cat radio

ดีเจสับปะรดแนน และ ดีเจฤทธิ์ | เปิดวิทยุไปพบกับเพลง ชีวิต เทศกาลดนตรี และ Cat T-Shirt 5 ผ่านสองดีเจขวัญใจเด็กแมว

ในวันที่เราเป็นเด็กอัลเตอร์ฯ (aka เด็กแนว) ที่ติดหนึบอยู่กับการฟังเพลงจากรายการวิทยุ เพื่ออัพเดตเพลงใหม่ๆ ให้ตัวเอง ผ่านพ้นมาจนถึงวันที่เพลงจากการฟังเพลงสตรีมมิ่งกำลังครองโลก และการหายไปของรายการวิทยุคลื่นต่างๆ ที่พากันปิดตัวลง แต่สำหรับ Cat Radio นั้น ยังคงเป็นรายการวิทยุที่อยู่อย่างแข็งแกร่ง และยังเป็นเสาหลักทางดนตรีให้กับเด็กแมวรุ่นใหม่รวมถึงรุ่นเก๋า ได้ฟังเพลงดีๆ กันอย่างต่อเนื่อง และนี่คือเรื่องราวของ Cat Radio ผ่านสองนักจัดรายการวิทยุขวัญใจเด็กแมวอย่าง ‘ดีเจสับปะรดแนน’ – ณัฐกฤตา  พงษ์ธนานิกร และ ‘ดีเจฤทธิ์’ – วราฤทธิ์  มังคลานนท์ ซึ่งพวกเขากำลังจะพาคุณไปพบกับความสนุกอีกครั้งในการฟังเพลงจากรายการวิทยุ

cat radio

 

ทุกวันนี้เราเข้าถึงการฟังเพลงต่างๆ ได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน ทั้งทางยูทูบหรือแอพพลิเคชันสตรีมมิ่งเพลงต่างๆ ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่ต้องรอฟังดีเจเปิดเพลงให้ฟัง และหลังๆ การเปิดเพลงในรายการวิทยุก็อาศัยคอมพิวเตอร์มาช่วยในการเรียงเพลง เราเลยสงสัยว่าแล้วตัวดีเจเอง เขามีบทบาทอะไรต่อคนฟังในยุคนี้บ้าง

     ดีเจฤทธิ์: ผมว่าเรากลายเป็น curator มากกว่าคนเปิดเพลงจากแผ่นซีดีหรือแผ่นเสียงแบบเมื่อก่อน เรามีหน้าที่คอยเลือกเพลงให้กับคนฟัง ซึ่งทาง Cat Radio ก็ให้อิสระในการเลือกและเปลี่ยนเพลงกับพวกเราทุกอย่าง ทำให้ดีเจแต่ละท่านมีคาแร็กเตอร์เฉพาะตัวของแต่ละคน รวมถึงเรื่องที่เราเลือกหยิบมาเล่นในรายการด้วย

     ส่วนเสน่ห์ที่ยังคงอยู่ของการฟังเพลงจากรายการวิทยุคือ คุณจะไม่รู้ว่าเพลงถัดไปคือเพลงอะไร ผมว่านี่เป็นความเซอร์ไพรส์นะ คุณไม่เซอร์ไพรส์เหรอ? (หัวเราะ)

     ถ้าฟังเพลงจากสตรีมมิ่งหรือฟังจากยูทูบ แล้วให้มันเล่นไปเรื่อยๆ คุณจะเห็นว่าเพลงที่ต่อคิวอยู่มีเพลงอะไรบ้าง

     ดีเจสับปะรดแนน: ไม่ว่าจะเป็นยุคไหน เราว่านิสัยของวัยรุ่นหรือคนที่ชอบหาอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเอง จะเปลี่ยนไปตลอด พอทุกคนมีวิธีฟังเพลงของตัวเองมากขึ้น หลายๆ อย่างก็เปลี่ยนตามไป แต่อย่างไรเสน่ห์ของการฟังวิทยุก็ยังคงอยู่

 

อีกเรื่องที่เราคิดว่าเซอร์ไพรส์คือการที่ทุกวันนี้ยังมีคนโทร.เข้ามาขอเพลงอยู่เรื่อยๆ

     ดีเจฤทธิ์: น่าแปลกนะที่ยังมีคนโทร.เข้ามาขอเพลงทุกวัน และหลายครั้งก็เป็นคนเดิมๆ ซ้ำๆ กันด้วย ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าจะขอทำไมในเมื่อกดฟังจากยูทูบก็ได้

     ดีเจสับปะรดแนน: เราว่ามีหลายเพลงเลยนะที่ในยูทูบไม่มี เพราะถ้าเป็นตัวเราเอง หลายครั้งก็อยากฟังเพลงที่หาฟังจากในยูทูบไม่ได้

     ดีเจฤทธิ์: การต่อเพลงก็มีส่วนนะ รวมถึงการโยงเรื่องของดีเจเพื่อให้เข้ากับเพลงที่เขาขอด้วย และผมจะสนุกมากเวลาจัดรายการแล้วเราสามารถเอาเพลงที่คนฟังโทร.มาขอมารวมกับเพลงที่ตัวเองอยากเปิด เอามาต่อกันให้ได้อารมณ์เนียนกันไป พอจังหวะมันดีคนฟังก็ได้พบกับสุนทรียภาพในการฟังเพลงมากขึ้น

 

แล้วสไตล์การเลือกเพลงมาเปิดของแต่ละคนเป็นอย่างไร

     ดีเจฤทธิ์: ของผมนั้นจะเอาตัวเองเป็นหลัก ถ้าวันไหนอารมณ์ไม่ค่อยดี ผมก็จะปลุกตัวเองให้สดใสด้วยการเปิดเพลงที่คึกคัก เพราะคนฟังรายการเขาจะจับอารมณ์เราได้จากน้ำเสียงของดีเจ ผมจะเลือกเพลงหลายแนว ไม่เปิดเพลงร็อกติดๆ กัน แต่เพลงที่เลือกมาต้องมีอารมณ์ไปด้วยกันได้ ฟังแล้วไม่เบื่อ เพราะรายการวิทยุต้องมีความกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา

     ดีเจสับปะรดแนน: เราเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง จะเปิดแต่เพลงที่ตัวเองชอบ (หัวเราะ) ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองไม่มีสไตล์เปิดเพลงหรอกนะ แต่คนฟังจะบอกมาว่าเราเปิดแต่เพลงดาร์กๆ ซึ่งจริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจจะดาร์ก แต่เราดันชอบเพลงประมาณนี้ ถ้าวันไหนที่ตัวเองง่วงเราจะไม่เปิดเพลงดาร์กๆ จะเปิดเพลงสดใสๆ ใส่ตัวเอง ถ้าวันไหนที่คนฟังเจอว่าเราเปิดเพลงที่ดิ่งมากๆ แสดงว่าวันนั้นเราอารมณ์ดีมากๆ (หัวเราะ)

     อีกเรื่องคือ เราจะดีใจมากเวลาเปิดเพลงที่ชอบแล้วคนฟังจะบอกว่าสามเพลงนี้ต่อกันได้ดีจังเลย หรือฟังเราจัดแล้วเขาได้เจอกับเพลงที่ตัวเองเคยลืมไปแล้ว เพราะสมัยก่อนเป็นคนชอบฟังเพลงที่อยู่หน้า B ของเทปคาสเซ็ต

     ดีเจฤทธิ์: เวลาศิลปินออกอัลบั้มมาจะมีสิบเพลง แล้วเขาจะเลือกมาโปรโมตอยู่ประมาณ 5 เพลง ซึ่งหลายๆ ครั้งเพลงที่ไม่ถูกเลือกนั้นเป็นเพลงที่มีเสน่ห์น่าสนใจ

 

cat radio

 

ตั้งแต่ Fat Radio มาแล้ว ช่วงที่เป็นขวัญใจของเด็กวัยรุ่นคือ Bedroom Studio ที่หลายคนจะลุ้นว่าเพลงที่ตัวเองทำขึ้นมานั้น ทางรายการจะเอามาเปิดหรือเปล่า ทุกวันนี้ยังมีคนส่งเพลงมาให้เปิดมากเหมือนเมื่อก่อนไหม

     ดีเจฤทธิ์: เรียกว่าโคตรเยอะเลยดีกว่า แล้วใครที่บอกว่าวงการเพลงตอนนี้ซบเซา ผมขอเถียงคอเป็นเอ็นเลยว่าไม่จริง คนทำเพลงตอนนี้พีคกว่าตอนยุค 90s เลยด้วยซ้ำ ถ้าเอาไปเทียบกับยอดขายเป็นแสนเป็นล้านตลับแบบยุค 90s อย่าลืมว่าตอนนั้นมีวงอินดี้หลายวงที่เขาขายเทปได้แค่หลักพันก็มี พวกเขาไมได้ขายกันได้เป็นแสนเป็นล้านทุกวง ผมเคยคุยกับวง Paradox ซึ่งเป็นวงที่มาจากยุค 90s ผมถาม สอง มือกีตาร์ของวงว่า ถ้าเทียบยุคนี้กับยุค 90s ยุคไหนได้เงินเยอะกว่ากัน เขาบอกว่ายุคนี้…

     ดีเจสับปะรดแนน: ตอนนี้ทุกคนสามารถทำอะไรที่เขาอยากทำได้ง่ายขึ้น และเขาก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ช่วยรองรับเขาให้พออยู่ได้กับการเป็นนักดนตรีมากขึ้น

     ดีเจฤทธิ์: เด็กเขาจะรู้จักการปรับตัว เขาจะรู้ว่าจะอยู่กับอาชีพนักดนตรีอย่างเดียวเป็นไปไม่ได้ เขาจึงหาอาชีพอย่างอื่นมาเป็นรายได้หลัก แล้วเอาดนตรี เพลง มาเป็นงานอดิเรกหรือทำตามความฝัน ซึ่งศิลปินรุ่นใหม่เป็นแบบนี้ทั้งนั้น

 

แรงผลักดันให้คนออกมาโชว์ผลงานของตัวเองผ่าน Cat Radio คืออะไร เพราะเราเชื่อว่าถ้าแค่อยากเผยแพร่ผลงานคงไม่ใช่ประเด็นหลักสำหรับตอนนี้แล้ว

     ดีเจฤทธิ์: แรกๆ ผมก็เชื่อว่าคนที่ส่งเพลงมาให้เปิดในช่วง Bedroom Studio เพราะอยากเป็นศิลปิน อยากเผยแพร่ผลงานของตัวเอง แต่หลังๆ ศิลปินจะส่งข้อมูลแนบมาด้วยว่า เขามีแนวคิดอย่างไร ทำให้รู้ว่าบางคนเขาไม่ได้อยากเป็นศิลปิน แต่ทำมาเป็นงานอดิเรก ทำเพื่อระบายบางอย่างออกมา ซึ่งบางคนทำเพลงออกมาดีมากๆ เลยนะ แต่พอเราชวนเขามาเล่นที่เวที Cat Expo เขาขอปฎิเสธ เขาบอกว่าไม่ชอบการแสดงต่อหน้าคน

     หรือวงอย่าง Monster Mom ที่ทำเพลงส่งมาโดยได้แรงบันดาลใจจากลูกชายของเขาเองที่ถูกเพื่อนแกล้ง ถูกล้อว่าเป็นตุ๊ด ซึ่งคนเป็นแม่ก็เจ็บปวด ระหว่างที่เขานั่งรถกลับบ้านก็จะแต่งเพลงไปด้วย แล้วทำเพลงส่งมา

     ดีเจสับปะรดแนน: พอวิธีคิดเปลี่ยน เลยทำให้ Bedroom Studio ตอนนี้เจ๋งมากขึ้น จากแต่ก่อนเราเป็นเหมือนช่องทางให้คนได้ส่งเพลงมาให้เปิดแนะนำ แต่ตอนนี้กลายเป็นที่เปิดเพลงส่วนตัวของหลายๆ คน ที่เขาสามารถทำเพลงได้โดยไม่ต้องแคร์กับกฎอะไรทั้งสิ้น เลยได้งานที่เจ๋งและเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินมากขึ้น

 

Cat radio

 

สำหรับเราเองที่ไม่ได้ฟังเพลงจากวิทยุเป็นประจำอีกต่อไปแล้ว แต่เมื่อพูดถึง Cat Radio ทีไร สิ่งแรกที่นึกถึงคืองานมิวสิกเฟสติวัล ซึ่งยังคงความขลังมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเสมอ

     ดีเจฤทธิ์: เป็นกิจกรรมที่สนุกมากนะ ยิ่งถ้านึกย้อนไปตั้งแต่งาน Fat Festival ครั้งแรก ที่จัดขึ้นมาเพราะอยากเห็นหน้าเห็นตาคนฟัง ซึ่งตอนนั้นบ้านเรายังไม่มีมิวสิก เฟสติวัล ไม่มีคอนเสิร์ตแบบที่รวมวงดนตรีหลายๆ วงมาขึ้นเวที เป็นบรรยากาศที่ใหม่มาก ทั้งสำหรับคนทำและคนดู ทางเราเองก็อยากเห็นว่ามีคนฟังอินดี้จริงไหม มีใครที่ฟังเพลงของวง siam secret service บ้าง คนฟังเพลงอินดี้ยุคต้นปีสองพันเป็นอย่างไร

     แล้วตอนที่เราจัดที่สนามม้านางเลิ้งนี่พีกมาก สนามแทบแตกเพราะเราแจกบัตรให้เขาฟรี คนก็มาเยอะมาก ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นนับได้ประมาณสองแสนคน ปีต่อมาเลยต้องเก็บเงินกันเลย (หัวเราะ)

     ดีเจสับปะรดแนน: การวิ่งไปวิ่งมาระหว่างเวที มีอุปสรรคบ้าง ฝนตก คิววงดนตรีชนกัน ต้องเลือกว่าจะดูวงไหน นี่คือความสนุกของมิวสิกเฟสติวัล

 

เราชอบความสนุกของการดูคอนเสิร์ตแบบนี้นะแต่ก็เสียดายที่หลายคนพออายุเยอะขึ้น เขาก็บอกว่าไม่อยากไปแล้ว เหนื่อย กลัวเด็กๆ มองว่ามาทำอะไร

     ดีเจสับปะรดแนน: ไม่แปลกหรอกที่หลายคนพออายุมากขึ้นก็นอยด์ไปเองว่าไปงาน Cat Expo เหรอ มีแต่เด็กๆ จะไปทำไม แต่ถ้าเรามีความสุขก็ไปสิ ไปได้แค่ไหนก็ไป ร้อนก็พักเหนื่อย ทำไมจะต้องไม่ไปเพราะเราแก่แค่นั้นเหรอ เราไปได้สิ

     ดีเจฤทธิ์: ไม่ต้องไปอยู่หน้าเวทีก้ได้ ก็นั่งฟังเพลงอยู่แถวๆ นั้น นั่งตรงสนามหญ้าก็ได้ ที่ต่างประเทศคนแก่ไปเที่ยวมิวสิกเฟสติวัลก็เยอะแยะ บางคนมาทั้งครอบครัวจูงลูกจูงหลานมาด้วยซ้ำ

     ดีเจสับปะรดแนน: เราจะมีจุดหนึ่งที่เวลาไปดูคอนเสิร์ตแล้วจะไม่สนใจว่าคนที่อยู่ข้างๆ คือใคร เพราะคอนเสิร์ตคือใครก็ได้ เวลาเพลงของศิลปินที่เราชอบดังขึ้น เราจะสนใจแต่คนที่กำลังเล่นดนตรีอยู่บนเวที ซึ่งเรื่องนี้เป็นกฎข้อเดียวกับการฟังเพลงด้วย คือเราไม่มีวันแก่ ใครบอกเหรอว่าอายุเท่านี้ห้ามฟังเพลงแนวนี้ มีความสุขก็ฟังไป คุณจะฟัง BNK48 คู่ไปกับวงร็อกดาร์กๆ ก็ฟังไปเลย เอาจริงๆ เด็กๆ ที่ไปเย้วๆ กันเนี่ย มีหลายคนที่เป็นลมกันก็เยอะนะ พวกเด็กๆ นี่ตัวดีเลยด้วยซ้ำ (หัวเราะ)

 

cat radio

 

อีกหนึ่งเทศกาลประจำปีของ Cat Radio ที่เรารอคอยมาตลอดก็คือ งาน CAT T-SHIRT เราว่าไอเดียนี้มันแจ๋วมากเลยนะ และกลายเป็นว่าไม่มีใครกล้าทำตามด้วย

     ดีเจฤทธิ์: ผมชอบตั้งแต่ตอนที่เราทำกันสมัยเป็น Fat Radio แล้ว งาน CAT T-SHIRT นั้นไอเดียดีมาก เพราะเสื้อทีเชิ้ตเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมี ไม่ว่าจะยากดีมีจนร่ำรวยแค่ไหนก็ต้องมีเสื้อทีเชิ้ต และเป็นการบอกถึงคาแร็กเตอร์ของคนใส่ด้วยว่าเขาเป็นคนอย่างไร พอรวมกับคอนเสิร์ตเข้าด้วยกันเลยเป็น Lifestyle Festival มีดนตรี แฟชั่น

     สำหรับผมเองไมได้เป็นคนชอบช้อปปิ้ง ผมก็จะไปซื้อเสื้อในงานนี้ ผมใช้งานนี้เป็นการซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเอง หนึ่งมีปีหนึ่งครั้ง จ่ายไปเลยทีเดียว และได้เสื้อที่ไม่โหลกลับมา และดีไซน์ก็มีไอเดียดีๆ ทั้งนั้นเลย

     ดีเจสับปะรดแนน: ปกติเราอาจไม่ได้ตามศิลปินคนไหนเป็นพิเศษ ไม่ได้ไปออเดอร์สินค้าของทางเพจของศิลปินคนนั้น แต่งานนี้ทำให้เราได้ซื้อและได้กระตุ้นให้ศิลปินผลิตผลงานออกมาอีก (หัวเราะ) ส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบเสื้อวงดนตรีอยู่แล้ว มาซื้อที่งานนี้ก็จะได้เสื้อที่หาซื้อที่อื่นไม่ได้

     ดีเจฤทธิ์: เสื้อทีเชิ้ตที่ทำออกมาเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดความคิดของศิลปินที่นอกเหนือจากงานเพลง อย่างเสื้อของวงที่ผมชอบมากคือ Solitude is Bliss ซึ่งงานของเขาจะอิงเรื่องการเมืองมาตั้งแต่เพลง กราฟฟิกบนปกอัลบั้ม เสื้อของเขาในปีที่แล้วเป็นลายเกมรถถังแบบ 8 บิต สมัยเครื่องเล่นเกมแฟมิคอม ส่วนปีนี้จะเป็นเกมวางระเบิด (minesweeper) และเกี่ยวข้องกับผู้บริหารยุคนี้หน่อย

 


How To Get A Cat T-Shirt

1. เข้าเพจ Cat Radio แล้วส่องลายเสื้อที่ชอบที่โพสต์กระจายอยู่ในเพจ

2. เซฟรูปของเสื้อที่อยากได้เอาไว้ เพื่อที่วันงานเราจะไม่ไขว้เขวและมึน เพราะมีร้านกว่า 200 ร้าน ซึ่งคิดเป็นเลขกลมๆ คุณจะเจอกับเสื้อยืดลายใหม่ๆ กว่า 2,000 ลาย

3. ไปแต่เช้า เพราะ เสื้อยืดลายเก๋ๆ มักจะหมดตั้งแต่ครึ่งวันแรก

4. ถ้าคุณเป็นคนที่ร่างใหญ่ยิ่งต้องรีบไปแต่เช้า เพราะนอกจากเสื้อไซซ์ใหญ่จะผลิตมาน้อยแล้ว อย่าลืมว่าสาวๆ สมัยนี้นิยมใส่เสื้อโอเวอร์ไซซ์กว่าตัวเองเยอะๆ ดังนั้นคู่แข่งของคุณจะเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว

5. ถึงแม้หลายบูธจะยินดีรับการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์หรือโอนเงินออนไลน์ แต่การเตรียมเงินสดไปให้พร้อมนั้นย่อมดีกว่า เพราะการวิ่งรอกระหว่างงานกับตู้ ATM นั้น เอาการอยู่

6. Cat T-Shirt 5 โดย แคท เรดิโอ จัดขึ้นในวันที่ 2-3 มิถุนายนนี้ ณ แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานีมักกะสัน ตั้งแต่ 11 โมงเช้า จนถึง 5 ทุ่ม บัตรเข้างานสองวันราคา 390 บาท

7. นอกจากเสื้อยืดแบบลิมิเต็ดให้เลือกซื้อแล้ว ยังมีคอนเสิร์ตจากศิลปินที่หาดูโชว์ได้ยากอย่าง รัสมี โซล, Phum Viphurit, DENIMS (JAPAN) หรือวงมาแรงที่น่าจับตามองอย่าง Boyjozz  และ Pills ส่วนวงดังๆ อย่าง The Toys, Singto Numchok, The Parkinson, Sweat16!, Polycat, B5, Flure, V Violette, The Yers, Burin และ Earth Patravee ก็ยังคงพากันมาสร้างความสุขให้กับคุณตลอดสองวันเต็ม