เฉลิมชาตรี ยุคล

หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล: เราคือเดวิดที่กำลังจะล้มโกไลแอธด้วย Viu

ในนิทานเรื่อง เดวิดกับยักษ์โกไลแอธ กล่าวถึงเด็กเลี้ยงแกะชื่อเดวิด ที่สามารถล้มยักษ์ชื่อโกไลแอธด้วยเชือกที่ตัวเองมี เรื่องราวนี้ถูกนำมาใช้สื่อความหมายถึงคนที่เป็นเหมือนมวยรองแต่สามารถคว่ำคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าได้ ซึ่งระหว่างการสนทนากับ ‘คุณชายอดัม’ – หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุค ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ บริษัทพีซีซีดับเบิลยู โอทีที (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิงความบันเทิงเกาหลีและเอเชียผ่านแอพพลิเคชัน Viu คุณชายอดัมก็บอกกับเราว่า เขาไม่เคยกลัวผู้ให้บริการธุรกิจด้าน OTT เจ้าใหญ่ที่อยู่ในบ้านเราเลย แถมเชื่อว่าตัวเองเป็นเหมือนกับเดวิด ชายหนุ่มในตำนานคนนั้นด้วยซ้ำ เพราะการล้มยักษ์นั้นใครๆ ก็ทำได้ และเขาก็มั่นใจว่าจะทำให้ Viu ก้าวขึ้นเป็น Hub of Korean and Local Entertainment อย่างแท้จริง

เฉลิมชาตรี ยุคล

คนดูไม่ได้ต้องการการถูกยัดเยียด

     “ผมเชื่อมาตลอดว่าคนที่ทำงานหนักคือคนโง่ ซึ่งผมเป็นคนที่ชอบทำงานหนักผมเลยเป็นคนโง่ (หัวเราะ) แต่พวกเราทำงานหนักด้วยความเข้าใจ ดังนั้น ตั้งแต่ที่ Viu เปิดตัวในปี 2017 จนถึงวันนี้ ยอดคนดูของเราก็ดีขึ้น โดยเวลาส่วนใหญ่ของคนที่ดู Viu นั้นจะอยู่ที่วันละ 108 นาที ซึ่งเขาดูเพราะเราไม่ได้ไปยัดเยียดว่าต้องดู แต่ที่คนดูติดเพราะเราเข้าใจว่าคนดูต้องการอะไร”

คนดูต้องการศิราณี

     “เศรษฐีคนไหนก็สามารถทำธุรกิจ New Media ได้ แต่การที่จะเอาชนะใจคนดูนั้นคุณต้องฟังความเห็นของพวกเขา ต้องเป็นศิราณีของคนดู ดังนั้น การที่ Viu จับกลุ่มคนดูซีรีส์เอเชียเป็นหลักคือความได้เปรียบ เพราะเราไม่ต้องตะโกนคุยกับคนดูข้ามทวีปเพื่อให้พวกเขาได้ยินแบบบริษัทฝรั่ง คุณบอกเราตรงนี้เราก็ได้ยิน เราสามารถวิ่งไปหาคุณได้ ไปถามคุณว่าต้องการอะไร เมื่อเราฟังคนดูมากขึ้น เราก็พาเขาไปเจอกับคอนเทนต์ดีๆ ได้ และคนดูเองก็มีความสุข”

คนดูไม่ต้องการความมั่วซั่ว

     “ผมไม่ใช่นักมวยที่ต่อยมั่วซั่ว ผมเชื่อว่าอิมแพ็กที่จะเกิดขึ้นกับคนดูไม่ใช่การทำงานแบบปล่อยหมัดไปมั่วๆ ในวงการนี้คนที่ต่อยโดยไม่เล็งให้ดีเสียก่อนมีเยอะ สุดท้ายเขาก็จะสูญเงินลงทุนไป เหมือนกับตัวเองกำลังชกอยู่กับลม New Media ตอนนี้ ใช้เงินเยอะหรือน้อยก็ไม่ต่างกัน ถ้าคุณไม่สามารถครองใจคนดูได้ ยังไงเงินก็หมด”

 

