จริงอยู่ที่ชีวิตเป็นเรื่องของใครของมัน และไม่มีใครสามารถสอนและสั่งให้เราใช้ชีวิตในแบบคนอื่นได้ นอกเสียจากว่าเราจะตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง แล้วก็จริงอีกนั่นแหละ ที่คนบางคน แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมามากครั้งกว่าเรา
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรู้ดีกว่าเราไปเสียทุกเรื่อง เพราะบางเรื่องเราอาจเจอะเจอมามากกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราก็ยังเชื่อว่าการนำประสบการณ์ชีวิตที่แต่ละคนเคยผ่านพ้นด้วยตัวเองมาเล่าสู่กันฟังก็ยังเป็นไอเดียที่น่าสนใจอยู่ดี
โดยเฉพาะจากคนที่เดินทางผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานจนได้ชื่อว่าเป็นผู้อาวุโส ซึ่งเป็นการรับประกันได้ว่าเขาคนนั้นได้ผ่านเรื่องราวมาแล้วหลากหลาย ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย ทั้งสิ่งที่เคยได้รับและสูญเสีย ซึ่งคุณไม่ต้องเชื่อทั้งหมดก็ได้ เพราะสุดท้ายสิ่งที่พวกเขาตั้งใจถ่ายทอดก็อาจจะไม่ใช่คำสอนสั่ง แต่เป็นการแบ่งปันแนวความคิดที่ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วให้คุณได้เปิดใจรับฟังมากกว่า
ถึงแม้บางเรื่องที่เราคิดว่าในชีวิตนี้จะไม่มีวันประสบกับตัวเอง ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นในแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน หรือเรื่องบางเรื่องที่คิดว่ารู้ดีแล้ว พอลองนึกดีๆ เราอาจจะรู้น้อยกว่าที่ตัวเองคิดก็ได้ ดังนั้น อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจนกว่าคุณจะได้อ่านบทเรียนชีวิตจาก ‘อาหนิง’ – นิรุตติ์ ศิริจรรยา นักแสดงที่มีผลงานทั้งภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์มากว่า 50 ปี
“
ถ้าความรู้สึกที่เรามีต่องานที่ทำอยู่ ไม่เหมือนกับความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงที่เรารัก แปลว่ามันมีอะไรไม่ถูกต้องแล้ว
”
1. อายุมากขึ้นแล้วความตื่นเต้นจะลดถอยลง?
ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ย่อมมีเรื่องตื่นเต้นเข้ามาอยู่เสมอ ซึ่งเราสามารถเก็บเกี่ยวมันได้ในทุกวัน สมมติว่าคุณมีสัตว์เลี้ยงอยู่ตัวหนึ่ง เห็นมันวิ่งกระโดดโลดเต้นหรือทำท่าทางแปลกๆ คุณก็ตื่นเต้นแล้ว หรือวันหนึ่งลูกหลานคุณวิ่งเข้ามาหอมแก้มสักที คุณก็ตื่นเต้นได้เหมือนกัน ฉะนั้น คำพูดที่ว่าอายุมากขึ้นแล้วความตื่นเต้นจะลดถอยลง มันไม่จริงเลย
2. ครูผู้สอนประสบการณ์ชีวิต
ประสบการณ์คือข้อดีที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น เพราะมันไม่มีอยู่ในตำรา ไม่มีอยู่ในหนังสือ ประสบการณ์ที่แท้จริงเริ่มขึ้นเมื่อเราลงมือทำอะไรสักอย่าง ครูสามารถสอนให้เราอ่านออกเขียนได้ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องประสบการณ์ ไม่มีครูคนไหนสามารถสอนได้หรอก
3. มีแค่ ‘ความอยาก’ อย่างเดียวมันไม่เพียงพอ
ที่มนุษย์เราวุ่นวายแบบทุกวันนี้เป็นเพราะ ‘ความอยาก’ ทั้งนั้น เพราะมนุษย์ไม่ค่อยมองตัวเอง เวลาบอกว่าอยากทำอย่างโน้นอยากทำอย่างนี้ ถามว่าคุณประเมินตัวเองก่อนหรือยัง ถ้าอยากเป็นอย่างนี้ คุณมีความสามารถพอแล้วหรือเปล่า เพราะแค่ความอยากมันยังไม่พอ ในความอยากมันต้องมีความสุข ความรัก และความพอใจ ทั้งที่เราจะให้กับเขาและเราจะได้จากเขาด้วย
4. เรื่องเดียวที่ควรเสียดาย
