Ray Yeung

เรย์ ยึง: Suk Suk ซุกที่เขา สุขที่ใจ ทุกอย่างเพื่อความรักผมยอมได้หมด

ภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องของความรักที่มีต่อคนเพศเดียวกัน แม้จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยและวัฒนธรรม แต่กลับมีน้อยเรื่องที่จะว่าด้วยเรื่องของ LGBTQ ที่ต้องพบกับแรงกดดันในชีวิตที่มีต่อความรักของคนสูงวัย ซึ่ง Suk Suk ซุกที่เขา สุขที่ใจ ของผู้กำกับ เรย์ ยึง ได้หยิบประเด็นนี้มาเล่าอย่างกล้าหาญ และในความละมุนละไมอบอุ่นที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมา เราหวังว่า Suk Suk จะเป็นภาพยนตร์หัวหอกที่จะช่วยเปิดมุมมองที่หลากหลายของ LGBTQ ให้กว้างขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่คนหนุ่มสาวหน้าตาดีหรือไปสุดอยู่แค่เรื่องราวของวัยกลางคนเท่านั้น

        ด้วยเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลายในฮ่องกง ทำให้กำหนดการเดิมที่เรย์จะเดินทางมาพูดคุยกับเราต้องหยุดไว้ก่อน แต่เราก็ใช้โปรแกรม Zoom ในการต่อสายพูดคุยกับเขา ซึ่งนอกจากการทักทายเพื่ออัพเดตสถานการณ์ในฮ่องกงแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราชวนเขาคุยในครั้งนี้คือมุมมองของความสัมพันธ์ที่น่าสนใจจากตัวผู้กำกับคนนี้

 

Ray Yeung

เรย์ ยึง ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกง

ตอนนี้มีแพลตฟอร์มชื่อ GagaOOLala ซึ่งรวมเอาหนังของ LGBTQ มาไว้ด้วยกัน คุณมองว่าการรวมกันแบบนี้จะกลายเป็นการทำให้หนังของคนเพศเดียวกันถูกแยกออกไปอีกหมวดหนึ่งหรือเปล่า เพราะเราคิดว่าถ้าจะให้เท่าเทียมกันจริงๆ หนังที่นำเสนอเรื่องของคนกลุ่มนี้ควรจะสามารถอยู่ร่วมกับหนังทั่วไปเรื่องอื่นๆ ได้ 

        ผมไม่คิดว่า GagaOOLala หรือเว็บดูหนังแบบนั้นไม่ดีนะ เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนองคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งถ้าคุณอยากดูหนังที่มีประเด็นเพศทางเลือกก็เข้าไปดูได้ แต่ในขณะเดียวกันผมมองว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ยอมรับมนุษย์กลุ่มเพศทางเลือกแล้ว หลายๆ ที่เริ่มมีหนังประเด็นดังกล่าวอยู่บนช่องของเขาแล้วด้วย ผมมองว่าเป็นเหมือนการประชันกันระหว่างแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อกลุ่มเฉพาะ กับแพลตฟอร์มสำหรับคนทั่วไปที่ยอมรับเนื้อหาแบบนี้มากกว่า แต่ถ้ามีแพลตฟอร์มที่นำเสนอเนื้อหาเฉพาะกลุ่มแล้ว แพลตฟอร์มทั่วไปเลยเลือกไม่ฉายหนังเพศทางเลือก ผมมองว่าแบบนั้นก็ไม่แฟร์เหมือนกัน แถมมันก็ไม่ใช่ความผิดของแพลตฟอร์มเฉพาะกลุ่มด้วย

ปัญหาที่ LGBTQ ในฮ่องกงกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้มีเรื่องอะไรบ้าง

        ทุกวันนี้กลุ่มเพศทางเลือกในฮ่องกงยังต้องเจอปัญหาอยู่อีกมาก ฮ่องกงเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กมาก และหลายคนยังต้องอาศัยอยู่กับครอบครัว ซึ่งการอยู่กับครอบครัวนั้นยากที่คุณจะเป็นตัวของตัวเอง ยิ่งถ้าคุณเป็นเกย์แล้วอยากเปิดตัว อยากคบเพื่อน หรือถ้าอายุมากขึ้นแล้วอยากมีแฟน การอยู่กับครอบครัวนั้นทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยาก บางคนโชคดีที่ครอบครัวให้การยอมรับ แต่ถ้าครอบครัวของคุณเกิดไม่ยอมรับขึ้นมา ก็เป็นเรื่องยากที่อะไรจะเกิดขึ้นได้ 

ที่ฮ่องกง คนสูงวัยในปัจจุบันทั้งคนทั่วไปและ LGBTQ เขากังวลเกี่ยวกับเรื่องอะไรในชีวิตมากที่สุด

