‘จ๋า’ – จันทิมา น้าวิไลเจริญ นักเรียนไทย อดีตเด็กฝึกงานที่ได้รับโอกาสฝึกงานกับบริษัทมิวสิกสตรีมมิ่งชื่อดัง อย่าง Spotify ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในเมืองไปไม่นาน เรื่องราวการฝึกงานกับบริษัทสตาร์ทอัพ ณ ประเทศสวีเดนจะสนุกแค่ไหน มาฟังเล่าประสบการณ์แสนประทับใจของเธอไปพร้อมๆ กัน
เรียนดีไซน์ที่สวีเดน…
“หลังจากเรียนจบปริญญาตรีด้านไอทีมา เรารู้ตัวว่าถนัดออกแบบมากกว่าเขียนโปรแกรม เลยเลือกเรียนต่อสาขา Interaction Design ที่สวีเดน ตอนปิดเทอมมีช่วงว่างพอดี ก็เลยเริ่มหาที่ฝึกงาน ซึ่งตอนแรกยังไม่รู้จักว่า Spotify คืออะไร (หัวเราะ) แต่สมัครเข้าไปในตำแหน่ง iOS Developer เป็นคนพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับไอโฟน”
สอบสัมภาษณ์…
“พอผ่านเข้ามารอบสัมภาษณ์ ต้องทำแบบทดสอบโดยเขียนโปรแกรมลงบนกระดาษ ซึ่งเราทิ้งมานานมากจนต้องบอกเขาไปตรงๆ ว่า ตอนนี้เขียนไม่ค่อยแม่นนะเพราะเรียนดีไซน์มาตลอด ตอนนั้นก็พยายามอธิบายสิ่งที่เราเขียนลงไป ก็คิดว่าไม่ได้แล้วแหละ แต่ทางบริษัทบอกเราว่าเขาไม่ได้เลือกจากการศึกษา เขาเลือกเพราะคุยกันรู้เรื่องและมีโอกาสพัฒนาไปด้วยกัน เขาให้เรามาฝึกงาน จึงอยากได้คนพร้อมจะเรียนรู้ เพื่อที่เขาจะสามารถเรียนรู้จากเราได้เช่นกัน จำได้ว่าก่อนรอบสุดท้าย เขาพาเราไปรู้จักกับทีม เพื่อดูว่าเราเข้ากันได้หรือไม่ แล้วก็เอาส่วนนั้นมาใช้ในการเลือกด้วย”
งานที่ได้รับมอบหมาย…
“เราได้รับมอบหมายให้ดูแลโปรเจ็กต์เรื่องการใช้จีพีเอสในโทรศัพท์เพื่อจับพฤติกรรมผู้ใช้ ก็เริ่มจากหาไอเดียกันว่าฟังก์ชันนี้ควรจะออกมาเป็นยังไง Spotify เป็นแอพฯ ฟังเพลงก็จริง แต่เรามักจะทำไปพร้อมๆ กับกิจกรรมอย่างอื่น ฟังก์ชันของเราจึงออกมาเป็นตัวเซนเซอร์วัดการเคลื่อนที่ของโทรศัพท์มือถือว่า เคลื่อนไหวในอัตราเดิน วิ่ง นั่งรถ หรืออยู่กับที่ จากนั้นก็เอามาผูกกับจีพีเอสว่าอยู่ที่ไหน เป็นออฟฟิศหรือที่พักอาศัย เราจึงจะสามารถบอกได้ว่า คนนี้กำลังทำอะไรอยู่ แล้วจึงนำเสนอเพลย์ลิสต์ที่เข้ากับกิจกรรมนั้น”
เราเป็นพนักงานคนหนึ่งจริงๆ…