อย่าเสียดายอะไรในโลกนี้หรือในชีวิตคุณเลย เรื่องเดียวที่ควรเสียดายคือ ความรักที่คุณมีต่อพ่อแม่เท่านั้น ผู้ชายบางคนอยู่กับพ่อแม่น้อยกว่าผู้หญิง แต่ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ได้รักพวกท่าน แค่การแสดงความรักของผู้ชายมันยากกว่าเท่านั้นเอง
5. ลูกหมาก็เหมือนจิตใจของมนุษย์
เรื่องความรักแบบหนุ่มสาวมันไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งมีในสมัยนี้ มันมีมาตั้งแต่โบราณแล้ว ฝรั่งเขามีคำพูดอยู่คำหนึ่งว่า puppy love ไม่ว่าใครที่เห็นลูกหมาก็ใจสลายเพราะความน่ารักของมันทั้งนั้น แต่พอมันโตขึ้น สกปรกขึ้น ซนขึ้น เราก็ไม่มองว่ามันน่ารักเหมือนแต่ก่อน เลยเอาไปปล่อยบ้าง ทิ้งบ้าง ลูกหมาก็เหมือนจิตใจของมนุษย์ เราต้องคิดให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจจะเลี้ยงดูมัน ความรักก็เหมือนกัน
“
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ การมีงานทำ ถ้าไม่มีงานทำ ทุกอย่างในชีวิตจะหยุด
”
6. แค่ดอกไม้ดอกเดียว
หนุ่มสาวหลายคู่แสดงความรักในวันวาเลนไทน์โดยการซื้อกุหลาบราคาแพงไปตามธรรมเนียมที่ฝรั่งเขาทำกัน ถามว่าทุกวันจะรักกันไม่ได้เหรอ ลองสังเกตรุ่นใหญ่ที่แต่งงานกันมาเป็นสิบๆ ปีดู ขนาดแค่ดอกไม้หน้าบ้านเขายังไม่เคยไปเด็ดมาให้กันเลย มันเป็นความเคยชินไปแล้ว เพราะผมรักคุณ ให้คุณไปหมดทุกอย่างแล้ว มันจะสำคัญอะไรนักเชียวกับแค่ดอกไม้ดอกเดียว ตอนนี้คุณคือตัวผม และผมก็คือตัวคุณไปแล้ว
7. อีกแง่มุมหนึ่งของความรัก
ถ้าให้บอกว่าใครถูกใครผิด ทำไมลูกไม่ดูแลพ่อแม่ ผมว่ามันไม่ค่อยยุติธรรม ตอนเรายังเด็ก เราก็นั่งรอแม่กลับจากทำงานทุกคืน มาตอนนี้ถึงเวลาที่เขาแก่ตัวลง เราก็กลับมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ อาจจะไม่มีเวลามาดูแลพ่อแม่เท่าที่ควร แต่การตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อส่งเสียครอบครัวก็เป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งไม่ใช่เหรอ
8. เด็กเหมือนคนแก่ คนแก่ก็เหมือนเด็ก
เราต้องเข้าใจมนุษย์ว่า เด็กเหมือนคนแก่ คนแก่ก็เหมือนเด็ก พออายุมากขึ้นก็อยากให้คนเอาใจ ต้องการให้มีคนคอยอยู่ด้วย ก็เหมือนกับเด็กนั่นแหละที่ถ้าปล่อยไว้คนเดียวจะร้องไห้บ้านแตก แต่ผู้ใหญ่เขาไม่ร้อง เขาเงียบ แต่บ้านก็แตกได้เหมือนกัน
9. สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ การมีงานทำ ถ้าไม่มีงานทำ ทุกอย่างในชีวิตจะหยุด เพราะการทำงานทำให้เรารู้สึกมีค่า รู้สึกเป็นที่ต้องการ รู้สึกว่ามีหน้าที่ และยังมีความสำคัญกับคนบางกลุ่มอยู่
10. คนรักอีกคนที่อาจหลงลืมไป
ถ้าความรู้สึกที่เรามีต่องานที่ทำอยู่ ไม่เหมือนกับความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงที่เรารัก แปลว่ามันมีอะไรไม่ถูกต้องแล้ว
11. เทคโนโลยีไม่สอนให้เราอายเวลาทำความผิด
เด็กสมัยนี้โตมากับเทคโนโลยี ประสบการณ์ชีวิตไม่ค่อยมี บางทีคุยกับผมก็ไม่รู้เรื่องแล้ว เขาไม่ได้อะไรจากผม และผมก็ไม่ได้อะไรจากเขา การสอนที่จะช่วยพัฒนาตรงนี้ได้คือ การอบรมบ่มนิสัยจากครอบครัวและโรงเรียน แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า เด็กไม่เคยโดนทำโทษ ครูก็ตีไม่ได้แล้ว โดนไล่ออก ถ้าเป็นสมัยผมไปโรงเรียนสาย จะโดนสั่งให้วิ่งรอบสนาม อายเพื่อนทั้งโรงเรียน แต่เทคโนโลยีไม่สอนให้เราอายเวลาทำความผิด เพราะเรื่องน่าอายมีเกลื่อนไปหมด เด็กเลยมองเรื่องน่าอายเป็นเรื่องปกติ ขนาดเรื่องน่าอายกว่านี้ก็ยังเคยมีคนทำมาแล้ว
จากนิตยสาร a day BULLETIN ฉบับ 403
ภาพ : ภาสกร ธวัชธาตรี