เฉลิมชาตรี ยุคล

คนดูต้องการความรวดเร็ว

     “เมื่อก่อนคนดูซีรีส์จากเว็บไซต์ที่แปลซับไตเติลกันเอง เพราะยังไม่มีผู้ให้บริการเจ้าไหนตอบรับความต้องการของคนดูได้ ผมเข้าไปคุยกับเว็บไซต์เหล่านั้นและหาทางออกร่วมกันเพื่อให้ทุกคนได้ผลประโยชน์ เพราะเราเองก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร เราเปลี่ยนสิ่งที่เขาเคยทำผิดกฎหมายให้กลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย มาช่วยกันทำซับไตเติลที่ดีและรวดเร็ว ผู้ชมได้ดูซีรีส์เกาหลีที่ออกอากาศไปแล้วได้ใน 24 ชั่วโมง เมื่อคนดูได้สิ่งที่ดีและรวดเร็ว ไม่ต้องรอหรือกลัวว่าจะมีใครมาสปอยล์ตอนต่อไปของซีรีส์กับเขา และดูรู้เรื่องด้วย ใครๆ ก็มีความสุข และเราเองก็ทำซับไตเติลให้เขาอย่างรวดเร็ว เว็บไซต์ที่แปลซับกันเองเขาจะมาสู้เราไปทำไม ถ้ามาแข่งกันเขาก็เปลืองตัวเปลืองแรงเปล่าๆ”

คนดูต้องการทางเลือก

     “Viu เป็นผู้ให้บริการเจ้าแรกๆ เลยที่ทำงาน 2 โมเดล ให้คนดูเลือก นั่นคือแบบ Premium ที่คุณจะได้ดูซีรีส์ที่ออกอากาศก่อนถ้าคุณยอมจ่ายค่าสมาชิก แต่สำหรับคนที่คิดว่ารอได้ อยากดูแบบฟรี รอแค่ 3 วัน ก็ได้ดูแล้วเหมือนกัน นอกจากนี้เราก็ทำอีกโปรโมชัน โดยจับมือกับทาง AIS ทำเป็นแพ็กเกจลดราคา เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากดูซีรีส์แบบที่ไม่ต้องรอ”

คนดูต้องการเสพความบันเทิง

     “มีคนไทยอีกหลายคนไม่พร้อมในการจ่ายเงินดูแบบรายเดือน แม้ค่าบริการนั้นจะแค่หนึ่งร้อยกว่าบาทก็ตาม สำหรับบางคนเงินหนึ่งร้อยของเขาคือค่าข้าว ค่ากิน ค่าที่อยู่อาศัยที่จำเป็นกว่า ทำให้ไม่มีโอกาสเสพความบันเทิง หรือแม้แต่เด็กๆ เงินหนึ่งร้อยบาทก็เยอะสำหรับพวกเขา นั่นจึงเป็นที่มาของแพ็กเกจต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งแบบ Weekly และ Daily เริ่มต้น 9 บาท ซึ่ง 9 บาท ดูได้ 1 วัน บางคนก็จะดูแบบรวดเดียวเต็มๆ เลยเอาข้าว เอาน้ำ มาตั้งบนโต๊ะแล้วดูแล้วก็กิน เราเข้าใจพวกเขา เพราะเราฟังความต้องการของเขา เราถึงทำแพ็กเกจนี้ออกมา สิ่งเหล่านี้ทำให้คนรักเรามากขึ้น เราจึงโตได้เร็ว มีการเติบโตในแต่ละปีมากกว่าหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราพยายามปรับตัวตามคนดูให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

 

เฉลิมชาตรี ยุคล

คนดูต้องการของฟรี

     “ผมว่าไม่จริงเลย ผมเชื่อว่ามีคนยอมจ่าย ถ้าเขารู้สึกว่าของสิ่งนั้นดีกับเขาจริงๆ และตอนนี้จะเห็นว่าเทรนด์การจ่ายเงินเข้ามาในโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเพลง การช้อปปิ้งออนไลน์ต่างๆ ผมไม่เชื่อความคิดที่บอกว่าในอินเทอร์เน็ตทุกอย่างต้องฟรีเสมอ แต่ว่าของเราดีพอหรือเปล่า เหมือนการจ่ายเงินค่าสินสอด คุณรักใครสักคนจนอยากแต่งงานกับเขา คุณก็ต้องหาค่าสินสอดมาจนได้ เราจึงต้องถามตัวเองด้วยว่า เรามอบสิ่งที่ดีที่สุดให้คนดูหรือยัง ไม่ใช่ไปยื่นขยะให้ แล้วบอกว่าคุณจ่ายเงินมานะ ผมมีขยะให้คุณ เราต้องยื่นของดีๆ ให้เขาสิ หาของที่ใช่ หาของที่เร็วที่สุดให้กับผู้ชม”

