหม่ล่าสุดที่ฟัง นอกจากนั้นการมาประเทศไทย ที่มีบรรยากาศแตกต่างจากประเทศญี่ปุ่นนี้ แม้ว่าเราจะไม่สามารถสื่อสารกับคนไทยได้ แต่เราก็สามารถนำความรู้สึกที่ได้รับมาใช้เป็นแรงบันดาลใจได้หมดเลย และเวลาที่ไอเดียออกมาเยอะๆ สำหรับผมจะเป็นตอนที่นอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ (หัวเราะ)

 

FIVE NEW OLD

 

ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคเรวะอย่างเต็มตัวแล้ว การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยนี้มีผลกับพวกคุณบ้างไหม

     ฮิโรชิ: ที่จริง FIVE NEW OLD ASIA TOUR 2019 ที่ de commune กรุงเทพฯ ที่ผ่านมา ก็เป็นไลฟ์สุดท้ายในยุคเฮเซของพวกเราด้วยเหมือนกัน พวกเราเองก็เกิดในยุคเฮเซ ก็เป็นความรู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกันว่า ยุคหนึ่งได้จบไป องค์จักรพรรดิก็เปลี่ยนไป คนญี่ปุ่นทุกคนได้รู้ว่ายุคเฮเซกำลังจะผ่านพ้นไป ซึ่งในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ หลายคนไม่เคยเจอกับการเปลี่ยนแปลงแบบนี้มาก่อน การเปลี่ยนยุคนี้จึงค่อนข้างพิเศษ เพราะสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็กำลังจะเปลี่ยนไป ในอีกความหมายหนึ่งอาจจะฟังดูเศร้า แต่ส่วนตัวผมอาจจะคิดเห็นไม่เหมือนคนอื่น เพราะผมเองไม่ได้เศร้ากับการเปลี่ยนผ่านนี้ เพราะบางการเปลี่ยนแปลงอาจจะพาเราไปพบกับสิ่งที่ดีหรือเรื่องราวที่น่าสนใจก็ได้

 

     วาตารุ: ผมคิดว่าเรื่องนี้ค่อนข้างพิเศษมากครับ การที่ยุคสมัยกำลังจะเปลี่ยนผ่าน ในระหว่างที่เรายังมีชีวิตอยู่แบบนี้ คิดว่าเป็นสิ่งที่พิเศษและเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ที่แน่ๆ คือจะมีการเปรียบเทียบเรื่องของยุคสมัยกันแน่นอน อย่างก่อนหน้านี้ที่เป็นยุคโชวะ แล้วก็เปลี่ยนเป็นยุคเฮเซ พ่อกับแม่ผมก็เคยพูดๆ กันนะว่า ไอ้นี่ตอนโชวะมันเป็นอย่างงี้ๆ ในรอบรัชศกนี้ก็คงจะเหมือนๆ กัน ต่อไปคนเฒ่าคนแก่คงจะบอกว่า ตอนเฮเซมันอย่างนี้อย่างนั้นอีกแน่ๆ (หัวเราะ)

 

     ชุน: ตอนที่รู้ข่าวแรกๆ ก็ตกใจมากครับ

 

     ฮายาโตะ: ผมกับชุนคุงนี่เกิดในยุคโชวะครับ เป็นคนที่อยู่มาก่อนยุคเฮเซนิดหนึ่ง แล้วจากนี้จะเป็นยุคเรวะ ส่วนตัวไม่คิดนะว่าเราจะกลายเป็นคนที่อยู่ในยุคสมัยตั้ง 3 ยุค ทำไมถึงผ่านไปเร็วขนาดนี้ รู้สึกตกใจเท่านั้นเฉยๆ นี่บอกจากใจเลย

 

     ฮิโรชิ: หลังจากเข้าสู่ยุคเรวะแล้ว ก็อยากทำเพลงไปนานๆ อยากทำเพลงให้เข้าใจง่าย ให้ทุกคนรัก FIVE NEW OLD ไปนานๆ

 

หลังจากนี้อีกครึ่งปีที่เหลือเราจะได้เจอกันอีกไหม

     ฮิโรชิ: ตอนนี้แพลนในกำหนดการว่าจะกลับมาประเทศไทยของพวกเรานั้นยังไม่มี แต่รู้สึกว่าน่าจะได้มาอีกนะ (ยิ้ม) เพราะปีที่แล้วเราก็ได้มาตั้ง 3 ครั้ง ปีนี้เราเลยเชื่อกันว่าไม่น่าจะจบแค่ครั้งเดียว แต่ถ้ามาอาจจะมาเพื่อพักผ่อนก็ได้ เพราะก่อนหน้านี้เรามาเมืองไทยเพราะมาเล่นดนตรี ถ้ามาอีกก็คงจะมาเพื่อเล่นดนตรีน่ะแหละ แต่อาจจะหาเวลาว่างไปเที่ยวด้วย ผมอยากลองไปเที่ยวที่ภูเก็ตสักครั้งครับ

 


คะโยเกียวกุ* ดนตรีป๊อปรูปแบบหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นพื้นฐานของดนตรีแบบ J-Pop ยุคใหม่ ซึ่งหนังสือพิมพ์ The Japan Times ให้ความหมายว่าเป็นดนตรีป๊อปในยุคโชวะ