        โดยทั่วไปผมว่าในหมู่ผู้สูงอายุ เรื่องสุขภาพน่าจะเป็นเรื่องหลักเลย คุณคงอยากมีคนคอยช่วยตอนป่วยไข้ หรือตอนไปโรงพยาบาลแล้วมีคนที่คอยให้ความช่วยเหลือคุณ ผมว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญมาก แล้วยิ่งผู้สูงอายุในกลุ่มเพศทางเลือกพวกเขาเลือกเปิดเผยตัวตนแล้วครอบครัวไม่ยอมรับ และต้องอยู่โดยลำพัง ไม่มีใครดูแลช่วยเหลือ ต้องพึ่งพาชุมชนหรือนักสังคมสงเคราะห์ นี่ก็เป็นปัญหาเช่นกัน ไม่ใช่แค่เรื่องความเหงา แต่เป็นเรื่องการช่วยเหลือทางกายที่เขาต้องการด้วย

 

Ray Yeung

ถ้าอย่างนั้นความโดดเดี่ยวสำหรับคุณนั้นน่ากลัวแค่ไหน

        ขึ้นอยู่กับคุณตีความ ‘โดดเดี่ยว’ ว่าอย่างไร ถึงจะแต่งงานแล้วคุณก็รู้สึกโดดเดี่ยวได้ถ้าคุณรู้สึกว่ายังไม่พอใจกับคู่ของคุณ ผมขอยกตัวอย่างตัวละครใน Suk Suk ‘ปัก’ (นำแสดงโดย Tai Bo) คือคนที่แต่งงานกับภรรยามา 40 ปี เหมือนเขามีครอบครัวที่เปี่ยมด้วยความสุขแต่จริงๆ แล้วในใจเขานั้นโดดเดี่ยวมาก ความโดดเดี่ยวจึงไม่ใช่แค่การที่คุณมีชีวิตโดยลำพัง แต่เป็นการที่คุณรู้สึกเข้าถึงผู้อื่นไม่ได้ เรื่องนี้สำหรับผมจึงสำคัญมาก ใน Suk Suk ตอนที่ปักกับฮอยพบกัน ทั้งสองต่างมีครอบครัวอยู่แล้ว แต่พวกเขาเข้าถึงกันและกันได้ แล้วทำให้พวกเขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป ความโดดเดี่ยวนั้นไม่ใช่แค่เราห่างเหินผู้คนเท่านั้น แต่มีมิติอีกมากมายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต

มองภาพตัวเองไว้เป็นแบบไหนในตอนบั้นปลาย อยู่อย่างเรียบง่ายหรือใช้ชีวิตให้สุดๆ แบบไม่ต้องแคร์อะไร

        ตอนนี้ผมก็มีชีวิตเรียบง่ายอยู่แล้ว ผมมองว่าเรื่องสุขภาพนั้นเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณต้องมีสุขภาพที่ดีก่อน แล้วค่อยมาคิดว่าจะทำอะไรต่อ จะออกท่องเที่ยวหรือจะทำงาน ส่วนผมคงทำหนังต่อไป ทำในสิ่งที่ผมชอบไปเรื่อย ๆ  

คุณเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับความรักขนาดไหน 

        ทุกอย่างเพื่อความรัก ผมยอมทุกอย่างเลยก็ว่าได้ (หัวเราะ) ผมสร้างหนังอย่าง Suk Suk หรือ Front Cover ที่ล้วนแต่มีประเด็นเรื่องความรักมาโดยตลอด ผมว่าตัวผมนี่โรแมนติกสุดๆ เลยนะ 

ความอบอุ่นที่แท้จริงในการใช้ชีวิตคู่ สำหรับคุณต้องโรแมนติกแค่ไหน

        ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องยอมรับว่าคนคนนั้นต่างจากคุณในความสัมพันธ์ เขาอาจมีความสนใจที่ต่างไปหรืออาจมีวิธีตอบสนองที่แตกต่างจากคุณ และคุณไม่สามารถให้เขาคิดหรือทำในแบบเดียวกับคุณได้ เราต้องยอมรับจุดนี้ก่อนเพื่อให้ความสัมพันธ์เดินหน้าต่อไปได้

 

Ray Yeung

เคยถึงกับเสียผู้เสียคนไปกับความรักบ้างไหม

        (หัวเราะลั่น) มีอยู่บ้าง ตอนเด็กๆ ผมไปเข้าโรงเรียนประจำที่อังกฤษ ตอนนั้นน่าจะอายุประมาณ 16-17 ปี ผมตกหลุมรักหนุ่มคนหนึ่งในโรงเรียน แน่นอนว่าเรื่องนี้จบไม่สวย เพราะมีอะไรที่ซับซ้อนมากมาย ด้วยสภาพแวดล้อมตอนนั้นที่เราไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้ ความสัมพันธ์ของเราเลยเกิดขึ้นไม่ได้ และนี่เป็นเรื่องที่ผมต้องเอามาสร้างเป็นหนังให้ได้ในสักวันหนึ่ง

เราจะมูฟออนออกไปจากความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในชีวิตรักแบบนี้ได้อย่างไร 

         ขั้นแรกต้องยอมรับว่าการที่เขาคนนั้นไม่ต้องการคุณ ซึ่งมันอาจไม่ใช่ความผิดคุณ แต่อาจเป็นเพราะคุณนั้นไม่ใช่สำหรับเขา ผมว่าคุณคงต้องยอมรับให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ในกรณีที่คุณคบกับเขากันมานานแล้ว และต้องแยกจากกัน สาเหตุคงเป็นเพราะความสัมพันธ์มันเปลี่ยน เปลี่ยนไปยังจุดอื่นๆ ที่ไม่ทางเหมือนเดิมได้ 

        คุณต้องพาตัวเองไปพบคนใหม่ เริ่มออกเดตใหม่อีกครั้ง เพื่อให้รู้ว่ายังมีคนอื่นๆ อยู่อีกที่สนใจคุณและแน่นอน คุณต้องหัดรักให้เป็นด้วยการเริ่มต้นรักตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นเรื่องยากที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครสักคน ถ้าคุณยังไม่รู้สึกรักตัวเองได้จริงๆ 

แล้วเราจะจีบคนที่ถูกใจได้อย่างไร คุณมีเคล็ดลับในการมัดใจคนแบบไหนให้เรายืมไปลองใช้บ้างไหม

        ถ้าเป็นผม ผมจะถามเขาว่าคุณเคยดูหนังของผมหรือยัง ถ้าเขาบอกว่าดูแล้วผมก็จะเล่าว่า หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับ… หนังเรื่องนั้นเกี่ยวกับ… นี่เป็นวิธีที่ผมใช้ชวนคุยสิ่งที่ผมทำหรือสิ่งที่ผมชอบ แต่ถ้าเขาไม่เคยดู ผมจะเดินหนีทันทีเลย (หัวเราะ) ไม่หรอกพูดเล่น ผมก็จะอธิบายว่าหนังผมเกี่ยวกับอะไร วิธีนี้ผมมักใช้เปิดการสนทนาได้ แต่ถ้าเป็นคุณผมแนะนำว่าลองใช้วิธีถามเข้าว่าชอบหนังแบบไหนหรือชอบเพลงแบบไหนแทนก็ได้ เมื่อก่อนผมก็เริ่มด้วยอะไรแบบนี้เหมือนกัน

 

สุดท้ายถามตรงๆ เลยว่าคุณเชื่อในเรื่องของพรหมลิขิตไหม

        ส่วนหนึ่งผมว่าผมเชื่อนะ (หัวเราะ) ผมเรื่องนี้ว่ามันมีอะไรบางอย่างที่บอกไม่ได้แต่ก็รู้ว่ามี อย่างพอผมทำ Suk Suk แล้วเกิดเหตุการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ผมไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ ผมอยากไปประเทศไทยแล้วช่วยโปรโมตหนังแต่ก็ไปไม่ได้ เลยต้องมาคุยกับคุณผ่านโปรแกรม Zoom ผมก็คิดนะว่าทำไมไวรัสต้องระบาดขึ้นมาด้วย ทำไมไม่เกิดขึ้นปีอื่น ทำไมต้องมาเป็นปีนี้ด้วย (หัวเราะ) แต่สุดท้ายเราก็ไม่ใช่ว่าต้องมัวแต่ให้ตัวเองจมอยู่ในกองทุกข์ ความจริงมันได้เกิดขึ้นแล้ว และก็เป็นแบบที่เราเห็นๆ กันอยู่ แต่เราสามารถเปลี่ยนชีวิตที่ห่อเหี่ยวนี้ได้ ด้วยการลองหาอะไรใหม่ๆ ทำ ให้กำลังใจตัวเองว่าเราจะสามารถทำอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ พยายามทำให้ตัวเองมีมุมมองด้านบวกขึ้นมา 

        ตอนนี้แม้ว่าผมจะเดินทางไม่ได้แต่ Suk Suk ก็กำลังฉายอยู่ที่ฮ่องกง ผมอยู่ที่นี่แม้จะไปไหนไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถช่วยโปรโมตหรือพูดคุยเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้จากที่บ้านได้ ไม่แน่ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นอาจจะเป็นส่วนช่วยให้คนอยากดูหนังของผมเพิ่มขึ้นได้ เพราะสุดท้ายผมเชื่อว่ามนุษย์สามารถทำอะไรเพื่อเปลี่ยนพรหมลิขิตได้เหมือนกัน