“โปรเจ็กต์นี้เราทำกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ดูแลฝั่งแอนดรอยด์ ในระหว่างที่ทำทางบริษัทให้อิสระเราเต็มที่นะ ได้ไปประชุม ไปพรีเซนต์งานเหมือนเราเป็นพนักงานคนหนึ่งจริงๆ ไม่ใช่แค่เด็กฝึกงาน ทุกเช้าจะมี Breakfast Meeting ที่ทุกคนจะถือแก้วกาแฟมาล้อมวง แล้วอัพเดตกันว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ และวันนี้จะทำอะไรต่อไป ถ้ามีตรงไหนติดขัดอะไรก็บอกทีมแล้วเขาก็จะมาช่วยเหลือ พอครบสองอาทิตย์ เราจะทำเดโมออกมาให้ทีมดู เขาก็จะช่วยคอมเมนต์ต่อยอดกันไป บางวันจะมีประชุมวางแผน จัดสรรเวลา และดูงานว่ายังเดินตามไทม์ไลน์ที่วางไว้หรือเปล่า กับอีกส่วนคือทำ Back Log มาย้อนดูว่างานที่ทำอยู่ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ ยังไปในทิศทางที่ถูกต้องรึเปล่า”
พบปะกันวันศุกร์…
“เย็นวันศุกร์ก็จะมี Town Hall Meeting เหมือนประชุมหมู่บ้าน ทุกคนจะมารวมกันตรงเวทีซึ่งมีหน้าจอใหญ่ๆ ที่เชื่อมต่อกับทุกออฟฟิศทั่วโลก แล้วก็อัพเดตเรื่องราวในบริษัทโดยมีซีอีโอและผู้บริหาร ในงานมีช่วงตอบคำถามกับซีอีโอ ใครสงสัยอะไรก็ยกมือถามได้เลย คนก็จะยกมือถามกัน ครั้งหนึ่งมีคนถามว่า ตอนนี้เรามีคู่แข่งใหม่เป็นกูเกิลเพลย์มิวสิก จะทำยังไงต่อดี เขาก็นั่งคุยกันตรงนั้นเลย ซึ่งเราว่ามันดีมาก มันช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คนที่ทำงานด้วย”
“ฟังก์ชันนี้คุณทำใช่มั้ย ผมก็ใช้อยู่นะ”…
“พอทำโปรเจ็กต์เสร็จ เราก็ได้ไปพรีเซนต์ผลงานที่สำนักงานใหญ่ในสตอกโฮล์ม ซึ่งตอนนั้นไอเดียมันใหม่มาก ทุกคนเลยตื่นเต้นมาก จริงๆ ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน แดเนียล เอ็ก ซีอีโอของบริษัท เขาเดินมานั่งคุยกับเรา เขาก็ถามว่าฟังก์ชันนี้คุณทำใช่มั้ย ผมก็ใช้อยู่นะ …โอ้โฮ ได้ยินแล้วดีใจมาก”
เรื่องประทับใจ…
“เราประทับใจในความเท่าเทียมกันของทุกคน เรามาจากสังคมที่มีลำดับชั้น มีหัวหน้า หัวหน้าของหัวหน้าอีกทีเป็นขั้นๆ ไป แต่ที่นี่คือไม่ใช่เลย ทุกคนเท่ากัน และแบ่งปันความคิดเห็นกันเสมอ ถึงแม้จะคิดไม่ตรงกันก็คุยกันด้วยเหตุผล ต่อให้คนที่ทำงานมานานแล้วก็ยังรับฟังความเห็นของเด็กใหม่
“หลังจากเรียนจบมา เราก็ยังอยากทำงานในบรรยากาศแบบนั้นนะ เพราะว่ามันสนุก มันท้าทาย เป็นวัฒนธรรมที่ดี เราสมัครงานได้ที่วอลโว่ เป็นบริษัทยานยนต์หนักๆ ไปเลย ตอนแรกทีมที่เราอยู่แต่ละคนก็ทำงานในส่วนของตัวเอง ไม่ค่อยได้คุยกัน เราก็เลยพยายามจะออกความคิดเห็น ชวนทุกคนมาลองทำนู่นทำนี่ มาคุยกันให้มากขึ้น รู้จักกันให้มากขึ้น ตอนนี้ก็กำลังพัฒนากันไปเรื่อยๆ”
ข้อมูลการฝึกงานเพิ่มเติมที่ Spotifyjobs.com/student