เส้นทางรถไฟสาย Trans Siberian Railway เป็นหนึ่งในเส้นทางในฝันของใครหลายคน การเดินทางบนรถไฟสายนี้ตลอดการเดินทางบนม้าเหล็กบนเส้นทางกว่าเก้าพันกิโลเมตร เหมือนได้ล่องไปในดินแดนแห่งใหม่ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่แปลกตา จะว่าไปแล้วเส้นทางรถไฟสายนี้เปรียบเสมือนตัวเชื่อมของวัฒนธรรมและกาลเวลา และทลายดินแดนแนวเขตของการแบ่งพื้นที่ประเทศไปโดยสิ้นเชิง เส้นทางนี้จะให้ประสบการณ์อันล้ำค่าอย่างที่หาจากที่ไหนไม่ได้
“
YOU CAN FIND DOZENS OF BOOKS ABOUT PEOPLE TAKING THE TRANS-SIBERIAN RAILROAD. I KNEW I HAD TO DO SOMETHING DIFFERENT TO CROSS SIBERIA. TO DRIVE AND TO TALK WITH PEOPLE ALONG THE WAY, THAT WAS HOW I WROTE MY BOOK ‘GREAT PLAINS’. I DROVE AND CAMPED IN SIBERIA, BUT DID NOT HAVE A REAL PROGRAM.
”
IAN FRAZIER, AN AMERICAN WRITER AND HUMORIST
เส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1891 โดยความคิดริเริ่มของ เซอร์เกย์ วิตเต รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของรัสเซีย โดยเส้นทางสายนี้จะเชื่อมต่อดินแดนทางตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน โดยจะผ่านดินแดนของหลายประเทศ ทั้งรัสเซีย มองโกเลีย จีน และทะเลญี่ปุ่น สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1905 และได้ใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งสินค้า และเริ่มมีการขยายเส้นทางอื่นๆ ให้ครบ 4 เส้นทางในเวลาต่อมา
เส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียแบบดั้งเดิมนั้นจะเริ่มจากที่รัสเซียเป็นหลัก สถานีเริ่มต้นที่เมืองเชลยาบินสค์ และวิ่งผ่านเมืองหลักๆ ที่สำคัญในรัสเซียก่อนจะข้ามไปยังแมนจูเรีย และผ่านกลับเข้ามารัสเซียอีกครั้ง ต่อมามีการแบ่งเส้นทางหลักๆ ออกเป็น 4 เส้นทางก็คือ วิ่งจากมอสโกหรือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไปยังเมืองวลาดีวอสตอค เส้นทางที่สองคือสายทรานส์แมนจูเรีย ซึ่งมาบรรจบกับสายทรานส์ไซบีเรียที่เมืองตาร์สกายาเข้าสู่แมนจูเรีย แล้วมุ่งตรงไปยังกรุงปักกิ่งของจีน สายทรานส์มองโกเลียวิ่งมาเจอกับกับสายทรานส์ไซบีเรียที่เมืองอูลันอูเดบนฝั่งตะวันออกของทะเลสาบไบคาล ก่อนที่จะวิ่งไปยังทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงปักกิ่ง และเส้นทางสุดท้ายคือเชื่อมเส้นทางทรานส์ไซบีเรียไปทางตะวันตกของทะเลสาบไบคาล
สำหรับเมืองที่รถไฟแวะระหว่างทางก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น ทะเลสาบไบคาลในช่วงที่เป็นน้ำแข็ง เมืองอูลานบาตอร์ ทะเลทรายโกบี ที่นี่จะมีลักษณะของชุมชนและภูมิประเทศที่ต่างกัน ทั้งภูมิประเทศแบบร้อนแห้งอย่างทะเลทรายซึ่งผู้คนใช้ชีวิตแบบย้ายที่ไปเรื่อยๆ บริเวณนี้จะมีลักษณะเป็นชุมชนพื้นเมืองโบราณที่ไม่แตกต่างจากในอดีตมากนัก เนื่องจากความเจริญบางอย่างเข้าถึงยาก สำหรับทะเลสาบไบคาลนั้นมีความแตกต่างกันในสองช่วงเวลา นั่นคือช่วงที่น้ำเป็นน้ำแข็งกับช่วงที่ทะเลสาบละลาย ซึ่งจะให้ทัศนียภาพความงดงามแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
เส้นทางยอดฮิตของนักเดินทางนั้นจะเริ่มจากประเทศจีน และสิ้นสุดที่ดินแดนเหนือสุดของรัสเซีย โดยในระหว่างทางนั้นจะพบความสวยงามของพื้นที่ของเมืองรายทางที่สวยงามแปลกตา ไม่ว่าจะเป็นทะเลทรายโกบี ทุ่งหญ้าสเต็ป ท้องทุ่งเลี้ยงสัตว์ของมองโกเลีย ภูเขาสูงในอูลานบาตอร์ เทือกเขาแอลป์ในมองโกเลีย ทะเลน้ำแข็งของรัสเซีย จวบจนถึงดินแดนลึกลับของรัสเซียอย่างทะเลสาบไบคาล ที่เป็นแหล่งเก็บน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นอกจากความสวยงามแปลกตาของธรรมชาติแล้ว บนเส้นทางนี้ยังมีความงดงามของเมืองที่เต็มไปด้วยโบราณสถานและงานศิลปะที่สำคัญอย่างเมืองวลาดีวอสตอค เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หรือเมืองใหญ่อย่างปักกิ่ง สถานีรถไฟในแต่ละแห่งก็มีความสวยงามอลังการแตกต่างกัน อย่างในปักกิ่งก็จะเต็มไปด้วยผู้คน เน้นเรื่องประโยชน์ใช้สอย หรือในมองโกเลียนั้นสถานีรถไฟไม่ได้เน้นความสวยงามเท่ากับที่รัสเซียอย่างในมอสโกหรือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
อาหารเป็นหนึ่งในความแตกต่างที่ชัดเจนของแต่ละพื้นที่ หากเป็นคนชอบชิม ตลอดเส้นทางรถไฟสายนี้จะมีอาหารหลากหลายให้ได้ลอง ไม่ว่าอาหารมองโกเลีย อาหารของจีนตอนเหนือ ซึ่งแตกต่างจากภาคอื่นๆ ของประเทศ อาหารของรัสเซียในแต่ละภูมิภาคก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้พบได้ไม่บ่อยนัก บนรถไฟก็สามารถพบเจอผู้คนได้หลากหลาย หากคุณเป็นคนรักการสื่อสารกับคนอื่นอาจจะได้พบเจอเรื่องราวดีๆ ในการเดินทางครั้งนี้ก็เป็นได้ ความสวยงามอย่างหนึ่งที่ผู้ไปมาก่อนมักมาเล่าให้ฟังก็คือรถไฟยามค่ำคืนและดวงดาวที่เต็มฟ้าไร้ซึ่งแสงไฟประดิษฐ์ของมนุษย์มารบกวน ซึ่งเป็นความทรงจำที่จะตราตรึงใจและพาหัวใจย้อนกลับไปถึงการเดินทางไกลของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
_
What You Need To Know
_
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
57 ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10310
โทร. 0-2245-7043-4
การเดินทาง
สายการบินคาเธย์ แปซิฟิก www.cathaypacific.com
สายการบินไทย www.thaiairways.co.th
สายการบินเอมิเรตส์ www.emirates.com
การเดินทางไปยังประเทศจีนประมาณ 4 ชั่วโมง
การเดินทางจากประเทศจีนไปรัสเซียด้วยรถไฟทรานส์ไซบีเรีย 7 วัน