สองปีก่อน Pause วงดนตรีที่เราคิดถึงจากช่วงปลายยุค 90s ได้กลับมารวมตัวทำเพลงใหม่กันอีกครั้ง พร้อมนักร้องนำคนใหม่ที่ทำให้หลายคนยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พวกเขาทยอยปล่อยเพลงออกมาเป็นระยะ นำโดย แค่ได้เป็นคนสุดท้ายที่เธอคิดถึง และ รักจริงจัง ซึ่งทำให้แฟนๆ พอได้เห็นทิศทางของวงในการก้าวต่อๆ ไป
แต่ใช่ว่าพวกเขาจะมีแต่เพลงช้าๆ ซึ้งๆ เพราะล่าสุดในซิงเกิล คนที่แสนธรรมดา พวกเขาได้เติมความสนุกลงไปในเพลง ด้วยการเชิญ นะ Polycat มาร่วมร้อง และใส่กลิ่นอายของดนตรีที่สดใสลงไป ที่เรากดฟังเมื่อไหร่ก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกหลุมรักใครสักคน
—
PAUSE
‘นอ’ – นรเทพ มาแสง, หัวหน้าวงและเบส
‘เฟ้นท์’ – ประภาพ ตันเจริญ, ร้องนำ
‘เอ’ – พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ, กีต้าร์
‘บอส’ – นิรุจ เดชบุญ, กลอง
—
คนที่แสนธรรมดา…
เพลงนี้พี่ฟองเบียร์เป็นคนแต่งให้พวกเรา เขาพูดถึงช่วงขณะที่ใครสักคนกำลังมีความรักหรือแอบรักใครสักคน ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่โรแมนติกที่สุดของมนุษย์ ต่อให้รักนั้นจะดีหรือไม่ดี จะสุขสมหรือผิดหวังก็รู้สึกหวานไปหมด เราเชื่อว่าทุกคนเคยเป็น และยอมทุ่มเทจนหมดหน้าตักให้กับความรู้สึกตรงนี้ เหมือนที่หลายคนบอกว่าความรักทำให้ทุกอย่างพร่าเบลอ และหลงรักคนคนนั้นจนหัวปักหัวปำ
เพลงเร็ว…
เราคุยกันว่าอยากให้เพลงนี้เป็นไปในทิศทางไหน ซึ่งเรื่องนี้พวกเราคุยกันตลอดเวลา ก่อนหน้านี้เพลงของวงพอสที่คนทั่วไปรู้จักจะเป็นเพลงช้า เวลาเล่นคอนเสิร์ตเราเลยไม่ค่อยมีเพลงจังหวะคึกคักเท่าไหร่ ทำได้แค่นำเพลงที่มีอยู่มาขยับบีตให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะเล่นให้สนุกขึ้น เราก็เลยมาคุยกันว่าพอสคงไม่ต้องการเพลงช้าเพิ่มแล้ว พอเราเอาความต้องการนี้ไปคุยกับพี่ฟองเบียร์ เขาก็เลยแต่งเพลงนี้ขึ้นมา และตัวเพลงก็ไปกันได้กับพวกเราอย่างพอดี
เพลงช้าจะฮิตกว่าเพลงเร็ว…
คิดว่าขึ้นอยู่กับตัวศิลปินมากกว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนอย่าง โจอี้ บอย เพลงเร็วเขาจะได้รับความนิยมมากกว่า หรือถ้าวงนั้นเขาร้องเพลงช้าได้เพราะมาก แน่นอนว่าทุกคนก็จะชอบเพลงแบบนั้น ถ้าเป็นกลุ่มวัยรุ่นจริงๆ ผมว่าเขาจะชอบเพลงเร็ว ดูอย่างเพลงลูกทุ่งก็ได้ เพลงที่มีจังหวะสนุกๆ จะได้รับความนิยมกว่า แต่ก็ต้องดูว่าศิลปินคนไหนเป็นคนถ่ายทอดด้วยเหมือนกัน
ความเข้าขากันของวง…
อย่าว่าแต่ตอนนี้เลย ตั้งแต่สมัยที่โจ้ (อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์) เป็นนักร้องนำ ตอนนั้นวงของเราก็ยังไม่เพอร์เฟ็กต์ ต้องปรับกันเรื่อยๆ แต่ตอนนี้เราก็ไม่ได้เข้มงวดกับตัวเองกันขนาดนั้น บรรยากาศของวงจึงเป็นการคุยกันอย่างสนุกสนานกันมากกว่า เช่น วันนี้เล่นแบบนี้ไม่เวิร์กเลย คราวหน้าไม่เอาแบบนี้แล้วนะ ซึ่งก็ทำให้พวกเราต่อกันติดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ยอดวิว…
ไม่ใช่สิ่งที่เลี้ยงชีพพวกเราได้เลย สิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้คือการออกไปเล่นดนตรี สำหรับวงอื่นยอดวิวอาจจะสำคัญกับพวกเขาก็ได้ แต่ถ้าเป็นพอส พวกเราว่าไม่มีผลอะไรเลย ในแง่ของค่ายเพลงก็สำคัญอยู่เพราะเป็นตัวชี้วัดความนิยม แต่เพลงหลายๆ เพลงของพอสที่คนชอบอย่างเพลง ที่ว่าง ก็ไม่ได้มียอดวิวที่เยอะมากมายอะไร แต่คนก็รู้จักและร้องตามได้ โอเค เพลงนี้อาจจะมาก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะบูม แต่ถ้าถามกันตรงนี้ว่ายอดวิวมีอิทธิพลกับพวกเราไหม ไม่ใช่สิ่งแรกแน่นอน
สุขภาพ…
เฟ้นท์: หลายครั้งที่ผมดูแลตัวเองอย่างดีมากเพื่อเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ต แต่พอถึงเวลาจริงอยู่ๆ ก็ป่วย (หัวเราะ) ทั้งที่อุตส่าห์เตรียมตัวมาเป็นเดือน
เอ: เราเคยคุยกับนักร้องคนอื่นๆ เขาบอกว่าเวลาเจ็บคอเขาใช้วิธีร้องผ่านช่องลมอีกช่องแทนอะไรสักอย่าง
เฟ้นท์: แต่พอขึ้นไปบนเวทีผมก็ใส่ไปเต็มที่ ตอนร้องๆ อยู่ ก็ไอออกมาเลยก็มี (หัวเราะ) เพราะเราไม่สามารถกลั้นได้ แต่พอได้ไอออกไปแล้วเราก็เหมือนดีขึ้น อาการอยากไอก็ไม่เกิดขึ้นอีก ก่อนเล่นคอนเสิร์ตผมจะกินแค่ข้าวกับไข่ขาวต้มแค่นั้น เพื่อไม่ให้เกิดอาการที่จะทำให้การร้องเพลงมีปัญหา
เวทีขนาดกลาง…
เป็นพื้นที่ที่กำลังพอดีสำหรับวงพอส เพราะเวลาเราไปเจอสถานที่ที่ไม่ใช่จริงๆ อย่างดิสโก้เธค ที่เขามีเครื่องเสียงตู้มๆ แบบนั้นไม่เหมาะกับวงเรา และกลุ่มคนที่มาเที่ยวเขาก็ไม่ได้อยากมาดูเรา แต่ถ้าเป็นเวทีใหญ่มากๆ ผมว่าการสื่อสารระหว่างเรากับคนดูก็ทั่วถึงยาก เวทีขนาดกลางๆ นี่แหละกำลังดีที่สุดแล้ว
ความเป็นมืออาชีพ…
เราเจอบ่อยมากที่เล่นดนตรีแล้วไม่มีคนดูหรือคนฟัง เราก็แก้ปัญหาด้วยการคิดว่าเรากำลังเล่นดนตรีอยู่กับเพื่อนของเรา เพราะคนที่อยู่ตรงนั้นไม่ได้มีแค่วงพอส เรามากันเป็นทีม ถึงคนที่อยู่ตรงหน้าเขาจะไม่ฟังเรา แต่คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาอาจจะฟังเราอยู่ก็ได้ ถ้าเราเจอคนนั่งเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจพวกเรา เราก็จะหันมาเล่นกันเอง อย่างน้อยคนที่อินอยู่กับเพลงของวงพอสก็คือเพื่อนๆ ในวงนี่แหละ
นะ Polycat…
พวกเราคุยกันว่าน่าจะมีแขกรับเชิญในเพลงนี้ด้วย เราอยากได้คนที่มีน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ และมีแนวทางที่ชัดเจน ตอนแรกก็มองคนใกล้ๆ ตัว ซึ่งก็เคยร่วมงานกันหมดแล้ว (หัวเราะ) ทีนี้ก็คิดถึงวง Polycat ที่พวกเรารู้จักกันมานาน เลยไปชักชวนนะ (รัตน จันทร์ประสิทธิ์) มาร้องด้วยกัน
เพลงร็อก…
พอสคงกลับไปทำเพลงแบบอัลบั้มแรกไม่ได้แล้ว เพราะพวกเราเจอลายมือของตัวเองแล้ว และคนก็ยอมรับวงพอสในแนวทางนี้ เราเคยเป็นร็อกในอัลบั้มแรก ทำดนตรีอวกาศในชุดที่สอง จนเป็นอะคูสติกในอัลบั้มที่สาม คนก็ชอบ จากนี้ไปเพลงของพวกเราก็คงไม่ได้หนีจากแนวนี้เท่าไหร่ และพวกเราก็ไม่ได้อยู่ในวัยของการกลับไปทำดนตรีทดลองแบบนั้นแล้ว แต่ก็ไม่แน่อีกนั่นแหละ อนาคตอาจจะมีกลิ่นใหม่ๆ ของดนตรีเข้ามาผสมก็ได้ อย่างเพลง คนที่แสนธรรมดา พวกเราก็มีการใช้เครื่องเป่าและซินธิไซเซอร์เข้ามาให้เพลงสนุกสดใสขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเพลงต่อไปของพอสจะเป็นแบบนี้