Oakley | กว่าจะมาเป็นแว่นตาสำหรับทุกคนที่มีหัวใจนักกีฬา

แว่นกันแดดเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากในทุกวันนี้ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันแสงแดดที่แผดจ้าไม่ให้ดวงตาของเราได้รับอันตรายแล้ว แว่นกันแดดยังช่วยเสริมบุคลิกภาพหรือลดความประหม่าในบางสถานการณ์ให้เราได้ด้วย ปัจจุบันมีแบรนด์แว่นกันแดดให้เลือกซื้อและลองใส่มากมาย แต่ถ้าพูดถึง Oakley แล้ว คุณคงจะร้องอ๋อทันที เพราะแว่นกันแดดของแบรนด์นี้มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครก็เลียนแบบไม่ได้

จิม แจนนาร์ด

แบรนด์แว่นตา Oakley ก่อตั้งขึ้นโดย จิม แจนนาร์ด นักออกแบบชาวอเมริกัน อดีตนักศึกษาคณะเภสัชฯ มหาวิทยาลัยเซาธ์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย (USC) ที่ตัดสินใจลาออกกลางคันเพื่อเดินทางท่องเที่ยวอเมริกาด้วยมอร์เตอร์ไซค์ เมื่อปี 1975 จิม ในวัย 26 ปี ได้เริ่มธุรกิจขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ตามงานมอเตอร์ไซค์วิบากต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดแบรนด์แว่นตา Oakley ในเวลาต่อมา

จุดเริ่มต้นจากแฮนด์จักรยาน

จิม แจนนาร์ด คิดค้นยางแบบใหม่ชื่อ Unobtainium และนำไปผลิตเป็น Grip หรือปลอกแฮนด์จักรยาน ซึ่งมีคุณสมบัติที่ให้สัมผัสในการจับได้ดีกว่าปลอกแฮนด์จักรยานแบบเดิม เพราะใช้แนวคิดเดียวกับหนวดปลาหมึก แต่ด้วยดีไซน์ที่แหวกแนวมากๆ ในตอนนั้น ทำให้บริษัทที่เขาทำงานอยู่ไม่อนุมัติให้ทำสิ่งประดิษฐ์ของเขา

เจ้าหมา Oakley

จิมตัดสินใจตั้งบริษัทของตัวเองด้วยเงินทุนเพียง 300 เหรียญสหรัฐฯ ภายในโรงรถบ้านตัวเอง และใช้ชื่อแบรนด์ Oakley จากชื่อของสุนัขที่เลี้ยง จากนั้นก็เริ่มผลิตปลอกแฮนด์รถจักรยานและมอเตอร์ไซค์ ออกไปเสนอขายตามร้านต่างๆ รวมถึงนำสินค้าไปเสนอถึงในสนามแข่งรถ จนกระทั่งสินค้าเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น

แว่นตาสำหรับนักกีฬา

หลังจากที่เขาได้เป็นพาร์ตเนอร์กับ BMX แบรนด์จักรยานชื่อดังแล้ว ก้าวต่อไปคือการผลิตแว่นตากันแดดทรง goggle หรือแว่นสำหรับใส่เล่นกีฬา เพราะเขาอยากให้คนทั่วไปรู้จักแบรนด์ Oakley และเขาคิดว่าถ้านักกีฬาคนดังใส่แว่นตาของเขาลงสนาม จะเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์แบรนด์ให้อีกทาง

กรอบโค้งรูปตัว O

เขาออกแบบแว่นกันแดดสำหรับสวมใส่เวลาขี่จักรยาน โดยให้มีลักษณะโอบล้อมรอบใบหน้าของผู้ใส่ในลักษณะตัว O และใช้เลนส์ที่มีความโค้ง เพื่อให้มองเห็นได้ในทุกมุมมอง แต่แว่นตากันแดดต้นแบบก็ยังมีความเทอะทะ จนกระทั่งพัฒนามาถึงรุ่น Oakley O Frame เขาก็สามารถผลิตแว่นตากันแดดออกสู่ตลาดได้สำเร็จในปี 1980

แว่นตาที่ยืดหยุ่นได้

เมื่อประสบความสำเร็จในการทำแว่นตาสำหรับนักแข่งรถแล้ว เขาก็เริ่มออกแบบแว่นตากันแดดสำหรับกีฬาและกิจกรรมประเภทอื่นๆ โดยแว่นตาของ Oakley จะใช้วัสดุที่เป็นยาง Unobtainium ตรงที่รองจมูกและบริเวณขาแว่น ส่วนกรอบแว่นจะใช้วัสดุที่เรียกว่า O Matter ที่มีความเหนียวและทนทานกว่าพลาสติกทั่วไปถึง 3 เท่า ดังนั้น ถ้าเราเผลอนั่งทับ ทำหล่น หรือโดนรถเหยียบ แว่นตากันแดดของ Oakley ก็ยังจะคืนรูปกลับมาเหมือนเดิม

เลนส์พลูโตไนต์ ที่แข็งแกร่งจนกันกระสุน

นอกจากกรอบแว่นที่แข็งแรงแล้ว เลนส์ของแว่นตากันแดด Oakley ก็มีความพิเศษไม่แพ้กัน เพราะใช้เทคโนโลยีที่ทาง Oakley เองเรียกว่าพลูโตไนต์ ซึ่งเป็นการนำวัสดุหลายๆ ประเภทมาผลิตเป็นเลนส์แว่นตา ซึ่งมีน้ำหนักเบา แข็งแรง และยึดหยุ่นระดับที่เลนส์บางรุ่นของ Oakley นั้นแข็งแกร่งระดับกระสุนปืนทำอะไรไม่ได้เลย

เข้าตลาดหลักทรัพย์

ในปี 1995 Oakley พาตัวเองเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และทำรายได้ต่อปีถึง 21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีมูลค่ารวมของบริษัทในปีนั้นอยู่ที่ 820 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อมาในปี 2004 ทาง Oakley ได้เซ็นสัญญากับบริษัท Fox Racing เพื่อผลิตแว่นตาให้กับทางบริษัท และกลุ่ม The Oliver Peoples Group ซึ่งมีธุรกิจผลิตแว่นตาแฟชั่นในปี 2006

“ใครก็ตามที่ใส่แว่น คือลูกค้าของ Oakley”

Oakley เริ่มเป็นที่รู้จักในระดับวงกว้างมากขึ้น ด้วยการเข้ามาจับตลาดแฟชั่น และให้นักแสดงดังๆ ในฮอลลีวูดใส่ขณะรับบทในภาพยนตร์ เช่น ทอม ครูซ ใส่แว่นกันแดดรุ่น Romeo ใน Mission Impossible 2 หรือแว่นตาของไซครอป (แสดงโดย เจมส์ มาร์สเดน) จาก X-MEN 2 United ก็คือรุ่น X Metal Juliet และแว่นตากันแดดรุ่น Frogskins ก็กลายเป็นแว่นตากันแดดที่ถูกใจหลายๆ คน จนอยากเป็นเจ้าของ

—
FYI
—

จิม เจนนาร์ด ผู้ก่อตั้ง เป็นชาวเมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในการพัฒนาสินค้าต่างๆ ภายใต้แบรนด์ของ Oakley (ปลอกแฮนด์รถจักรยาน แว่นตา นาฬิกาข้อมือ และรองเท้า) เขาก็เปิดบริษัท Red Digital Cinema ในปี 2007 เพื่อผลิตกล้องถ่ายภาพยนตร์ที่มีขนาดเล็กแต่คุณภาพสูง ที่หลายๆ คนอาจคุ้นหูที่กับคำว่ากล้อง Red ซึ่งกล้องดังกล่าวใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง อย่าง The Amazing Spiderman, The Hobbit หรือ Prometheus

—
TIMELINE
—

ค.ศ. 1975 : ตั้งบริษัทด้วยเงินทุน 300 เหรียญสหรัฐฯ

ค.ศ. 1980 : ผลิตแว่นตากันแดดออกสู่ตลาดครั้งแรก

ค.ศ. 1995 : เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

ค.ศ. 2004 : เซ็นสัญญากับบริษัท Fox Racing

ค.ศ. 2017 : ออกคอลเล็กชัน Fall 2017 โดยมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับรุ่น Frogskinsc[io