คนดูไม่ชอบการแชร์ของเถื่อน

     “ถ้าคุณเป็นแฟนซีรีส์เกาหลี คุณชอบตอนไหน คุณรักดาราคนนี้ เป็นแฟนคลับ ลี มินโฮ คุณอยากแชร์รูป แชร์วิดีโอให้คนอื่นดู อยากให้เพื่อนไปดูตาม ถามจริงๆ ว่าคุณอยากแชร์ของเถื่อนให้คนรอบข้างเห็นกันไหม มันคือความรัก ละการที่อยากสนับสนุนซีรีส์หรือดาราที่คุณชื่นชอบใช่ไหม แล้วคุณจะรู้สึกภูมิใจแค่ไหนถ้าคุณแชร์เรื่องราวเหล่านี้จากของที่ถูกลิขสิทธิ์”

คนดูต้องการความหลากหลาย

     “Viu กำลังสร้างความเข้าใจเรื่อง Asian Content เมื่อก่อนซีรีส์จากฮ่องกงจะมีคนดูมากที่สุด ตอนนี้ก็เป็นซีรีส์เกาหลี ก็ไม่ต่างกับคนที่ชอบดูฟุตบอล ตอนนี้คนอาจจะดูพรีเมียร์ลีกเยอะที่สุด เมื่อก่อนคนจะดูซีเรียอาสมัยที่ โรแบร์โต บัจโจ ยังลงเล่นอยู่ แล้วเราก็ค่อยเอาลาลีกา บุนเดสลีกา หรือซีเรียอาค่อยๆ กลับเข้ามา ซีรีส์เองก็ไม่ต่างกัน อย่างล่าสุดซีรีส์ Good Doctor ของญี่ปุ่น ก็มีคนบอกว่าสนุก ยอดคนดูก็กระโดดพรวดพราดจนผมตกใจ คนดูก็ต้องการความหลากหลายอยู่แล้ว เราในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มก็ต้องมีอย่างอื่นให้เขาดู มีคอนเทนต์จากที่นั่นที่นี่เตรียมเสนอเป็นทางเลือกให้ผู้ชม”

 

เฉลิมชาตรี ยุคล

คนดูต้องการเนื้อหาที่ดูสนุกในทุกวัน

     “New Media ทิศทางไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่วันแรก ผู้ชมต้องการดูสิ่งที่สนุก ส่วนความสนุกในฐานะผู้สร้างสรรค์สื่อก็คือเราต้องปรับตัวทุกวัน ไม่ใช่รอหนึ่งเดือนหรือรอเป็นปีแล้วค่อยปรับตัว เดี๋ยวหนังผีจะขึ้น เดี๋ยวหนังอีสานจะมา เดี๋ยวซีรีส์เกาหลีจะรุ่ง เราฟังกันแบบวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กหรือไลน์ก็ต้องรู้แล้วว่าจะปรับอะไร หรือดึงคนดูมาได้ไหม ไม่ต่างกับการเล่นหุ้นเลย ดังนั้น ถ้าจะให้บอกว่าคอนเทนต์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร เราไม่มีทางรู้ได้ เพราะความต้องการของคนสามารถเปลี่ยนทุกชั่วโมง”

คนดูต้องการสามวินาทีแรกที่ปัง

    “ถ้ามี 3 วินาทีแรกที่ดีเราก็ไม่ต้องกลัวอะไร ต่อให้เป็นเฟรมแรกเฟรมเดียวก็ต้องเชื่อมั่นว่ากำลังเอาของดีที่สุดให้เขา แม้แต่ข้อความที่โพสต์ในทวิตเตอร์ก็ต้องกลั่นก่อนว่าใช่ไหม ตรงกับความต้องการของคนดูไหม ไม่ใช่มาคิดว่าแค่ 3 วินาที 5 วินาที ทำอย่างไรให้ปัง คนเขาไม่ดูอะไรแบบนั้นแล้ว เขาแค่เลื่อนผ่านแล้วมองว่าเนื้อหานั้นฮุกหรือไม่ฮุกใส่เขา ผมเชื่อว่า Viu ทำตรงนี้ได้ดี เพราะถ้าทำไม่ดีเราไม่อยู่มาถึงวันนี้หรอก เรากำลังมาถูกทางแล้ว และผมก็ไม่ได้กลัวเลยว่าคนดูจะไปที่อื่น ตราบใดที่คนดูรู้ว่าเราหาสิ่งที่ดีให้เขา และฟังความต้องการของเขา แค่นี้ก็ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว”